ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อหน่วยงานสัตวแพทย์ศาสตร์

( VOVworld )- ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยและอาจารย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และป่าไม้ท้ายเงวียนได้ทุ่มเท ๔๐ ปีของชีวิตเพื่อภารกิจวิจัยวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานสัตวแพทย์ศาสตร์เวียดนาม   จากผลงานในการสอนและการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ ศ.ดร.เหงวีน ถิ่ กิม ลานได้รับเกียรติเป็นตัวแทนของหน่วยงานการศึกษาและฝึกอบรมเวียดนามเข้าร่วมการประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติทั่วประเทศครั้งที่ ๙ ณ กรุงฮานอยเมื่อไม่นานมานี้

( VOVworld )- ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยและอาจารย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และป่าไม้ท้ายเงวียนได้ทุ่มเท ๔๐ ปีของชีวิตเพื่อภารกิจวิจัยวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานสัตวแพทย์ศาสตร์เวียดนาม   จากผลงานในการสอนและการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ ศ.ดร.เหงวีน ถิ่ กิม ลานได้รับเกียรติเป็นตัวแทนของหน่วยงานการศึกษาและฝึกอบรมเวียดนามเข้าร่วมการประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติทั่วประเทศครั้งที่ ๙ ณ กรุงฮานอยเมื่อไม่นานมานี้


ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อหน่วยงานสัตวแพทย์ศาสตร์ - ảnh 1
ดร.ลานซ้ายสุดในห้องวิจัยวิทยาศาสตร์

ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานเล่าว่า ภายหลังเรียนจบมัธยมปลาย ณ จังหวัดบั๊ก นินห์ ท่านได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หมายเลขหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันคือสถาบันเกษตรศาสตร์เวียดนาม ในระหว่างเรียนท่านได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์และเพื่อนสนิททำให้ท่านสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้  ทั้งนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ท่านเรียนรู้โดยเฉพาะวิชาที่ชื่นชอบ และนั้นได้ทำให้ท่านผูกพันกับอาชีพการสัตวแพทย์ตั้งแต่นั้นมาและกลายเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยโดยไม่ตั้งใจ  ผลงานที่ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิน ลานทิ้งไว้ภายหลังทำงานในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และป่าไม้มาเกือบ ๔๐ ปีได้แก่ หลักสูตรการเรียนการสอน ๑๘ ฉบับ เอกสารทางวิชาการประกอบการเรียนการสอนและเอกสารประกอบการเรียนการสอนให้แก่การผลิตบุคลากรระดับอุดมศึกษา  มีเอกสารทางวิชาการหลายฉบับได้ลงในนิตยสารวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและท่านยังเป็นหัวหน้า ๑๕ โครงการทางวิชาการที่ได้การรับรองว่า เป็นผลงานที่ดีและยอดเยี่ยม ซึ่งได้นำมาใช้ในการป้องกันและปราบปรามโรคระบาดให้แก่ปศุสัตว์และสัตว์ปีกในจังหวัดภูดอยและเขตเขาตอนเหนือของประเทศ อันเป็นการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาหน่วยงานสัตวแพทย์  ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานเล่าถึงประสบการณ์ในการวิจัยวิทยาศาสตร์ว่า  “ ทำอะไรต้องทำจากใจจริงและมีความหลงไหล  เมื่อวางแผนทำก็ต้องสู้จนสุดความสามารถเพื่อประสิทธิผลสูงสุด นี่คือสิ่งที่ดิฉันได้ทำ และจากความพยายามดิฉันจึงสามารถประสบผลสำเร็จทั้งงานด้านการฝึกอบรมและการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ ”

ในจำนวน ๑๕ โครงการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์นั้น ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานทุ่มเทมากที่สุดให้แก่โครงการค้นหาเชื้อทริพาโนโซมาที่ก่อให้เกิดโรคในปศุสัตว์ในจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือประเทศเวียดนาม ค้นพบแผนที่ระบาดวิทยา  การค้นพบแมลงดูดเลือดและเป็นพาหะนำโรค การผลิตสารก่อภูมิต้านทานและผลิตอุปกรณ์เคไอทีเพื่อวินิจฉัยโรคตลอดจนจัดทำร่างและใช้แผนการรักษาโรคทริพาโนโซม ซึ่งได้รับความชื่นชมจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญและวงการนักวิชาการ อุปกรณ์เคไอทีสามารถวินิฉัยโรคของปศุสัตว์โดยใช้การตรวจตัวอย่างเลือดและวิเคราะห์สาเหตุของโรคได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้นและการรักษาโรคก็ประสบประสิทธิผลมากขึ้นเมื่อเทียบกับหลายวันเมื่อก่อนนี้  คุณเจิ่น ถิ่ ทุ้ย งา หัวหน้าห้องวินิจฉัยและปฏิบัติการวิจัย สาขาสัตวแพทย์ของสำนักงานเกษตรและพัฒนาชนบทจังหัดท้าย เงวียน เปิดเผยว่า  “ อุปกรณ์เคไอทีให้ผลแม่นยำ และสามารถวินิจฉัยโรคได้หลายโรคภายในเวลาอันสั้น  การวินิจฉัยและตรวจพบโรคอย่างรวดเร็วและแม่นยำทำให้สามารถแก้ไขปัญหาโรคระบาดได้เพื่อป้องกันฝูงสัตว์เลี้ยงจากโรคระบาดซึ่งให้ประสิทธิผลทางเศรษฐกิจมหาศาล ”

ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อหน่วยงานสัตวแพทย์ศาสตร์ - ảnh 2
ดร.ลานได้รับรางวัลโกวาแลฟสกายา

จากผลงานในการสอน การบริหารและการศึกษาวิจัย ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นครูยอดเยี่ยมและได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์แรงงานชั้นสาม พร้อมรางวัลและหนังสือชมเชยจากนายกฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาท่านได้รับรางวัลโกวาแลฟสกายาประจำปี ๒๐๑๔ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักวิทยาศาสตร์หญิงและท่านก็เป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานคุยว่า รางวัลใหญ่สุดสำหรับท่านคือ ผลการวิจัยที่นำมาทดลองประสบความสำเร็จและนำมาใช้ในชีวิตเพื่อป้องกันโรคระบาดให้แก่สัตว์เลี้ยงทุกชนิด อันเป็นการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ที่ให้ประสิทธิผลสูง ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานกล่าวว่า  “ โครงการต่างๆของของหน่วยงานสัตวแพทย์ต้องนำมาประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันโรคระบาดในท้องถิ่นต่างๆ  สำหรับสัตวแพทย์อย่างพวกเรา สิ่งที่พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ได้คือ การปกป้องสัตว์เลี้ยงให้แก่เกษตรกร   สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขคือ ผลการวิจัยได้นำมาใช้ในชีวิตเพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้นและส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาความยากจนในเขตที่ห่างไกล เขตทุรกันดารและเขตเขาภาคเหนือของประเทศ ”

แม้ปีนี้มีอายุ ๖๐ ปีแล้วก็ตาม แต่ศ.ดร.เหงวียน ถิ่ กิม ลานยังคงหลงไหลการวิจัยวิทยาศาสตร์เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักศึกษา ท่านยังเดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆเพื่อเก็บตัวอย่างปฏิบัติการวิจัยและช่วยรักษาโรคให้แก่ฝูงสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ของชาวบ้าน  ท่านยังหวังว่า จะมีโครงการวิจัยในการเลี้ยงสัตว์และสัตวแพทย์ศาสตร์มากขึ้นเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของสัตว์เลี้ยง อันเป็นการมีส่วนร่วมต่อภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด