ภาพการประชุม (quochoi.vn)

รายงานระบุว่า ใน 4 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามมีเสถียรภาพในขั้นพื้นฐาน สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อและค้ำประกันความสมดุลหลักๆ ในด้านเศรษฐกิจ การขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 2025 คาดว่าจะบรรลุร้อยละ 6.93 ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงปี 2020 - 2025  ซึ่งในนั้นมีท้องถิ่นหลายแห่งบรรลุเลขสองหลัก ตัวเลขการใช้เงินทุนเอฟบีไอบรรลุกว่า 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดในระยะปี 2020 - 2025 และแสดงให้เห็นว่า เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนระหว่างประเทศต่อไป ในด้านวัฒนธรรมและสังคม ดัชนีความสุขของเวียดนามในปี 2025 ติดอันดับ 46 จากจำนวนทั้งหมด 143 ประเทศ เลื่อนขึ้น 8 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 และยังมีการจัดกิจกรรมสำคัญๆ อย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่ เช่น การเดินขบวนพาเหรดและกิจกรรมรำลึกครบรอบ 50 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ

เน้นปฏิบัติหน้าที่และมาตรการแก้ไขต่างๆในกลุ่มยุทธศาสตร์รวม 4 ยุทธศาสตร์

รายงานของรัฐบาลย้ำว่า ในเวลาที่จะถึง เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวให้อยู่ที่ร้อยละ 8 ขึ้นไป ขนาดเศรษฐกิจของประเทศบรรลุกว่า 5 แสนล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับ 30 ของโลก จีดีพีเฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนในปี 2025 รัฐบาลยืนหยัดปฏิบัติมติต่างๆ ของพรรค สภาแห่งชาติ โดยเฉพาะมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 โดยเน้นปฏิบัติหน้าที่และมาตรการต่างๆในกลุ่มยุทธศาสตร์รวม 4 ยุทธศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย การปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานในระบบการเมืองให้กระทัดรัด สร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในสภาวการณ์ใหม่และการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า

“ เร่งพิจารณาและเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับต่างๆเพื่อแก้ไขอุปสรรค ระดมแหล่งพลัง รวมทั้งพลังภายในและกำลังการผลิตของสังคมเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ในปี 2025 ต้องยกเลิกเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นในการลงทุนประกอบธุรกิจและเวลาการทำระเบียบราชการอย่างน้อยร้อยละ 30 ปฏิรูประบบธรรมาภิบาลของประเทศ และเสริมสร้างระบบการเมืองให้มีความสมบูรณ์ รวบรวมความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขและเสริมเพิ่มเติมบางข้อในรัฐธรรมนูญปี 2013 ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจ กำหนดรูปแบบการขยายตัวใหม่ ถือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด พยายามถึงปี 2025 จะเสร็จสิ้นการก่อสร้างถนนไฮเวย์ทางบกรวมระยะ 3,000 กิโลเมตรและถนนเลียลฝั่งทะเลกว่า 1,000 กิโลเมตร ผลักดันการปฏิบัติโครงสร้างก่อสร้างถนนไฮเวย์ทางบกเหนือจรดใต้ระยะปี 2021 - 2025 และโครงการสำคัญที่เป็นพลังขับเคลื่อนอื่นๆ”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (quochoi.vn)

แปลอุปสรรคและความท้าทายต่างๆให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อก้าวรุจหน้าต่อไป

รายงานของรัฐบาลได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ในทั่วโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้ โดยเฉพาะการที่สหรัฐประกาศนโยบายภาษีต่างตอบแทนในระดับสูง ซึ่งได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในทั่วโลก รวมทั้งเวียดนาม แต่รัฐบาลเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกปฏิบัติมาตรการรับมือต่างๆอย่าง คล่องตัว เหมาะสมและประสบผลที่น่ายินดีในเบื้องต้น โดยเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่สหรัฐตกลงเจรจาในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ปัจจุบันนี้ รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีกำลังชี้นำคณะผู้แทนที่เข้าร่วมการเจรจา กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เร่งเสร็จสิ้นแผนการรับมือและเตรียมความพร้อมในการเจรจากับสหรัฐบนเจตนารมณ์ “ผลประโยชน์ที่กลมกลืนและแบ่งปันความเสี่ยง” นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวว่า

“ต้องเป็นฝ่ายรุกเสร็จสิ้นการวางแผนรับมือและทำการเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพกับสหรัฐบนเจตนารมย์คือ ปกป้องสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรม ของเวียดนาม มุ่งสู่การผลักดันการค้าอย่างสมดุล ยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อข้อตกลงระหว่างประเทศที่เวียดนามให้ภาคี พร้อมทั้งเร่งประกาศมติ ควบคุมการค้าเชิงยุทธศาสตร์ เพิ่มการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้า สร้างความหลากหลายในด้านตลาด ห่วงโซ่อุปทาน ยกระดับคุณภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม พร้อมปรับตัวเข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เร่งจัดทำและปฏิบัติมาตรการสนับสนุนสถานประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ“

จากอุปสรรคและความท้าทายในปัจจุบัน รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ท้อถอยและยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายที่ได้วางไว้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในระดับสูงสุด โดยเฉพาะในการบริหาร การชี้นำและการปฎิบัติ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ระบุว่า

“จากสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและเศรษฐกิจมีความยากลำบากต่างๆ ยิ่งกว่าเวลาใด เราต้องส่งเสริมจิตใจแห่งความสามัคคีและความปรารถนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยต้องมองให้ไกล มองให้กว้าง มองให้ลึกและทำงานแบบยิ่งใหญ่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจสูงสุดและพยายามมากขึ้น ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แปลความท้าทายให้เป็นโอกาส แปลอุปสรรคให้เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อปฏิบัติเป้าหมายที่วางไว้ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างงดงามในระยะ 2021-2025 พยายามบรรลุผลงานมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่การประชุมพรรคสาขาทุกระดับและการประชุมทั่วประเทศผู้แทนสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 16”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ในเวลาที่จะถึง รัฐบาลจะเสร็จสิ้นเป้าหมายที่ได้วางไว้ด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม สร้างความไว้วางใจและพลังขับเคลื่อนใหม่ สร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่เข้มแข็ง มีอารยธรรมและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น.