(VOVworld) –  การซ้อมรบร่วมประจำปีระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐภายใต้รหัส "อุลชี ฟรีดอม การ์เดียน”ได้มีขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้โดยไม่สนใจต่อการข่มขู่จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีซึ่งการซ้อมรบครั้งนี้ก็ไม่เหมือนครั้งก่อนๆเพราะเป็นการทดลองความพร้อมในการรับมือกับการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

การซ้อมรบร่วมระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับสหรัฐทำให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีไม่พอใจ ( Photo:Telegraph)

ในการซ้อมรบครั้งก่อนๆ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้มีปฏิกิริยาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่วนครั้งนี้ ระดับความไม่พอใจก็อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเพราะถือว่า การซ้อมรบร่วมเป็นการเตรียมให้แก่สงครามนิวเคลียร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจึงได้ขู่ว่า จะทำการโจมตีใส่สาธารณรัฐเกาหลีไม่ว่าเวลาใดและเตือนว่า กรุงโซลและวอชิงตันจะต้องแลกด้วยราคาแพงต่อปฏิบัติการของตน

การซ้อมรบขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

นี่เป็นซ้อมรบที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ของทั้งสองประเทศและก็เป็นการซ้อมรบร่วมที่ใหญ่ที่สุดนับแต่มีมา ยุทธศาสตร์ซ้อมรบร่วมครั้งนี้เป็นไปตามมติการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมระหว่างสองประเทศเมื่อปี๒๐๑๓เพราะทั้งสองประเทศเห็นว่า ต้องประสานกันเพื่อรับมือกับเปียงยาง

ก่อนการซ้อมรบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้เสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมด่วนแต่ข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบ สาธารณรัฐเกาหลีมีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายคือ การซ้อมรบร่วมประจำปีเป็นกิจกรรมร่วมมือธรรมดาระหว่างกรุงโซลกับกรุงวอชิงตันเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการเตรียมพร้อมสู้รบ ส่วนกรุงเปียงยางแถลงว่า ถ้าสหประชาชาติจงใจเมินเฉย ประเทศนี้จะเลือกทางเดินด้วยตนเองและยืนยันว่า ตราบใดที่สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีไม่ยกเลิกการซ้อมรบร่วมที่มีเป้าหมายเพื่อทำการยั่วยุตราบนั้นสันติภาพ และความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีก็จะไม่ได้รับการค้ำประกัน ต่อการตำหนิติติงของเปียงยาง กรุงโซลก็ได้ออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวว่า จะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อทุกการกระทำที่ยั่วยุจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

คำเตือนที่แข็งกร้าว

ความตึงเครียดได้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีในหลายปีที่ผ่านมาและความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ย่ำแย่หลังการยิงจรวดของกรุงเปียงยางครั้งต่างๆ  ก่อนการซ้อมรบร่วมนี้และก่อนการเสด็จเยือนสาธารณรัฐเกาหลีของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่๑เพื่อประกอบพิธีมิสซา“เพื่อความปรองดอง”ระหว่างสองภาคเกาหลี เปียงยางได้ทดลองยิงจรวดพิสัยใกล้๕ลูกในเขตทะเลทางทิศตะวันออก ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ทดลองยิงจรวด๑๐๕ลูกรวมทั้งหมด๑๗ครั้ง และสิ่งที่น่าสนใจคือ ความเร็ว ระยะทางและพลังการทำลายของจรวดที่ทดลองยิงนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น เปียงยางยังเตือนว่า ทุกกองกำลังทหารที่เข้าร่วมการซ้อมรบนี้ รวมทั้งทำเนียบขาว เพนตากอน ทำเนียบประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและฐานทัพสหรัฐในสาธารณรัฐเกาหลีและในทั่วโลกจะกลายเป็นเป้าหมายของอาวุธโจมตีที่ทันสมัยของเปียงยาง

ก้าวถอยหลังในความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองภาคเกาหลีให้ดีขึ้น

แต่ทั้งนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธเจตนาที่ดีของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนสเกาหลีที่ปรากฎให้เห็นในการเจรจาต่างๆตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันโดยเมื่อเดือนก่อน เปียงยางได้ตัดสินใจส่งคณะนักกีฬารวม๗๐๐คนไปร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่๑๗ ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีในเดือนตุลาคมและกำลังพิจารณาถึงแผนเข้าร่วมการสัมมนาอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพครั้งที่๑๒ ที่จะจัดขึ้นที่เปียงจางสาธารณรัฐเกาหลีในระหว่างวันที่๒๙กันยายนถึงวันที่๑๙ตุลาคมแต่ความตึงเครียดในปัจจุบันได้ทำลายความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองภาคเกาหลีให้ดีขึ้นเพราะการเจรจาระดับสูงระหว่างสองภาคเกาหลีเกี่ยวกับการรวมญาติของครอบครัวที่ต้องเคยพลัดพรากจากกันเนื่องจากสงครามเกาหลีช่วงปี๑๙๕๐ถึงปี๑๙๕๓ไม่ได้รับการจัดขึ้นตามแผนที่วางไว้ในวันที่๑๙สิงหาคม

ความหวังเกี่ยวกับการที่ทั้งสองภาคเกาหลีจะรวมกันเป็นครอบครัวและประชาชาติเดียวกัน บนเจตนารมณ์แห่งการปรองดองชาติ ดังคำสวดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่๑ยากที่จะกลายเป็นความจริง เพราะสันติภาพจะบรรลุได้ผ่านการสนทนาเท่านั้นมิใช่การสำแดงกำลังที่แข็งแกร่งแต่น่าเสียดายที่ความตึงเครียดในปัจจุบันได้ทำให้การแสวงหามาตรการเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างสองภาคเกาหลีประสบความลำบากมากขึ้น ./.