การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ

จากความแตกต่างของวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนในระยะก่อนที่วางกรอบเวลาไว้ 10 ปี แต่ในระยะต่อไป อาเซียนได้วางกรอบการพัฒนา 20 ปีโดยวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 และแผนการเชิงยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะเป็นการกำหนดแนวทางและเอกสารหลักให้อาเซียนปฏิบัติกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี 2045

นอกจากนี้ จากการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่าง ๆ เช่น การพัฒนาอย่างรวดเร็วของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ปัญหาภูมิศาสตร์การเมือง ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจและภัยคุกคามความมั่นคงใหม่ๆ เป็นสิ่งที่กดดันให้อาเซียนต้องใช้โอกาสฟันฝ่าเพื่อก้าวรุดหน้าต่อไป ในสภาวการณ์ดังกล่าว การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ภายใต้หัวข้อ “ครอบคลุมและยั่งยืน” มีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก เอกอัครราชทูต โตนถิหงอกเฮือง หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำอาเซียนแสดงความคิดเห็นว่า

“มีหลายปัญหาที่อาเซียนต้องสามัคคีและร่วมมือแก้ไข สำหรับกระบวนการพัฒนาใน 20 ปีข้างหน้า อาเซียนต้องแบ่งตามแต่ละช่วงเพื่อค้ำประกันปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงและความต้องการของอาเซียน พร้อมทั้งต้องมีมาตรการใช้แหล่งพลังต่าง ๆ อย่างเหมาะสมเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติกิจกรรมความร่วมมือและแผนการที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“แถลงการณ์กัวลาลัมเปอร์เกี่ยวกับอาเซียน 2045: อนาคตร่วมของพวกเรา” และเอกสาร “วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045” รวมไปถึงแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นแนวทางและเอกสารหลักของอาเซียนในการปฏิบัติกิจกรรมความร่วมมือในเวลาที่จะถึง

เพื่ออาเซียนที่พึ่งตนเองและแข็งแกร่ง

ในตลอด 30 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติเป้าหมายสร้างสรรค์กลุ่มอาเซียนที่สามัคคีและแข็งแกร่ง ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ ด้วยศักยภาพและสถานะใหม่ เวียดนามพร้อมที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อภารกิจร่วมของอาเซียน นาย โด๋หุ่งเหวียด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยืนยันว่า

“เวียดนามจะร่วมกับประเทศต่างๆ หารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับปัญหาที่จะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ  ในกรอบกลุ่มเนื้อหาหลัก 3 กลุ่ม อันเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงคุณค่าและพลังที่เข้มแข็งของความอยู่รอดของลัทธิพหุภาคี ให้ความสำคัญต่อการสนทนาเพื่อสร้างสรรค์ความไว้วางใจโดยเฉพาะย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องให้ความเคารพกฎหมายสากล สองคือ เปิดระยะต่อไปให้แก่กระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน มุ่งสู่การแปรความคาดหวังเกี่ยวกับกลุ่มอาเซียนที่พึ่งตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ คล่องตัวและถือประชาชนเป็นศูนย์กลางให้กลายเป็นความจริง สามคือ ผลักดันความเชื่อมโยงภายในกลุ่มและระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ ส่งเสริมข้อตกลงที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผลักดันระบบการค้าพหุภาคีที่ยุติธรรม โปร่งใสและยึดหลักกฎหมาย”

เวียดนามได้มีส่วนร่วมต่อกระบวนการจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียนหลังปี 2025 และกำลังเข้าร่วมกลุ่มเฉพาะกิจระดับสูงว่าด้วยการจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียน 2045 สำหรับบทบาทการกำหนดแนวทางพัฒนาอนาคตอาเซียนของเวียดนาม นาย Dato' Tan Yang Thai เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำเวียดนามได้กล่าวว่า

“ ทุกประเทศถือเวียดนามเป็นเสาหลักแห่งการเชื่อมโยงอาเซียน คำมั่นต่อสันติภาพของภูมิภาค ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและการพัฒนารอบด้านของเวียดนามสอดคล้องกับเป้าหมายที่มาเลเซียให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในปีอาเซียน 2025 มาเลเซียถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการกำหนดบทบาทระดับโลกของอาเซียนและการเข้าร่วมการสนทนาเชิงสร้างสรรค์กับหุ้นส่วนต่างๆ เช่น จีน สหรัฐและสหภาพยุโรป เป็นต้น บทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และวิธีการเข้าถึงที่เป็นฝ่ายรุกของเวียดนามได้ช่วยให้เวียดนามกลายเป็นหุ้นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการค้ำประกันความสำเร็จของมาเลเซียในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”

ในความพยายามของอาเซียนในการสร้างสรรค์สันติภาพ ความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของภูมิภาคให้กลายเป็นประชาคมที่เชื่อมโยง คล่องตัวและทะเยอทะยาน เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อกระชับพื้นฐานความร่วมมือของภูมิภาค นี่คือเป้าหมายของคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนาม นำโดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในการเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 และการประชุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ ประเทศมาเลเซีย.