เวียดนามผลักดันการปฏิบัติการเชื่อมโยง one stop service แห่งชาติโดยเร็ว
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWORLD) - การปฏิบัติระเบียบเชื่อมโยง one stop service แห่งชาติได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2015 และจนถึงขณะนี้มีกระทรวงและหน่วยงาน 11 แห่งที่เชื่อมโยงกับระบบนี้ โดยระเบียบราชการนับร้อยรายการได้รับการปรับปรุงให้กระทัดรัด และอำนวยความสะดวกด้านการค้าอย่างเห็นได้ชัดในเบื้องต้น เพื่อบรรลุเป้าหมาย ระเบียบราชการร้อยละ 80 รายการได้รับการปฏิบัติตามกลไก one stop service แห่งชาติในไตรมาสแรกของปี 2019 นั้น การเชื่อมโยงระหว่างกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังได้รับการผลักดันเพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ระเบียบราชการที่โปร่งใส
สถานประกอบการกรอกแบบฟอร์ม ณ สำนักงานศุลกากรกรุงฮานอย (vietnamplus) |
ระเบียบ one stop service แห่งชาติได้รับการเปิดตัวและปฏิบัติในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการพัฒนาอย่างรวดเร็วของการค้าโลก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่สถานประกอบการเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมอำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมบริหารภาครัฐ การค้าและนำการค้าอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ชีวิตอีกด้วย
ประสิทธิภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากกลไก one stop service แห่งชาติ
โครงการกลไกเชื่อมโยง one stop service แห่งชาติ โดยทบวงศุลกากรเป็นผู้รับผิดชอบได้รับการปฏิบัติตั้งแต่ปี 2015 จนถึงขณะนี้ นอกจากระเบียบสินค้าที่ต้องสำแดงของกระทรวการคลังแล้วก็ยังมีเกือบ 47 ระเบียบการของ 11 กระทรวงและหน่วยงานที่ได้รับการพัฒนาเป็นระเบียบone stop service แห่งชาติ และในเร็วๆนี้จะมีกว่า 100 ระเบียบการที่จะได้รับการพัฒนาเป็นระเบียบ one stop service แห่งชาติ
สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การปฏิบัติระเบียบ one stop service แห่งชาติได้ส่งผลอย่างเข้มแข็งต่อกิจกรรมการนำเข้าส่งออก โดยเฉพาะตามรายงานสถิติของทบวงศุลกากร เมื่อปี 2017 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของสถานประกอบการได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย ฝ่ามเยวียนเฟือง รองอธิบดีกรมเทคโนโลยีสารสนเทศและสถิติศุลกากรได้ยืนยันว่า “การปฏิบัติระเบียบ one stop service แห่งชาติ ช่วยให้สถานประกอบการประหยัดค่าใช้จ่าย เวลาและสิ่งที่สำคัญกว่าคือระเบียบ one stop service แห่งชาติได้รับการปฏิบัติผ่านรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิคส์ โดยลดเวลาติดต่อระหว่างสถานประกอบการกับสำนักงานบริหารภาครัฐ ซึ่งช่วยจำกัดความไม่สะดวกต่างๆ นอกจากนั้น เอกสารมีความโปร่งใสมากขึ้น ความไว้วางใจต่อข้อมูลและความโปร่งใสก็เพิ่มสูงขึ้น จนนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารของสำนักงานภาครัฐ”
การเชื่อมโยง one stop service ทำให้ระยะเวลาเตรียมเอกสารนำเข้า 1 ฉบับของสถานประกอบการลดลง 30 ชั่วโมง จาก 106 ชั่วโมงลงเหลือ 76 ชั่วโมง และเอกสารส่งออกลดลง 33 ชั่วโมง และประเมินว่า จากเอกสารนำเข้าส่งออกนับล้านฉบับในปี 2017 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเตรียมเอกสารได้เกือบ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การปฏิบัติระเบียบ one stop service แห่งชาติได้เกิดประสิทธิผลที่ยิ่งใหญ่ให้แก่งานด้านการปฏิรูประเบียบราชการในเบื้องต้น ผ่านการปฏิบัติระเบียบ one stop service แห่งชาติ สถานประกอบการไม่ต้องติดต่อโดยตรงกับสำนักงานภาครัฐเพื่อทำระเบียบการ ดังนั้นจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาในการสำแดงสินค้า นาย เหงียนหายแอง ผู้อำนวยการบริษัทนำเข้าส่งออก IEA ได้เผยว่า “เมื่อก่อน การทำระเบียบศุลกากรต้องมีใบอนุญาตและเอกสารจดทะเบียน และนำเอกสารเหล่านี้ไปยื่นต่อสำนักงานศุลากร แต่ผ่านเว็ปไซต์สารสนเทศ one stop service แห่งชาติ ทางบริษัทของผมลงทะเบียนออนไลน์เท่านั้น และได้รับเอกสารออนไลน์ เมื่อติดต่อกับสำนักงานศุลกากรก็แค่แสดงหมายเลขทะเบียน ซึ่งช่วยประหยัดเวลา บุคลากร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ”
ปฏิรูปในทุกด้าน สร้างสรรค์ระเบียบราชการที่เปิดเผยและโปร่งใส
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลได้วางไว้คือ เวียดนามอยู่ในกลุ่ม 4 ประเทศที่มีบรรยากาศการแข่งขันที่สะดวกในกลุ่มอาเซียน ดังนั้นเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่กิจกรรมการนำเข้าส่งออกที่นับวันพัฒนา มีส่วนร่วมต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศ เวียดนามกำลังจัดทำกรอบทางนิตินัยอย่างพร้อมเพรียงเพื่อผลักดันกระบวนการเชื่อมโยงระเบียบ one stop serviceแห่งชาติ โดยตั้งเป้าไว้ว่า จนถึงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2019 ระเบียบราชการเกือบร้อยละ 80 จะได้รับการปฏิบัติตามระเบียบ one stop service แห่งชาติ และจนถึงปี 2020 ระเบียบราชการทุกฉบับที่เกี่ยวข้องถึงการบริหารภาครัฐต่อสินค้านำเข้าส่งออก สินค้าต้องสำแดงและยานพาหนะเข้าออกเมืองได้รับการปฏิบัติผ่านการเชื่อมโยงระเบียบ one stop service แห่งชาติภายใต้รูปแบบการให้บริการออนไลน์ระดับ 4 ควบคู่กันนั้นคือปฏิรูปกิจกรรมการตรวจสอบเชิงวิชาการ ตรวจสอบ ปรับลดและปฏิรูปรายการสินค้า ผลิตภัณฑ์ร้อยละ 50 รายการและระเบียบตรวจสอบเชิงวิชาการ
ในฐานะสมาชิกที่เข้มแข็งของอาเซียนในการปฏิบัติระเบียบ one stop service ของอาเซียนนั้น นับตั้งแต่จัดทำร่างมติและพิธีสารที่ระบุเนื้อหาของสนธิสัญญาเข้าในการปฏิบัติ เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมกลุ่มปฏิบัติงานอาเซียน พยายามร่วมกับประเทศต่างๆปฏิบัติระเบียบ one stop service ของอาเซียนเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติเมื่อมีทั้งหมด 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนให้สัตยาบัน การผลักดันการปฏิบัติระเบียบ one stop serviceแห่งชาติตามแนวทางปฏิรูปในทุกด้านเพื่อดำเนินกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามต่อไป.
Anh Huyen/VOV5