ท่านนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย (CTJ): กระชับความสัมพันธ์มิตรภาพผ่านสื่อมวลชนไทย-เวียดนาม

(VOVWORLD) - งานฉลองครบรอบ 100 ปีวันหนังสือพิมพ์ปฏิวัติเวียดนามเป็นนิมิตหมายที่สำคัญบนเส้นทางการพัฒนาที่รุ่งโรจน์ของหนังสือพิมพ์ปฏิวัติเวียดนาม การเข้าร่วมงานของแขกต่างชาติ รวมทั้ง ท่านนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยกับสมาคมหนังสือพิมพ์เวียดนาม ในโอกาสนี้ ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์ท่านนคร วีระประวัติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนเวียดนามกับไทย ตลอดจนความประทับใจที่มีต่องานครั้งนี้
 
 
ท่านนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย (CTJ): กระชับความสัมพันธ์มิตรภาพผ่านสื่อมวลชนไทย-เวียดนาม  - ảnh 1ท่าน นคร วีระประวัดิ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กับท่าน เลก๊วกมิง นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม

 

ผู้สื่อข่าว: สวัสดีค่ะท่าน นคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบปะและสัมภาษณ์ท่านที่กรุงฮานอย ในโอกาสมาเวียดนามและเข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปีหนังสือพิมพ์ปฏิวัติเวียดนาม ท่านมีความประทับใจอย่างไรคะ

ท่าน นคร วีระประวัติ:  ทั้ง 3 รายการที่ได้เข้ามาร่วมในพิธีที่จัดงานครั้งนี้ ก็รู้สึกว่า ตื่นเต้นและประทับใจ แล้วก็มีความรู้สึกว่า ยิ่งใหญ่กว่าอีกหลายประเทศในอาเซียนด้วยกันที่เคยไปร่วมงานมา ในฐานะเป็นสื่อ แล้วว่าทางสมาคมหนังสือพิมพ์นักข่าวของเวียดนามจัดได้ดีมาก เพราะว่าทุกอย่างในฐานะที่คนก็เป็นคนชอบจัดงาน เคยจัดงาน สังเกตว่า ตามเวลา เสียเวลา ติดขัดเทคนิคก็แทบจะไม่มีให้เห็นเลยว่าทุกอย่างได้เป็นไป perfect สมบูรณ์ในทุกอย่างในการจัดงานของสมาคมครั้งนี้ ก็ชื่นชมและยินดีด้วย

ผู้สื่อข่าว: ท่านประเมินบทบาทของสื่อมวลชนเวียดนามในปัจจุบันและในภูมิภาคอย่างไร?

ท่าน นคร วีระประวัติ: ผมรู้สึกประทับใจที่สื่อเวียดนามได้เจริญก้าวหน้ามาจากเล็กๆในอดีต จากปีแรก เมื่อร้อยปีที่แล้วมาจนถึงทุกวันนี้ก็ได้ปรับปรุงพัฒนาก้าวหน้าต่อสู้กับอะไรทุกอย่าง หลายสิ่งหลายอย่าง ที่อาจจะต่อสู้มากกว่าสื่อของหลายประเทศในอาเซียนหรือแม้จะสื่อประเทศไทยเองก็ต่อสู้มากกว่า แต่ละประเทศก็มีวิธีการหรือว่าการดำเนินงานที่อาจจะแตกต่างกันไป คือขึ้นอยู่กับประเทศ เพราะว่าเวียดนามเป็นประเทศสังคมนิยม อีกหลายประเทศเป็นประชาธิปไตย แต่ว่ารู้สึกว่าความอิสระในการแสดงออกทางสื่อก็มีเสรีภาพดีเหมือนกับทุกประเทศ เพราะว่าเวียดนามก็เปิดโอกาสให้สื่อได้แสดงออกอย่างเต็มที่ เปิดให้เสรีภาพแก่ผู้ทำงานด้านสื่อได้อย่างเต็มที่ มีการแสดงออกในการเขียน ในการพูด ดีใจที่สื่อในเวียดนามกับสื่ออื่นเราสามารถร่วมมือกันได้ ทำงานกันได้กับสื่อในประเทศต่างๆในอาเซียนด้วยกัน

ผู้สื่อข่าว: ในโลกที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาของ AI สื่อมวลชนเวียดนามและไทย ตลอดจนสื่อมวลชนทั่วโลกควรปรับตัวอย่างไร?

ท่าน นคร วีระประวัติ: ทุกคนจะต้องมีความกระตือรือร้น  มีการพัฒนาตัวเอง ให้เข้ากับเทคโนโลยีที่มันมาใหม่ เพราะฉะนั้นเราจะล้าหลังไม่ได้ สมัยก่อน เราอาจจะทำข่าว จดข่าวเขียนบนกระดาษ ถ่ายรูป แล้วก็ค่อยส่งข้าว ค่อยรายงาน แต่มันก็เปลี่ยนแปลงมาเขียนเป็นมีคอมพิวเตอร์ มี laptop แต่ตอนนี้มี AI ขึ้นมา เป็นอีกก้าวหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนช่วยให้การทำงานดีขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ดังนั้น ทุกคนควรติดตาม ฝึกฝน ใช้ให้เป็นประโยชน์ในการทำงานของเรา

ผู้สื่อข่าว: ตามความเห็นของท่าน สื่อมวลชนเวียดนามและไทยควรมีบทบาทอย่างไรเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาเข้มแข็งและใกล้ชิดมากขึ้น?

ท่าน นคร วีระประวัติ: เท่าที่เห็นที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สื่อไทยและเวียดนามก็ได้มีการแลกเปลี่ยน การพบปะ สื่อสารระหว่างกันอยู่ตลอด มันก็ทำให้พวกเราหลายคนก็รู้จักกัน ในบรรดานักข่าว บรรดาสมาคมต่างๆที่อยู่ในประเทศไทยกับสมาคมของเวียดนามก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้น ดีขึ้น มีอะไรเกิดขึ้น ก็สอบถามกันได้ เราก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันมาก นั่งเครื่องบินก็ชั่วโมง สองชั่วโมงเท่านั้นเอง ความจริงการติดต่อสื่อสารในช่วงนี้สะดวกเนื่องจากเทคโนโลยี เครื่องไม้เครื่องมือมันช่วยได้ เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้ความสัมพันธ์แบบนี้เพิ่มมากขึ้นไปกว่านี้ ก็เดี๋ยวจะลองไปบอกทั้งโน้นว่า ทางเวียดนามเข้าก็ยินดีที่สื่อสาร ต้อนรับกับทางพวกเราเพิ่มเติมอะไร ขอให้สื่อไทยอาจจะมีโอกาสอีก เพราะว่าเราทางสมาพันธ์เองก็คิดที่จะมีโครงการอะไรที่จะมาเชื่อมความสัมพันธ์กับสื่อของเวียดนาม.

ผู้สื่อข่าว: ขอบคุณท่าน นคร วีระประวัติ มากค่ะที่ได้สละเวลามาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของวีโอวีค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด