การตีฆ้องของชนเผ่าเซอดังในตำบล Ngọc Réo

บริเวณลำธาร Đắk Lôi ในตำบล Ngọc Réo มีหินก้อนใหญ่ท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีจึงมีอากาศโปร่งและเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยทางการท้องถิ่นได้มีแผนพัฒนาที่นี่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งภายใต้การสนับสนุนของรัฐ สมาชิกสหกรณ์เกษตร บริการและการท่องเที่ยว Ngọk Réo ได้เปิดโซนจัดแสดงสินค้าท้องถิ่น นาย A Thảo เลขาธิการพรรคสาขาหมู่บ้าน Kon Jong และผู้อำนวยการสหกรณ์เกษตร บริการและการท่องเที่ยว Ngọk Réo ได้เผยว่า การท่องเที่ยวชุมชนได้สร้างแนวทางการพัฒนาใหม่ ซึ่งช่วยให้ชนเผ่าเซอดังเปลี่ยนแปลงแนวความคิด วิถีชีวิตและการสร้างฐานะ

“จนถึงขณะนี้ สหกรณ์เกษตร บริการและการท่องเที่ยว Ngọk Réo มีสมาชิก 20 คนโดยพวกเราจัดกิจกรรมปลูกไม้ดอกไม้ประดับและต้นไม้ใหญ่บริเวณถนนชนบทและสวน ทำความสะอาด ปลูกต้นไม้และก่อสร้างซุ้มศาลานั่งเล่นบริเวณลำธาร Đắk Lôi อีกทั้งเสนอให้ทางการท้องถิ่นสนับสนุนเงินเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน”

คุณ Y Doan ได้เผยว่า หลังจากหมู่บ้าน Kon Jong พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน ชาวบ้านที่นี่ รวมถึงธุรกิจครัวเรือนต่างๆพร้อมร่วมมือและเตรียมพร้อมบริการที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ทำความสะอาด ใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมของชนเผ่า อาทิเช่น การตีฆ้อง การร้องเพลงพื้นเมือง การพัฒนาอาชีพทำเหล้าอุ การทอผ้าลวดลายพื้นเมืองและอาหาร

“เราได้เสริฟอาหารท้องถิ่นและเหล้าอุด้วยบริการที่ดีที่สุดให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่มาแล้วก็อยากกลับมาอีก”

ทั้งนี้ ตำบล Ngọk Réo มีหมู่บ้าน 7 แห่ง รวมประชากรกว่า 5,600 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าเซอดัง Tơ Đrá ที่มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมหลากหลาย ได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เช่น การแสดงฆ้อง การฟ้อนซวาง เทศกาลพื้นเมืองและอาชีพหัตถกรรม หลังจากมีการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน บรรดาศิลปินอาวุโสได้เปิดชั้นเรียนการตีฆ้องและ ฟ้อนซวางให้แก่คนรุ่นใหม่เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมและแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม นอกจากนี้ ยังฟื้นฟูบ้านโรง จัดตั้งทีมแสดงฆ้องและฟ้อนซวาง อนุรักษ์อาชีพหัตถกรรม เช่น การทำเครื่องจักสาน การทอผ้าลวดลายพื้นเมือง การตีเหล็ก เป็นต้น

คุณ Y Hoa หัวหน้ากลุ่มร่วมมือทำเหล้าอุ Kon Jong

คุณ Y Hoa หัวหน้ากลุ่มร่วมมือทำเหล้าอุ Kon Jong ได้เผยว่า ทางสหกรณ์และชาวบ้านได้ทำบูธที่แนะนำสินค้า OCOP ของท้องถิ่น เช่น น้ำผึ้ง หน่อไม้แห้ง กาแฟและเหล้าอุ โดยในตอนแรก ครอบครัวเธอได้ทำเหล้าอุเพื่อขายในหมู่บ้านเท่านั้น ต่อมา มีคนสั่งซื้อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้นและมีการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน ทำให้อาชีพนี้สร้างรายได้ให้แก่สตรีในหมู่บ้าน

“ดิฉันได้ทำเหล้าอุที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร มีตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม จากการที่เหล้าอุสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เราก็ชวนกันผลิตและขยายพื้นที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีพันธุ์ท้องถิ่นเพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับทำเหล้าอุ”

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาเที่ยวบริเวณลำธาร Đắk Lôi และหมู่บ้าน Kon Jong นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ค้นคว้าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอาหารของชนเผ่าเซอดัง ซึ่งทิวทัศน์และเอกลักษณ์วัฒนธรรมช่วยให้ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตที่ดีขึ้นและมีความอิ่มหนำผาสุก.