(VOVWORLD) - ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับลาวมักจะถูกย้ำว่าเป็นสัญลักษณ์พิเศษที่แน่นแฟ้นผ่านกาลเวลาและผูกพันใกล้ชิดในความท้าทายต่างๆ แต่สิ่งที่ช่วยให้ความสัมพันธ์นี้ยังยืนยงมั่นคงตลอดกาลคือ การแปรความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานให้เป็นความร่วมมือที่จริงจัง สอดคล้องกับความต้องการพัฒนาใหม่ของทั้งสองประเทศ โดยการเยือนประเทศลาวของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ในระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม รวมทั้งการเป็นประธานร่วมในการประชุมครั้งที่ 48 คณะกรรมการร่วมรัฐบาลเวียดนาม – ลาวของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ที่มีขึ้น ณ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาวในระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคมถือเป็นการกำหนดแนวทางความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ให้ความสัมพันธ์เวียดนาม – ลาวพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้นในเวลาที่จะถึง
เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม พร้อมภริยาและประธานประเทศลาว ทองลุน สีสุลิด พร้อมภริยา |
การเยือนประเทศลาวตามรัฐพิธีของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิมและการที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลเวียดนาม - ลาวครั้งที่ 48 มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมความพร้อมให้แก่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรค และประเทศลาวฉลองวันชาติครบรอบ 50 ปี วันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายแห่งความสำเร็จที่ลาวได้บรรลุในตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนและส่วนร่วมที่สำคัญจากเวียดนาม
ความร่วมมืออย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ
ในเวลาที่ผ่านมา ความผูกพันระหว่างเวียดนามกับลาวมักจะอยู่ในระดับสูงสุดผ่านกลไกการพบปะและการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำของสองพรรคและสองรัฐ โดยการพบปะเหล่านั้นไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึง “ไมตรีจิตพิเศษ” เท่านั้น หากนับวันเข้าสู่เนื้อหาแห่งความร่วมมือเชิงยุทธศตร์และจริงจังมากขึ้น เช่น ความมีเสถียรภาพทางการเมือง ความมั่นคงกลาโหม การเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขยายการลงทุนและสนับสนุนการพัฒนา
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ได้มีการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนใน 10 ที่ผ่านมาได้บรรลุเกือบ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ช่วยให้เวียดนามกลายเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของลาว โครงการนับร้อยโครงการของเวียดนามในสาขาต่างๆ เช่น พลังงาน การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การเงินและโทรคมนาคม เป็นต้น ได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการขยายตัวของประเทศลาว นาง คำพาวเอินทะวัน เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามยืนยันว่า
“โครงการเหล่านี้ได้มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศลาว โดยเฉพาะโครงการร่วมมือก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่างๆ การที่เวียดนามอนุญาตให้ลาวใช้ท่าเรือหวุงอ๊างได้ช่วยให้ลาวสามารถแปรความมุ่งมั่นเชิงยุทธศาสตร์จากการเป็นประเทศที่ไม่มีทะเลให้กลายเป็นประเทศที่สามารถเชื่อมโยงในภูมิภาค อำนวยความสะดวกให้แก่การขนถ่ายและขนส่งสินค้าได้”
อีกหนึ่งด้านความสัมพันธ์ที่มีการพัฒนาอย่างน่ายินดีระหว่างเวียดนามกับลาวคือความร่วมมือในด้านการศึกษาและฝึกอบรม โดยเจ้าหน้าที่และนักศึกษาลาวนับพันคนที่ได้รับการฝึกอบรมในเวียดนามในตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นแหล่งพลังที่สำคัญที่มีส่วนร่วมรักษาความมีเสถียรภาพและการพัฒนาของประเทศลาว อันเป็นก้าวกระโดดที่สามารถวัคได้ผ่านคุณภาพด้านแรงงาน ไม่ใช่เป็นตัวเลขเพียงอย่างเดียวและพิสูจน์ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์พิเศษระหว่างเวียดนามกับลาวได้ถูกส่งต่อถึงคนรุ่นใหม่
พลังขับเคลื่อนของความสัมพันธ์เวียดนาม - ลาวในระยะใหม่
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ผ่านกระบวนการที่ต้อง “เปลี่ยนแปลงใหม่” โดยอาศัยหลักการขั้นพื้นฐานคือ ให้ความเคารพคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อไปและเปลี่ยนจากการ “มุ่งเน้น” ไปเป็น ประสิทธิภาพ ความยั่งยืนและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับความท้าทายใหม่ๆ
ในโลกที่นับวันซับซ้อนมากขึ้น การธำรงและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นคือความต้องการเชิงยุทธศาสตร์เพื่อค้ำประกันบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาค ดังนั้น ความสัมพันธ์พิเศษนี้ไม่เพียงแต่เป็นสมบัติอันล้ำค่าของทั้งสองประชาชาติเท่านั้น หากยังเป็นแหล่งพลังช่วยให้ทั้งสองประเทศก้าวไปข้างหน้าอีกด้วย
จากสถานการณ์ดังกล่าว การเยือนประเทศลาวในครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ช่วยส่งสารที่เข้มแข็งว่า ในนโยบายการต่างประเทศ เวียดนามให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ต่อความสัมพันธ์กับประเทศลาวเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ นาย เหงวียนแหม่งเกื่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า
“ในการเยือนครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองพรรคและรัฐจะเห็นพ้องเกี่ยวกับความเข้าใจและแนวทางยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ส่งเสริมประสิทธิภาพและความจริงจังในกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ ที่เป็นเงื่อนไขในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”
ในขณะเดียวกัน นาง คำพาวเอินทะวัน เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามได้แสดงความเชื่อมั่นต่อการที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะย่างเข้าสู่ระยะใหม่ โดยเผยว่า การประชุมครั้งที่ 48 คณะกรรมการร่วมรัฐบาลเวียดนาม – ลาวที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีลาวร่วมเป็นประธานนั้นได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจเป็นพิเศษของผู้นำระดับสูงของสองประเทศในการขยายความร่วมมือทวิภาคี
การเยือนประเทศลาวของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ถือเป็นกิจกรรมการต่างประเทศครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งมีส่วนร่วมเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ขยายความร่วมมือในทุกด้านและกำหนดแนวทางความร่วมมือใหม่ๆ ระหว่างสองประเทศในศักราชใหม่ บทบาทของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในฐานะประธานร่วมของการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลครั้งที่ 48 นั้นจะเป็นกลไกหลักเพื่อแปรเนื้อหาความร่วมมือทวิภาคีต่างๆ ให้กลายเป็นความจริงและมีการประสานงานอย่างรอบด้าน ช่วยนำความสัมพันธ์เวียดนาม – ลาวเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน.