เวียดนามจะหารือกับสหรัฐเพื่อแสวงหามาตรการที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับภาษีต่างตอบแทน

(VOVWORLD) - เวียดนามเสียใจที่สหรัฐประกาศเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเวียดนาม การตัดสินใจดังกล่าวไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ และไม่สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน 
เวียดนามจะหารือกับสหรัฐเพื่อแสวงหามาตรการที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับภาษีต่างตอบแทน - ảnh 1นาง ฝ่ามทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (MOFA)

นี่คือคำยืนยันของนาง ฝ่ามทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในวันที่ 4 เมษายน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามทูหั่ง ย้ำว่า ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้แลกเปลี่ยนและหารือเกี่ยวกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมกับสหรัฐเพื่อแก้ไขอุปสรรค ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี มุ่งสู่การค้าที่ยุติธรรม ยั่งยืน ประสานผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ประสานงานและแลกเปลี่ยนกับสหรัฐบนเจตนารมณ์แห่งการสร้างสรรค์และร่วมมือเพื่อแสวงหามาตรการนำความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 3 เมษายน นาย เหงวียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ออกหนังสือทางการทูตเพื่อเสนอให้ฝ่ายสหรัฐเลื่อนการเก็บภาษีนี้ออกไป เพื่อใช้เวลาหารือและแสวงหามาตรการแก้ไขที่สมเหตุสมผลให้แก่ทั้งสองฝ่าย นาย ตะหว่างลิง อธิบดีกรมพัฒนาตลาดต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้เผยว่า เวียดนามและสหรัฐเป็นสองประเทศที่มีเศรษฐกิจที่สามารถสนับสนุนกัน โครงสร้างการส่งออกและการค้าต่างประเทศของทั้งสองประเทศไม่ได้แข่งขันกันโดยตรง หากสนับสนุนกัน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการภายในของแต่ละประเทศ สินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐไม่ได้แข่งขันโดยตรงกับสถานประกอบการของสหรัฐ อีกทั้งช่วยให้ผู้บริโภคสหรัฐได้ใช้สินค้าราคาถูก อัตราภาษีนำเข้าพิเศษหรือ MFN เฉลี่ยที่เวียดนามเก็บต่อสินค้านำเข้าในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 9.4 ในขณะที่อัตราภาษีต่างตอบแทนที่สหรัฐมีแผนที่จะเก็บต่อสินค้าเวียดนามสูงถึงร้อยละ 46 นาย ตะหว่างลิง เผยว่า

“ตามประกาศของทำเนียบขาว อัตราภาษีเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขความไม่ยุติธรรมทางการค้าโลก นำการผลิตกลับไปสู่สหรัฐ และเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ตลอดจนส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มภาษีเหล่านี้จะยังคงได้รับการธำรงจนกว่าสหรัฐจะเห็นว่าผลกระทบจากการขาดดุลการค้าและความไม่เท่าเทียมทางการค้าได้รับการแก้ไขหรือลดลง ดังนั้น เราเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสในการเจรจาเพื่อบรรลุผลงานที่นำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองฝ่าย.”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด