ขยายความร่วมมือ ธำรงความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ในอาเซียน

(VOVWORLD) - บ่ายวันที่ 27 ตุลาคม เนื่องในโอกาศเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 47 ณ ประเทศมาเลเซีย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีไทย อนุทิน ชาญวีรกูล และประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แฟร์ดินันด์ โรมูอัลเดซ มาร์โคส จูเนียร์
ขยายความร่วมมือ ธำรงความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ในอาเซียน - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเวียดนามกับนายกรัฐมนตรีไทย

นายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนามได้เห็นพ้องประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะใหม่ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานกัน พยายามนำมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็วตามแนวทางที่สมดุลและเปิดตลาดมากขึ้นให้แก่สินค้าของกัน ขยายความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ในความร่วมมือด้านการขุดเจาะปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ขยายความร่วมมือในการศึกษา ฝึกอบรม การพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชน การเชื่อมโยงระดับท้องถิ่นและส่งเสริมการปฏิบัติโครงการพบปะแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม

ส่วนในการกล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสพบปะกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แฟร์ดินันด์ โรมูอัลเดซ มาร์โคส จูเนียร์ (Ferdinand Romualdez Marcos Jr.)  นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมการพบปะแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับต่อไป ปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพความร่วมมือในระดับสูง เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีแปรรูป การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โครงสร้างพื้นฐาน ห่วงโซ่อุปทานต่างๆ เช่น การพัฒนาระบบนิเวศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ส่งเสริมการค้าข้าวและมุ่งสู่การลงนามในข้อตกลงซื้อขายข้าวในระยะยาว
ส่วนประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แสดงความปรารถนาให้ทั้งสองฝ่ายยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม - ฟิลิปปินส์
และเห็นพ้องในการร่วมกันเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะใหม่

ขยายความร่วมมือ ธำรงความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ในอาเซียน - ảnh 2นายกรัฐมนตรีเวียดนามกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

ในการพบปะเหล่านี้ ทั้งนายกรัฐมนตรีไทยและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ต่างเห็นพ้องกันว่า จะประสานงานและสนับสนุนเวียดนามในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมหรือ IUU มุ่งสู่การยกเลิก “ใบเหลือง” ของอียู พร้อมทั้งขยายความร่วมมือ ธำรงความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในอาเซียน ส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งการควบคุมและใช้แหล่งน้ำจากแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัยในเขตทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้ง UNCLOS 1982 ปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและบรรลุซีโอซีโดยเร็ว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด