หนังสือพิมพ์ El Economista ของเม็กซิโกรายงานพิธีลงนามแถลงการณ์ฮานอย (VNA)

สื่อของลาตินอเมริกาถือว่า นี่เป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ของความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ อีกทั้งยืนยันถึงสถานะ ชื่อเสียงและศักยภาพของเวียดนามเมื่อได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกครั้งนี้

ในบทความที่พาดหัวว่า “สหประชาชาติเรียกร้องให้คุ้มครองประชาชนในโลกไซเบอร์” ช่องโทรทัศน์มัลติมีเดีย teleSUR ของเวเนซุเอลายืนยันว่า การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกครั้งนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทที่กระตือรือร้นของประเทศเจ้าภาพในการส่งเสริมลัทธิพหุภาคี การสร้างเวทีการเจรจาและความร่วมมือที่จริงจังระหว่างประเทศต่างๆ อีกทั้ง อ้างคำกล่าวของนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ โดยย้ำว่า “ฮานอยเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของประชาคมระหว่างประเทศต่อศักยภาพในการจัดงานและชื่อเสียงที่เพิ่มมากขึ้นของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศ

teleSUR ของเวเนซุเอลายืนยันว่า การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกครั้งนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทที่กระตือรือร้นของประเทศเจ้าภาพในการส่งเสริมลัทธิพหุภาคี (VNA)

หนังสือพิมพ์ El Economista ของเม็กซิโกระบุว่า การลงนามอนุสัญญาฮานอยโดยหลายประเทศถือเป็นก้าวเดินสำคัญเพื่อมุ่งสู่การสร้างกรอบทางนิตินัยร่วมกันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อต้านอาชญากรรมดิจิทัล ตั้งแต่การฉ้อโกงออนไลน์ การฟอกเงิน ไปจนถึงการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเด็กในโลกไซเบอร์ หนังสือพิมพ์ El Economista ได้อ้างคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญว่า การเลือกกรุงฮานอยเป็นสถานที่จัดพิธีลงนามถือเป็น “ข้อความที่เข้มแข็งเกี่ยวกับความไว้วางใจและบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของเวียดนามในปัญหาระหว่างประเทศ”

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม หนังสือพิมพ์  Infobae และ La Nacion ของอาร์เจนตินารายงานว่า มีกว่า 70 ประเทศได้ลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ ณ กรุงฮานอย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อนุสัญญาฮานอย” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประชาคมระหว่างประเทศมีกรอบการทำงานที่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการรับมืออาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยหนังสือพิมพ์ Infobae ได้อ้างคำกล่าวของนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่เรียกอนุสัญญานี้ว่า “ชัยชนะของเหยื่อการละเมิดทางออนไลน์” และเปิดทางให้ผู้สืบสวนและอัยการสามารถแลกเปลี่ยนหลักฐานดิจิทัลข้ามพรมแดนได้ ส่วนหนังสือพิมพ์ La Nacion รายงานว่า อนุสัญญาฉบับใหม่นี้ได้ระบุถึงการกระทำที่เป็นอาชญากรรมเทคโนโลยี สร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ และเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนหลักฐานดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.