เสียงแคนหล่อเลี้ยงจิตใจชาวเผ่าม้ง
็ีHuyen Trang -  
(VOVWORLD) - ถึงแม้ว่าในหมู่บ้านหลายแห่งของชนกลุ่มน้อยเผ่าม้ง เสียงแคนนับวันค่อย ๆ สูญหายไป แต่ที่บ้านต่าโซ้ ตำบลหมกโจว จังหวัดเซินลา ชาวบ้านกำลังอนุรักษ์และถ่ายทอดศิลปะนี้ได้เป็นอย่างดี โดยพยายามอนุรักษ์ให้เสียงแคนดังก้องในงานเทศกาลต่างๆ ต่อไป ช่วยเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณและพัฒนาในอนาคต
หมู่บ้าน ต่าโซ้ |
หนุ่มเผ่าม้งในชุดประจำชนเผ่า ที่เป่าแคนด้วยลีลาที่สนุกสนานและรำตามจังหวะอย่างพลิ้วไหว ในโอกาสเทศกาลต่างๆ พวกเขาก็จะออกมาแสดงช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าม้ง แม้บางครั้งต้องเดินทางหลายสิบกิโลเมตรเพื่อไปแสดงก็ตาม แต่โอกาสเหล่านี้ถือเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่ม ๆ ชนเผ่าม้งพยายามฝึกและอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดจากบรรพบุรุษต่อไป นาย หมั่ว อา กั๋ว ชาวบ้านต่าโซ้ กล่าวว่า
“ในหมู่บ้านของเรามีทีมเป่าแคน 1 ทีม ซึ่งเราได้ร่วมกันฝึก ทุกครั้งที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหรือมีงานเทศกาลต่างๆ เราก็จะออกไปแสดงเพื่อสืบสานและอนุรักษ์เอกลักษณ์ของชนเผ่าเอาไว้”
ในชีวิตประจำวันของชนกลุ่มน้อยเผ่าม้ง เสียงแคนมีความหมายอันศักดิ์สิทธิ์ทางจิตวิญญาณ บรรดาหมอแคนกล่าวว่า เสียงแคนมีทั้งทำนองเศร้าและทำนองร่าเริง เมื่อเสียงแคนบรรเลงทำนองเศร้า หมายถึงการส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปยังโลกหน้า เพื่อให้เขาได้พักผ่อนอย่างสงบและไม่หวนกลับมา ดังนั้น ในงานศพจึงขาดเสียงแคนไม่ได้ ส่วนเสียงแคนที่สนุกสนานจะดังก้องในงานเทศกาล วันปีใหม่หรือในโอกาสที่หนุ่มม้งแสดงความสามารถต่อหน้าหญิงสาวที่ตนรัก นาย หมั่ว อา โช้ง หมอแคนอาวุโสที่มากประสบการณ์เผยว่า
“ตั้งแต่โบราณ สวรรค์ได้สร้างแคนขึ้นมาแล้วมอบให้เผ่าม้งใช้ในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานศพ หรืองานเทศกาลปีใหม่ ต้องมีแคนถึงจะสนุก บรรพบุรุษของเราได้ส่งต่อแคนให้เรา”
เผ่าม้งเป่าแคนในเทศกาลต่างๆ |
คุณ หมั่ว อา กั๋ว ลูกชายของคุณ หมั่ว อา โช้ง เริ่มเรียนการเป่าแคนกับพ่อเมื่ออายุ 15 ปี จนถึงอายุ 20 ปี เขาก็กลายเป็นหมอแคน มาเป่าแคนในงานศพและงานเทศกาลต่างๆ ซึ่งถึงขณะนี้ เขามีประสบการณ์เป่าแคนถึง 30 ปี เมื่อสองสามปีก่อน เขาเห็นว่า ในหมู่บ้าน มีผู้สูงอายุเพียงไม่กี่คนสามารถเป่าแคนได้อย่างชำนาญ ส่วนหนุ่มๆ ไม่ค่อยสนใจ หากผู้สูงอายุเหล่านี้จากไปโดยไม่ถ่ายทอด การเป่าแคนก็จะหายไป ดังนั้น เขาได้หาหนุ่มๆ ที่มีความสามารถ เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเอกลักษณ์อันล้ำค่าของแคนและสอนการเป่าแคนจนค่อย ๆ พัฒนาเป็นทีมเป่าแคนของหมู่บ้านได้ นาย หมั่ว อา กั๋ว กล่าวว่า
“จำเป็นต้องอนุรักษ์ให้ได้ ผมมักจะเป่าแคนเพื่อเชิญชวนเด็ก ๆ ให้มาเรียนด้วย ใครสนใจก็สอนให้ แม้ผมจะอายุมากขึ้น เด็ก ๆ ก็จะสามารถสืบสานต่อไปได้ เอกลักษณ์ของชนเผ่าเราก็จะได้รับการอนุรักษ์ต่อไป”
นาย หมั่ว อา กั๋ว (คนกลาง) กำลังสอนวิธีการแสดงแคนให้แก่หนุ่มๆ ในหมู่บ้าน (baosonla.vn) |
ทีมเป่าและรำแคนของหมู่บ้านต่าโซ้มีสมาชิกประมาณ 15 คน หลังจากทำนาทำไร่เสร็จ พวกเขาก็จะมารวมตัวฝึกเป่าและรำแคน การเรียนเป่าแคนเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยความอดทนของทั้งผู้สอนและผู้เรียน ฝึกไปทีละขั้นจนสามารถเล่นเป็น เมื่อชำนาญแล้ว หนุ่ม ๆ จะฝึกรำพร้อมกับการเป่าแคนอย่างคล่องแคล่ว การแสดงเป่าแคนก็ช่วยให้หนุ่มม้งแสดงความแข็งแรงและความสามารถของตนเอง จึงช่วยสร้างความประทับใจกับสาว ๆ ในหมู่บ้าน นาย หมั่ว อา คื้อ สมาชิกของทีมกล่าวว่า
“ผมชอบจริง ๆ จึงไปเรียน ต้องเรียนถึง 3 ปีกว่าจะชำนาญ เราได้สืบสารการเป่าแคนจากบรรพบุรุษ ผมเรียนเพื่อจะถ่ายทอดให้ลูกหลานต่อไป จึงต้องชอบจริง ๆ ถ้าหากไม่ชอบก็เรียนไม่ได้ การเล่นแคนยากมาก ต้องมีสมาธิ หากไม่ตั้งใจ ก็จะเรียนไม่ได้เลย”
ในบ้านหลาย ๆ หลังของชนกลุ่มน้อยเผ่าม้งในหมู่บ้านต่าโซ้ แคนเก่าๆของบรรพบุรุษยังถูกแขวนไว้ในบ้าน ซึ่งถือเป็นเครื่องเตือนใจว่า ไม่ได้ลืมเอกลักษณ์ของชนเผ่าตน การเป่าแคนมีหลายท่วงทำนอง ถ่ายทอดความคิดของเผ่าม้งทั้งเรื่องชีวิตและความรัก ปัจจุบันมีหลายคนได้ทุ่มเทฝึกสอนต่อไป เพื่อให้เสียงแคนไม่ถูกสูญหายไป หากพัฒนาพร้อมกับหมู่บ้านและสะท้อนความงดงามในใจของชนกลุ่มน้อยม้งอีกด้วย.
็ีHuyen Trang