สร้างแรงกระตุ้นสตาร์ทอัพด้านการเกษตรอัจฉริยะ

(VOVWORLD) - การเกษตรอัจฉริยะคือแนวโน้มพัฒนาการเกษตรของเวียดนามและโลก ซึ่งปัจจุบันนี้ สตาร์ทอัพหลายแห่งได้หันมาสนใจด้านนี้ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิตเกษตร ดังนั้น การเกษตรอัจฉริยะจึงถือเป็นศักยภาพของสถานประกอบการเปลี่ยนแปลงใหม่และประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมเพื่อนำผลิตภัณฑ์เจาะตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
สร้างแรงกระตุ้นสตาร์ทอัพด้านการเกษตรอัจฉริยะ - ảnh 1Photo khoinghiep.org.vn

หมู่บ้านเทคโนโลยีการเกษตรคือระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมในกรอบโครงการ “วันงานการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมแห่งชาติหรือ Techfest” ที่จัดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เน้นประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และรูปแบบสตาร์ทอัพด้านการเกษตร เชื่อมต่อกับตลาดเพื่อสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการระหว่างกันผ่านการสร้างหว่างโซ่มูลค่าร่วม สร้างเครือข่ายของแหล่งพลังเพื่อสนับสนุนและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับวิชาการด้านการเกษตรในรูปแบบการประกอบธุรกิจของสตาร์ทอัพ พร้อมทั้งเพิ่มผลผลิต ยกระดับทักษะความสามารถและประสิทธิภาพของสตาร์ทอัพอีกด้วย

ถ้าหากกล่าวถึงการเกษตรอัจฉริยะ จะต้องกล่าวถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมกับการนำรูปแบบการผลิตประกอบธุรกิจการเกษตรใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงตามศักยภาพของเวียดนามมาประยุกต์ใช้ในด้านการเกษตร นาย ด่ามกวางทั้ง ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Agricare เวียดนาม ที่ปรึกษาระดับสูงของโครงการสตาร์ทอัพแห่งชาติ หัวหน้าของหมู่บ้านเทคโนโลยีการเกษตรที่ Techfest เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการสร้างแรงกระตุ้นให้แก่สถานประกอบการในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพการเกษตรอัจฉริยะเผยว่า            “ถ้าหากกล่าวถึงการเกษตรอัจฉริยะก็หมายถึงการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพราะว่าการเกษตรอัจฉริยะต้องอาศัยการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นั่นคือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการผลิตและการแปรรูป ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องเป็นเทคโนโลยีที่สร้างก้าวกระโดดในด้านต่างๆ เช่น ผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัยด้านอาหารและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ปัจจุบันนี้มีรูปแบบการเกษตรอัจฉริยะที่มีประสิทธิผลหลายรูปแบบกำลังได้รับการส่งเสริมประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะมีความสอดคล้องกับเงื่อนไขการพัฒนาของเวียดนาม

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อส่งเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพของการเกษตรอัจฉริยะ จำเป็นต้องตอบสนองเงื่อนไขต่างๆ เช่น ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตและการเก็บรักษา ส่งเสริมกระบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของสถานประกอบการ ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในการวิจัย ลงทุนและประกอบธุรกิจด้านการเกษตรโดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรม 

ปัจจุบันนี้ สถานประกอบการเวียดนามกำลังผลิตตามแนวทางเน้นเรื่องปริมาณมากกว่าคุณภาพ นอกจากคุณภาพ การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ถือเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับสถานประกอบการเวียดนามเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แปรรูป นาง โงถิเหี่ยน ผู้อำนวยการบริษัทการผลิตและการค้า Lineup จำกัด ที่ผลิตแป้งจากพืชผักเผยว่า “ทุกคนกำลังมุ่งสู่การบริโภคแห่งสีเขียว สะอาดและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่ผลิตภัณฑ์ในตลาดเวียดนามส่วนใหญ่เป็นของสด ทุกปีมักจะมีกระบวนการเรียกร้องการช่วยเหลือจำหน่ายสินค้าการเกษตรเพราะสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ นั่นคือความฟุ่มเฟือยในขณะที่ความต้องการของสดมีสูงมากแต่เกษตรกรไม่สามารถขายได้ ในการเข้าร่วม Techfest ทางบริษัทของเราจะมีโอกาสร่วมมือและหานักลงทุน ตัวแทนจำหน่ายใหม่ๆ

นับตั้งแต่ปี 2016  โครงการ “สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมแห่งชาติถึงปี 2025”  ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้สร้างแรงกระตุ้นต่อขบวนการสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมในเวียดนาม โดยจำนวนสตาร์ทอัพได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ด้านแนวความคิดและรูปแบบการประกอบธุรกิจ ควบคู่กับการระดมแหล่งพลังในสังคมและจากผู้ที่หลงใหลการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ สถานประกอบการสตาร์ทอัพยังแสดงความปรารถนาว่า สำนักงานบริหารภาครัฐและองค์การวิจัยต่างๆจะให้ความสนใจเพื่อมีส่วนร่วมมากขึ้นในการสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ

การส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของเวียดนาม การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในด้านการเกษตรได้ช่วยเปิดโอกาสให้แก่กระแสการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและการพัฒนาของเทคโนโลยี 4.0  หวังว่าการเกษตรอัจฉริยะจะกลายเป็นแนวโน้มที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับสถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด