(VOVWORLD) - ฐานข้อมูลถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งในยุคแห่งการพัฒนาใหม่ พรรคและรัฐบาลเวียดนาม ได้กำหนดและมุ่งมั่นในการดำเนินนโยบายให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา ตามแนวคิด “ถ้าอยากมีสติปัญญาเวียดนาม ต้องมีดาต้าของเวียดนาม”
บิ๊กดาต้า เป็นหนึ่งในคุณลักษณะเฉพาะของยุคดิจิทัล ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากในด้านการบริหารภาครัฐ กระบวนการผลิต และการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับประเทศกำลังพัฒนาอย่างเวียดนามนั้น การบริหารข้อมูลระดับชาติและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของตนเองถือเป็นเรื่องที่เร่งด่วน
ปัจจุบัน โมเดลเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจแบบแพลตฟอร์ม ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI บล็อกเชน การประมวลผลแบบคลาวด์ และ Internet of Things กำลังสร้างข้อมูลอย่างมหาศาล ตามรายงานล่าสุดของสถาบัน McKinsey Global Institute ระบุว่า เฉพาะแค่ AI อย่างเดียวสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจโลกได้ถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ส่วนในประเทศเวียดนาม คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภายในปี 2030 ดังนั้น นอกเหนือจากการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือและระบบถนนไฮเวย์แล้ว เวียดนามยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางการเวียดนามได้วางแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบิ๊กดาต้าหลายโครงการ เพื่อนำมาจัดทำเป็นเอกสารทางกฎหมาย เช่น กฎหมายด้านข้อมูล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2025 มติที่ 57 ของกรมการเมืองว่าด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2024 มติที่ 175 ของรัฐบาลว่าด้วยการอนุมัติโครงการศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้หน่วยงานภาครัฐทุกระดับรวมถึงภาคเอกชน ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบิ๊กดาต้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เหงวียนแหม่งหุ่ง ยืนยันว่า
“พวกเราได้จัดทำเป็นกฎหมาย ซึ่งโครงสร้างนโยบายเบื้องต้นก็ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ส่วนที่เหลือจะขึ้นอยู่กับองค์กรธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยข้อมูลถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจดิจิทัลและสามารถประเมินความมั่งคั่งของประเทศในอนาคต ซึ่งบิ๊กดาต้าและการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่จะเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอนาคต”
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เหงวียนแหม่งหุ่ง (quochoi.vn) |
หลังการเตรียมความพร้อมมาเป็นเวลา 2 ปี ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติที่รัฐบาลเวียดนามได้มอบหมายให้กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปเป็นผู้ดำเนินโครงการ ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ นี่ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญในแผนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลระดับชาติของเวียดนาม พร้อมเป็นจุดให้บริการแบบ “วันสต็อปเซอร์วิส” เพื่อมีส่วนช่วยในการปฏิรูปโครงสร้างระเบียบราชการทั้งหมดในเวียดนาม
ก่อนหน้านี้ กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมและโทรคมนาคมกองทัพหรือ Viettel ได้เปิดใช้งานและให้บริการศูนย์ข้อมูลที่นิคม Hoa Lac Hi-Tech Park ในกรุงฮานอย มีพื้นที่ขนาด 2 หมื่น 1 พันตารางเมตร มี 60,000 เซิร์ฟเวอร์ และ 2,400 เร็กซ์ ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกที่เวียดนามเป็นผู้ควบคุมและเป็นเจ้าของโดยตรง พลตรี ต่าวดึ๊กทั้ง ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ของกลุ่มบริษัท Viettel เผยว่า
“กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลจนถึงปี 2030 และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับชาติ สะท้อนความมุ่งมั่นของเวียดนามในการตอบสนองทุกความต้องการของประชาชนและองค์กร ปกป้องและค้ำประกันอธิปไตยเกี่ยวกับข้อมูล ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในยุคดิจิทัล ดังนั้น จากการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่แห่งนี้ พวกเรายังเป็นผู้เดินหน้าในการให้คำมั่นต่างๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสีเขียวอย่างยั่งยืน”
 การประชุมคณะกรรมการชี้นำของรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล |
ด้วยการเชื่อมต่อกับทั่วโลกผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลทั้ง 5 เส้น พร้อมการเฝ้าสังเกตและสนับสนุนระยะไกลตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ศูนย์ข้อมูล Viettel ไม่เพียงแค่เสริมศักยภาพในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวเดินที่สำคัญเพื่อปกป้องอธิปไตยด้านข้อมูลและข้อมูลส่วนบุคคลในเวียดนาม
ในกรอบการประชุมคณะกรรมการชี้นำของรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เน้นย้ำอีกครั้งถึงแนวคิดที่ว่า “ถ้าอยากมีสติปัญญาเวียดนาม ต้องมีข้อมูลของเวียดนาม” เพราะข้อมูลคือแหล่งทรัพยากรที่สามารถช่วยตอบโจทย์ใหญ่ระดับประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“การสร้างศูนย์ข้อมูลบนหลักการดังกล่าวถึงจะสามารถระบุได้ว่าเราจะมุ่งเน้นการลงทุนในเรื่องไหน ทุกอย่างนั้นเป็นฐานข้อมูล เป็นสติปัญญาเวียดนาม ซึ่งพวกเราต้องดำเนินงานอย่างเป็นระเบียบ โฟกัสเรื่องที่ความสำคัญ และจัดสรรแหล่งทรัพยากรอย่างเหมาะสม”
ทั้งนี้ เวียดนามกำลังมีจุดแข็งหลายประการในกระบวนการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล ซึ่งเริ่มจากการสร้างบิ๊กดาต้า เมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นั่นคือ สัดส่วนของประชากรที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยอย่างมากต่อการรวบรวมข้อมูล อีกอย่างคือเวียดนามยังมีกลุ่มนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่จำนวนมาก ซึ่งสามารถเริ่มการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่ได้รับผลกระทบจากระบบเก่า ๆ โดยภาครัฐได้มีระเบียบราชการ กลไกและนโยบายที่ชัดเจน รวมถึงแนวคิดเชิงสร้างสรรค์อย่างก้าวกระโดดและความมุ่งมั่นทางการเมืองจากบรรดาผู้นำระดับสูง ทุกอย่างนั้นกำลังสร้างแรงผลักดันที่สำคัญในการนำประเทศเวียดนามก้าวรุดหน้าต่อไปอย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง./.