คณะสื่อไทยรายงานข่าวเกี่ยวกับภาพลักษณ์ด้านอุตสาหกรรม ประวัติศาสตร์ และสังคมเวียดนาม
(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่ 27-30 พฤษภาคม กรมประชาสัมพันธ์นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่กรุงฮานอยและนครไฮฟองเพื่อศึกษาและผลิตผลงานเผยแพร่ภาพลักษณ์ด้านอุตสาหกรรม ประวัติศาสตร์ และสังคมเวียดนามแก่ประชาชนไทย
นาย เล มิ่ง ไฮ่ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าเรือเตินฝู ให้การต้อนรับคณะฯ
(Photo:กองการต่างประเทศ กปส.)
|
ในลงพื้นที่ท่าเรือเตินฝู ในนครไฮฟอง คณะฯได้เดินทางไปเยือนท่าเรือเตินฝู ซึ่งเป็นหนึ่งในห้ากลุ่มท่าเรือไฮฟอง และนับเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของเวียดนาม โดยเน้นการพัฒนาในรูปแบบ “ท่าเรือดิจิทัล” และ “ท่าเรือสีเขียว” ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในทุกขั้นตอน เช่น ระบบ smartgate ที่ยึดหลัก “ไม่ใช้คน ไม่หยุดทำงาน ไม่ต้องใช้เอกสาร” พร้อมระบบ ePort สำหรับดำเนินพิธีการศุลกากรและชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม ท่าเรือมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าเป็นระบบไฟฟ้า ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลดการใช้เชื้อเพลิงดีเซล พร้อมระบบบำบัดน้ำเสีย แยกขยะ และควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด รวมถึงมีมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉินต่างๆ รวมทั้งเหตุน้ำมันรั่วไหล คณะฯยังได้สัมภาษณ์นาย เล มิ่ง ไฮ่ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าเรือเตินฝู ซึ่งนาย เล มิ่ง ไฮ่ ได้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย–เวียดนามกำลังพัฒนาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และหวังว่าความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต
คณะสื่อมวลชนไทยสัมภาษณ์พันเอกเฉิ่น ห่ง อดีตช่างภาพแห่งหนังสือพิมพ์กองทัพประชาชนเวียดนาม (Photo:กองการต่างประเทศ กปส.) |
ต่อจากนั้น คณะฯได้ให้สัมภาษณ์พันเอกเฉิ่น ห่ง อดีตช่างภาพแห่งหนังสือพิมพ์กองทัพประชาชนเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ติดตามถ่ายภาพพลเอกหวอเงวียนย้าป นายพลที่เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนามที่บัญชาการรบสมรภูมิสำคัญหลายแห่ง ซึ่งพันเอกห่ง เล่าถึงการทำงานตั้งแต่เข้าร่วมกองทัพเวียดนาม และติดตามชีวิตพลเอกหวอเงวียนย้าป จนผลงานล่าสุดคือภาพถ่ายเหล่าผู้เป็นแม่ที่สูญเสียลูกๆไปในสงคราม พร้อมย้ำว่าสงครามเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ว่าฝ่ายไหนต่างก็เป็นผู้สูญเสีย การมุ่งหาอนาคตโดยสันติเป็นสิ่งที่ดีกว่า พร้อมยกตัวอย่าง แม้ในอดีตไทยกับเวียดนามต่างก็เคยปะทะกันมาก่อน แต่ทุกวันนี้ก็เป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกัน แม้แต่ฝรั่งเศสที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคม ปัจจุบันก็เป็นพันธมิตรของเวียดนาม
พันเอกห่ง มอบหนังสือภาพของพลเอกหวอเงวียนย้าปแก่คณะผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์เป็นที่ระลึก (Photo:กองการต่างประเทศ กปส.) |
คณะฯได้ลงพื้นที่หมู่บ้านศิลปาชีพลงรักขัดเงา "หะท้าย" (Photo:กองการต่างประเทศ กปส.) |
คณะฯได้ลงพื้นที่หมู่บ้านศิลปาชีพลงรักขัดเงา "หะท้าย" (Ha Thai) กรุงฮานอยและสัมภาษณ์นายเฉิ่น กง ซุง ศิลปินประจำโรงงานลงรักขัดเงา ซึ่งนายเฉิ่น กง ซุงได้เปิดเผยว่า หมู่บ้านหะท้ายมีชื่อเสียงด้านงานศิลปะ "ลงรักขัดเงา" มาอย่างยาวนาน นอกจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเรียนรู้และสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลป์อย่างใกล้ชิดมานานกว่า 10 ปี โดยร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวในเวียดนาม ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากนักท่องเที่ยวจากไทยสนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ในเวียดนามได้โดยตรง แม้ภายในโรงงานของนายซุงจะมีศิลปินเพียง 3 คน แต่ทุกชิ้นงานที่สร้างสรรค์จะต้องประสานกับโรงงานอื่น ๆ ภายในหมู่บ้าน ซึ่งมีมากกว่าร้อยแห่ง โดยแต่ละแห่งมีหน้าที่รับผิดชอบขั้นตอนที่แตกต่างกัน โรงงานของนายซุงรับผิดชอบเฉพาะการวาดลวดลายลงบนพื้นผิว ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานลงรัก โดยหมู่บ้านหะท้ายสามารถผลิตชิ้นงานลงรักเพื่อขายได้ราวปีละ 1 ล้านชิ้น ปัจจุบันงานศิลป์ลงรักจากหมู่บ้านหะท้ายได้รับความนิยมสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส และประเทศในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงลูกค้าในเวียดนามที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ลงรักในพิธีกรรมและการเคารพสักการะ เช่น ภาพพระพุทธรูป ส่วนลูกค้าต่างชาติมักสั่งซื้อเพื่อเป็นของประดับตกแต่งหรือของที่ระลึก
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ของความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนบุคลากรภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่มีมายาวนาน ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสถานีวิทยุ Voice of Vietnam: VOV โดยทั้งสองหน่วยงานได้ผลัดกันทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม ในครั้งนี้ สถานีวิทยุ VOV รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมภายใต้หัวข้อ “เสียงสะท้อนเมืองเวียดนาม: บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนผ่าน” (Urban Echoes: Vietnamese Cities in Transition).