เชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในภาคกลาง

(VOVWORLD) - การพัฒนาเขตและหน่วยงานต่างๆอย่างพร้อมเพรียงคือคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ในการประชุมพัฒนาการท่องเที่ยวภาคกลางและเขตที่เตยเงวียนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ เมืองเว้ นี่คือปัจจัยสำคัญเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การท่องเที่ยวในภาคกลาง-เขตเตยเงวียนพัฒนา มีส่วนร่วมสำคัญเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจภูมิภาคพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและเข้มแข็งในเวลาที่จะถึง
เชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในภาคกลาง - ảnh 1การประชุมสภาเขตเศรษฐกิจหลักภาคกลาง (VGP) 

 

การพัฒนาเขตและหน่วยงานต่างๆอย่างพร้อมเพรียงคือคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก

ภาคกลาง-เขตเตยเงวียนมี 19 จังหวัดและนคร มีประชากร 24 ล้านคน มีชายฝั่งทะเลยาวเกือบ 1 พัน 9 ร้อยกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมชายหาดและอ่าวทะเลที่มีความสวยงามระดับโลก มีสนามบิน 12 แห่งโดยเป็นสนามบินนานาชาติ 5 แห่ง นี่คือเขตสำคัญในแผนที่ท่องเที่ยวของเวียดนาม นอกจากนั้น เขตนี้ยังมีความได้เปรียบด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเนื่องจากมีมรดกโลก 14 รายการและเขตโบราณสถานพิเศษระดับชาติ 40 แห่ง ในปี 2018 ยอดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภาคกลางและเขตเตยเงวียนบรรลุ 58 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.5 ล้านคน

พัฒนาการท่องเที่ยวตามเขต

ถึงแม้มีความได้เปรียบและมีตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง แต่การท่องเที่ยวในภาคกลางและเขตเตยเงวียนในเวลาที่ผ่านมายังพัฒนาตามส่วนกว้างเป็นหลักด้วยการใช้ประโยชน์แหล่งทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งยังไม่ทัดเทียมกับสถานะและศักยภาพที่มีอีกมาก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแผนการและนโยบายการลงทุนและการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ล้าสมัย ในขณะที่เขตนี้มีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในเชิงการพักผ่อน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยวหมู่เกาะและทะเล การท่องเที่ยวมรดก ภูเขาและถ้ำ เป็นต้น เมื่อกล่าวถึงประเด็นนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก แสดงความเห็นว่า “จำเป็นต้องพัฒนาการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ การบริการด้านอาหาร ที่พักและบักเทิง และรวมไปถึงธุรกิจที่สนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เช่นการเงิน ธนาคาร ประกันภัย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การบริหารทรัพย์สิน โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยและต้องมุ่งหวังเพียงแต่ใช้ทรัพยากรจากท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ผมมีความประสงค์ว่า ท้องถิ่นต่างๆจะเข้าใจเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”

พร้อมกับการพัฒนาการท่องเที่ยวตามเขต จังหวัดต่างๆในภาคกลาง เขตเตยเงวียนต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเวียดนาม เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นเมือง แหล่งท่องเที่ยวควบคู่กับการสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ย้ำว่า “นอกจากแนะนำผลิตภัณฑ์พื้นเมือง หน่วยงานการท่องเที่ยวต้องพิจารณาการแนะนำวัฒนธรรมพื้นเมืองและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น ในภาคกลาง เขตเตยเงวียนและท้องถิ่นต่างๆล้วนมีวัฒนธรรมเฉพาะของตน ดังนั้นควรมีการสอดแทรกเรื่องราวด้านวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของประเทศ เรามีมรดก เขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะภาคกลางต้องพัฒนาการท่องเที่ยวโฮมสเตย์เพื่อช่วยให้โลกมีความเข้าใจประเทศและคนเวียดนามมากขึ้น รวมทั้งวัฒนธรรมพื้นเมือง สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน”

เชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในภาคกลาง - ảnh 2นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (VGP) 

ต้องส่งเสริมบทบาทของสถานประกอบการภาคเอกชนในการพัฒนาการท่องเที่ยว

ความสำเร็จในการพัฒนาการท่องเที่ยวภาคกลาง-เขตเตยเงวียนมีบทบาทสำคัญของนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ สถานประกอบการใหญ่ๆ รวมทั้งสถานประกอบการที่มีชื่อเสียง เช่น Sungroup และVingroup เป็นต้น บริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะสายการบิน 4 ราย รวมทั้ง VietnamAirlines และ Vietjet เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 80 เดินทางมาเที่ยวเวียดนามผ่านทางเครื่องบิน จากสถานการณ์ที่เป็นจริงดังกล่าว การมีกลไกส่งเสริมกลุ่มบริษัทใหญ่ๆให้ร่วมมือกันและเดินพร้อมกับรัฐบาลและจังหวัดต่างๆพัฒนาการท่องเที่ยวภาคกลาง เขตเตยเงวียนคือปัจจัยสำคัญ ดร. เจิ่นยูหลิก หัวหน้ากลุ่มให้คำปรึกษาเชื่อมโยงการพัฒนาเขตริมฝั่งทะเลภาคกลางได้แสดงความเห็นว่า “สำหรับหน่วยงานการท่องเที่ยว บทบาทของเศรษฐกิจภาคเอกชนสำคัญกว่า ดูเหมือนว่า ผู้เดินหน้าพัฒนาการท่องเที่ยวคือสถานประกอบการภาคเอกชนภายในประเทศ ต้องมีนโยบายเพื่อให้สถานประกอบการเหล่านี้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ถ้าหากองค์กรภาคเอกชนเหล่านี้มีความผูกพันกับชุมชนและสถานประกอบการขนาดย่อมและสร้างการขยายผลก็จะมีความได้เปรียบเพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาการท่องเที่ยว”

นอกจากการลงทุนที่เข้มแข็งมากขึ้นในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในภาคกลางและเขตเตยเงวียน นายกรัฐมนตรียังลงนามมติอนุมัติการออกวีซ่าอิเล็กทรอกนิกส์ให้แก่ 34 ประเทศ ทำให้จำนวนประเทศและดินแดนที่เวียดนามอนุมัติการออกวีซ่าอิเล็กทรอกนิสก์เพิ่มขึ้นเป็น 105 ประเทศ

การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลาง-เขตเตยเงวียน ปี 2018 รายได้จากการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้คิดเป็นร้อยละ 19 ของรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศ ในเวลาที่จะถึง ถ้าหากจังหวัดต่างๆในภาคกลาง และเขตเตยเงวียนสามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเขตและเขตชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างแรงดึงดูดใจเพื่อให้สถานประกอบการเพิ่มการลงทุน แน่นอนว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคนี้จะพัฒนามากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด