สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำรัสเซียจัดพิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ 30 เมษายน

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นาย ดั่งมิงโทย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำรัสเซียได้ย้ำว่า ชัยชนะของสงครามเพื่อปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพได้เข้าสู่ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของประชาชาติ เข้าสู่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในฐานะชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของกระบวนการต่อสู้กับการถูกกดขี่ขูดรีดของประชาชนทั่วโลกในศตวรรษที่ 20

ในวันเดียวกัน ณ กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย สมาคมทหารผ่านศึกเวียดนามในรัสเซียได้จัดพิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ

ส่วนเมื่อค่ำวันที่ 29 เมษายน ณ กรุงปารีส สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศสได้ประสานกับพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสจัดพิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ นาย ฟาเบียง รุสเซล หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสย้ำว่า ชัยชนะวันที่ 30 เมษายนเป็นการแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้เพื่อสันติภาพ เสรีภาพและความยุติธรรม พรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสได้ยืนอยู่เคียงข้างกับประชาชนเวียดนามมาตั้งแต่ช่วงปี 1950 และต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศเวียดนามมาโดยตลอด

 “วันรำลึกครบรอบการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเวียดนามเป็นเอกภาพ สำหรับพวกเราซึ่งเป็นนักคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสยังเป็นวันรำลึกมิตรภาพและความสามัคคีกับประชาชนเวียดนาม พวกเราทุกคนซึ่งเป็นนักคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสต่างเป็นลูกหลานของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งได้ช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาสู่ประชาชนเวียดนาม และยังเป็นผู้นำของเวียดนามด้วย แต่ก่อนหน้านั้น เขายังเป็นตัวแทนในการประชุมสมัชชาใหญ่ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่วงเศสเมื่อปี 1920 เราภูมิใจในสิ่งนี้” 

ทหารผ่านศึกเวียดนามในรัสเซียเข้าร่วมงาน

ส่วนนาย ดิ่งตว่านทั้ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศสได้ย้ำว่า วันที่ 30 เมษายนเป็นชัยชนะของประชาชนเวียดนามภายหลังการเสียสละมากมายเพื่อสันติภาพและเอกราชของประชาชาติ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่มีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์นี้ขาดไม่ได้การสนับสนุนจากเพื่อนมิตรชาวฝรั่งเศสและผู้ที่รักสันติภาพทั่วโลก

ในโอกาสนี้ ผู้เข้าชมงานยังมีโอกาสเข้าชมนิทรรศการศิลปะภายใต้หัวข้อ “เวียดนาม ภาพแห่งสันติภาพ” และชมการฉายภาพยนตรสารคดี “ถ้าอายุยืนนาน คุณจะรู้ว่ากลางคืนยาวนาน” ของผู้กำกับ Daniel Roussel และ Yann De Sousa ตลอดจนเข้าร่วมการเสวนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามตั้งแต่หลังปี 1975 ซึ่งช่วยให้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเทศและผู้เวียดนามในปัจจุบัน

นาย ฟาเบียง รุสเซล หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส

ในวันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำแอฟริกาใต้ได้จัดการพบปะกับชุมชนชาวเวียดนามที่กำลังอยู่อาศัย ทำงานและศึกษาในแอฟริการใต้.

ผู้สื่อข่าวของวีโอวีประจำรัสเซียและฝรั่งเศส