คำแถลงที่ผิดพลาดต้องถูกประนาม

(VOVworld) –  เวียดนามและกัมพูชาเป็นสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความผูกพันกันฉันท์พี่น้อง ในประวัติศาสตร์ เวียดนามกับกัมพูชาได้ร่วมกันเพื่อต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมและโค่นล้มระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และปัจจุบันก็ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาปท.ให้เจริญรุ่งเรืองแต่....

(VOVworld) –  เวียดนามและกัมพูชาเป็นสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความผูกพันกันฉันท์พี่น้อง ในประวัติศาสตร์ เวียดนามกับกัมพูชาได้ร่วมกันเพื่อต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมและโค่นล้มระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และปัจจุบัน ก็ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาปท.ให้เจริญรุ่งเรืองแต่บางทีก็ยังมีผู้ที่ไม่หวังดีออกมาแสดงความเห็นทร่ผิดพลาดเพื่อยุยงส่งเสริม และก่อความแตกแยกในสัมพันธไมตรีอันดีงามระหว่างสองประเทศซึ่งขัดกับความปรารถนาร่วมของทั้งสองประชาชาติ

คำแถลงที่ผิดพลาดต้องถูกประนาม  - ảnh 1
นายสม รังสี(Photo:AFP )

เวียดนามและกัมพูชามีสัมพันธไมตรีที่ดีมาช้านานที่ได้รับการสร้างสรรค์และทำนุบำรุงจากความปรารถนา ความตั้งใจ หยาดเหงื่อและเลือดเนื้อของชาวเวียดนามและชาวกัมพูชาหลายรุ่น ประวัติศาสตร์ต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช และเสรีภาพได้ทำให้ทั้งสองประชาชาติมีความผูกพันกันเพื่อร่วมกันมุ่งสู่เป้าหมายร่วมคือสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศและความผาสุขของประชาชน เวียดนามได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และเคียงบ่าเคียงไหล่กับกัมพูชาอยู่เสมอในความผันผวนของประวัติศาสตร์ทั้งยุครุ่งเรืองและยุคเสื่อมถอย โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของประเทศกัมพูชาภายใต้การปกครองของเขมรแดงพอลพต โดยตอบรับคำเรียกร้องของแนวร่วมสามัคคีกู้ชาติกัมพูชาและประชาชนกัมพูชา  ความช่วยเหลืออย่างบริสุทธิ์และแจ่มจรัสของเวียดนามได้ช่วยให้ประเทศและประชาชนกัมพูชาหลุดพ้นจากภัยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือในหลายด้านเพื่อให้ประเทศกัมพูชาฟื้นฟูและพัฒนา            
พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามให้ความสำคัญอยู่เสมอและมีความประสงค์ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีและสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้าน ยั่งยืน และยาวนานระหว่างประชาชนเวียดนามกับประชาชนกัมพูชา  ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์เพื่อนบ้าน สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองประเทศได้ประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นโดยได้เสร็จสิ้นการปักปันปักหลักพรมแดนและสร้างสรรค์แนวพรมแดนที่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและพัฒนา   เวียดนามรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่า กัมพูชาได้จัดการเลือกตั้งรัฐสภา สมัยที่๕ เมื่อวันที่๒๘กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นผลสำเร็จซึ่งผู้นำหลายประเทศ รวมทั้ง ผู้นำพรรค และรัฐเวียดนามได้ส่งสาส์น และโทรเลขแสดงความยินดีและแสดงความเชื่อมั่นว่า บนพื้นฐานผลของการเลือกตั้ง รัฐสภา และรัฐบาลชุดใหม่จะได้รับการจัดตั้งโดยเร็วเพื่อให้ประเทศกัมพูชามีเสถียรภาพ และพัฒนา เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีส่วนร่วมให้แก่สันติภาพ และเสถียรภาพของภูมิภาคและโลก
แต่เป็นที่น่าเสียใจเพราะหลังจากที่ประกาศผลการเลือกตั้งเบื้องต้น นายสม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือCNRP ที่ได้อันดับ๒ในการเลือกตั้งได้มีคำแถลงที่มีเจตนายุยงปลูกปั่นให้มีความแตกแยกผ่านกลไกสื่อสารมวลชนระหว่างประเทศซึ่งส่งผลเสียต่อสัมพันธไมตรีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาและขัดกับความจริงในประวัติศาสตร์โดยกล่าวว่า “ฮานอยเคยบุกรุกยึดครองดินแดนของกัมพูชา”ซึ่งเป็นคำแถลงที่ไร้เหตุผลที่ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเท่านั้นหากยังเป็นการดูหมิ่นไมตรีจิตมิตรภาพอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศที่ได้รับการสร้างจากเลือดเนื้อและน้ำตาอีกด้วย สิ่งที่ทำให้ประชามติรู้สึกมีความแปลกใจอีกก็คือ ข้อมูลที่ไร้มูลความจริงอื่นๆและขัดกับความจริงในประวัติศาสตร์ที่นายสม รังสีได้เสนอ ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ที่พิมพ์จำหน่ายเป็นภาษาจีนในกัมพูชานั้นได้ถูกหยิบยกขึ้นเสนออีกครั้ง เมื่อวันที่๔สิงหาคมบนเว็บไซต์บีบีซีภาคภาษาเวียดนามที่ว่า “เกาะทุกแห่งที่จีนพิทักษ์รักษาเป็นดินแดนของจีน”ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับได้เพราะในทางเป็นจริง เวียดนามมีพื้นฐานทางนิตินัยและหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างเพียงพอเพื่อพิสูจน์และยืนยันอธิปไตยที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของตนเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี เวียดนามมีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายในการมุ่งแก้ไขความขัดแย้งและการพิพาทในทะเลตะวันออกอย่างสันติบนพื้นฐานของการเคารพกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายททางทะเลปี๑๙๘๒และแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี เวียดนามมีความปรารถนาในสันติภาพ และร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆมีส่วนร่วมให้แก่สันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของภูมิภาคซึ่งความปรารถนาและความพยายามของเวียดนามได้รับการสนับสนุนและยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งในฐานะนักการเมือง นายสม รังสีก็ต้องเข้าใจความจริงในข้อนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี นายสม รังสีมีสิทธิเสนอคำแถลงของตนและของพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาแต่ถ้าคำแถลงนี้ขัดกับความจริงในประวัติศาสตร์และมีเจรนายุยง ปลูกปั่นและดูหมิ่นสัมพันธไมตรีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ก็จะไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชามติของทั้งสองประเทศและระหว่างประเทศอย่างแน่นอน เสียงพูดที่ผิดพลาด ไร้มูลความจริงและขัดหูของนายสม รังสีเป็นเพียงการรับใช้ความทะเยอทะยานทางการเมืองของเขาที่สมควรต้องถูกประนาม./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด