นาย อับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน (IRNA)

ดังนั้น นับตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม อิหร่านจึงไม่ถูกบังคับต่อโครงการนิวเคลียร์อีกต่อไปหลังจากข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 10 ปีระหว่างเตหะรานกับประเทศมหาอำนาจหมดอายุอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านประกาศว่า อิหร่านยังคง “มุ่งมั่นเส้นทางการทูต” ในประเด็นนิวเคลียร์

ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 หรือที่รู้จักในชื่อแผนปฏิบัติการร่วมในทุกด้านหรือ JCPOA ซึ่งลงนามโดยอิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐ รัสเซียและจีน ได้นำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการที่เตหะรานจำกัดโครงการนิวเคลียร์ แต่อย่างไรก็ตาม เอกสารฉบับนี้ได้ตกเข้าสู่ภาวะชะงักงัน นับตั้งแต่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงเพียงฝ่ายเดียวในช่วงสมัยแรกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2018 หลังจากนั้น อิหร่านก็ค่อยๆ ถอนตัวจากพันธกรณีของตน

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อิหร่านได้ระงับความร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA หลังจากเกิดการปะทะกับอิสราเอล โดยอ้างว่า IAEA ไม่ได้ประณามการโจมตีของสหรัฐและอิสราเอลใส่โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะเดียวกัน ด้วยความคิดริเริ่มของกลุ่ม E3 ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนี มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างครอบคลุมของสหประชาชาติก็ได้กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นาย อับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ยืนยันในจดหมายที่ส่งถึงสหประชาชาติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมว่า การหมดอายุของข้อตกลงปี 2015 ทำให้มาตรการคว่ำบาตร “ไร้ผล”.