สร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาดีงามมากขึ้น

(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 2 มิถุนายน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก และคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้กลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการด้วยผลสำเร็จอย่างงดงามตามคำเชิญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นี่คือการเยือนสหรัฐครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ในฐานะผู้นำรัฐบาลและเป็นการพบปะครั้งแรกระหว่างผู้นำเวียดนามกับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งได้บรรลุผลงานสำคัญๆ สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

สร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาดีงามมากขึ้น - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก และประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป 

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก คือผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่เดินทางไปเยือนทำเนียบขาวในสมัยของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ นี่คือเหตุการณ์ที่มีความหมายสำคัญพิเศษ และสร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาเข้มแข็งมากขึ้นในเวลาที่จะถึง

ผลสำเร็จที่โดดเด่น

ผลสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดในการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกคือทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นที่จะธำรงและพัฒนาความสัมพันธ์ อีกทั้งบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับกรอบความร่วมมือใหม่ของความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศ

ในด้านการเมือง-การทูต ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะธำรงการพัฒนาความสัมพันธ์ ผลักดันการสร้างสรรค์ความไว้วางใจและแสวงหากรอบ พลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความร่วมมือเวียดนาม-สหรัฐ ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามโครงการร่วมมือหลายโครงการ รวมมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือทั้งสองฝ่ายได้บรรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เพื่อมุ่งสู่กรอบความร่วมมือใหม่ในทุกด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน บนหลักการมีความยุติธรรมและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ในการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันว่า เศรษฐกิจเวียดนามและสหรัฐสามารถสนับสนุนกันได้ดีกว่าการแข่งขัน มุ่งสู่การค้าที่มีความสมดุล เหมาะสมและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ในด้านความมั่นคง-กลาโหม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในด้านข่าวกรอง สร้างสรรค์ความสามารถและช่วยเหลือกู้ภัย ซึ่งสร้างความคาดหวังว่า ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งกรอบความร่วมมือใหม่ในด้านความมั่นคง-กลาโหม

สร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาดีงามมากขึ้น - ảnh 2การเจรจาระหว่างสองฝ่าย

ข้อใหม่ในแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม-สหรัฐ

ผลการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุกถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสองประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของทั้งสองฝ่าย พูดคุยถึงเนื้อหาแลกเปลี่ยนอย่างจริงจัง แสดงให้เห็นถึงความเสมอภาคและความเคารพระหว่างกัน โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม สหรัฐครั้งนี้มีข้อใหม่หลายข้อ เช่นความร่วมมือด้านข่าวกรอง อาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตและความสัมพันธ์สหรัฐ-อาเซียน

ก่อนการเยือนได้มีความคิดเห็นว่า นโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกของทางการสหรัฐยังไม่ชัดเจน แต่ด้วยผลสำเร็จในการเยือนนี้ของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐให้ความสำคัญต่อเอเชียแปซิฟิกอย่างแท้จริง รวมทั้งเวียดนามซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่นับวันมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ของสหรัฐในภูมิภาค การเยือนของนายกรัฐมนตรีได้พิสูจน์อีกครั้งถึงการคาดเดาที่ถูกต้องของเวียดนามนับตั้งแต่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคือ ถึงแม้พรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันขึ้นกุมอำนาจ เวียดนามก็ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อสหรัฐ ทั้งด้านทวิภาคี ความร่วมมือในภูมิภาคและโลก

สาส์นของเวียดนามผ่านการเยือน

อาจยืนยันได้ว่า การเยือนสหรัฐของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้ส่งสาส์นหลายข้อ โดยเฉพาะการเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัว และมีความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือ ธำรงความสัมพันธ์กับสหรัฐ ผ่านกิจกรรมพบปะกับวงการนักธุรกิจ นายกรัฐมนตรีอยากยืนยันว่า เวียดนามนับวันเปลี่ยนแปลงใหม่ เปิดประเทศด้วยความมุ่งมั่นและปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ สำหรับนักวิชการ สติปัญญาและชาวอเมริกัน นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย คนเวียดนามเป็นมิตร ประเทศเวียดนามเปิดกว้าง คล่องตัวและเป็นมิตร ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันการแลกเปลี่ยนประชาชน มีส่วนร่วมสำคัญต่อการผลักดันความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐ

สำหรับชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐคือถือชาวเวียดนามในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติเวียดนามได้ เรียกร้องให้ชาวเวียดนามร่วมมือสร้างสรรค์ปิตุภูมิให้เจริญรุ่งเรือง และสาส์นสำคัญสุดท้ายที่เวียดนามอยากส่งถึงประชาคมโลกคือความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐที่นับวันพัฒนาจะนำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองฝ่าย มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น การที่นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เยือนและประชุมที่สหประชาชาติและเข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ 40 ปีการเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น เป็นฝ่ายรุก มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อประชาคมโลก นี่ก็คือช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อหวนมองส่วนร่วมของเวียดนามต่อสหประชาชาติใน 4 ทศวรรษที่ผ่านมา มุ่งสู่อนาคตแห่งความร่วมมือที่ดีงาม และมีความประสงค์ว่า สหประชาชาติจะมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออกและภูมิภาค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด