ภาพในพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2026 ให้แก่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

ในการกล่าวปราศรัยปิดการประชุม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ยืนยันว่า อาเซียนพร้อมที่จะก้าวสู่เส้นทางการพัฒนาใหม่อย่างมั่นคง โดยมี 11 ประเทศสมาชิก ผลการประชุมได้ยืนยันถึงสถานะและบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ช่วยเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนา ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งรับตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2026 จากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ประกาศหัวข้อปีอาเซียน 2026 ของฟิลิปปินส์ คือ “Navigating our future together” โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคง การส่งเสริมเส้นทางแห่งความเจริญรุ่งเรือง และการเพิ่มสิทธิให้แก่ประชาชน

คณะผู้แทนเวียดนาม นำโดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพในกิจกรรมพหุภาคีเกือบ 20 กิจกรรมในกรอบการประชุมฯ โดยได้แลกเปลี่ยนแนวทางสำคัญหลายประการเพื่อกำหนดอนาคตของอาเซียน มิตรภาพและความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างเวียดนามและบรรดาหุ้นส่วนได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังผ่านการประชุมทวิภาคีกว่า 20 นัด การมีส่วนร่วม ข้อเสนอ และข้อคิดริเริ่มของเวียดนามเน้นส่งเสริมการสร้างประชาคมอาเซียนที่สามัคคี พึ่งตนเอง ครอบคลุมและยั่งยืน โดยถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเชื่อมโยงการพัฒนาประเทศกับการพัฒนาภูมิภาค เวียดนามยังคงแสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นประเทศสมาชิกที่กระตือรือร้น ดำเนินการในเชิงรุกและมีความรับผิดชอบ โดยมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อการเสริมสร้างความสามัคคีภายในกลุ่ม และยกระดับบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค

นี่เป็นกิจกรรมสุดท้ายของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในกรอบการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมระดับสูงที่เกี่ยวข้องในระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม ณ มาเลเซีย ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม

ค่ำวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และคณะผู้แทนเวียดนามได้เดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อเดินทางกลับประเทศ เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจในมาเลเซียด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม.