นาง บ่านถิแทง (ขวา) แนะนำวิธีการเย็บปักถักร้อยลวดลายพื้นเมืองให้แก่สาวๆ ในหมู่บ้าน

อาชีพปักผ้าลวดลายพื้นเมืองได้รับการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนในชุมชนชนเผ่าเย้าเตี่ยนบริเวณช่องเขา Đèo Gió ตำบล Ngân Sơn จังหวัดท้ายเงวียน เช่น นาง บ่านถิแทง ได้เรียนการปักผ้ามาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งต้องมีความอดทน ความพิถีพิถันและความคิดสร้างสรรค์ โดยการเย็บผ้าโพกหัวของสตรีชนเผ่าเย้าเตี่ยนต้องใช้เวลาหลายวันในขณะที่การเย็บชุดแต่งกายและกระเป๋าต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเดือน โดยปัจจุบัน นาง แทง ได้เป็นผู้สอนการเย็บปักถักร้อยลวดลายพื้นเมืองให้แก่สาวๆ ในหมู่บ้าน

“ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นผู้สอนการปักผ้าลวดลายพื้นเมืองให้แก่คนรุ่นใหม่เพื่อสืบทอดอาชีพหัตถกรรมและรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าเย้าเตี่ยน”

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์

ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าลวดลายพื้นเมืองนับวันเพิ่มขึ้น ทำให้ นาง แทงและสตรีคนอื่นๆ ส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยภายใต้การสนับสนุนของสมาคมสตรีตำบล เมื่อปี 2023 ได้มีการก่อตั้งกลุ่มปักผ้าลวดลายพื้นเมือง Đèo Gió รวมสมาชิก 20 คน ซึ่งในตอนแรกก็ได้ประสบความยากลำบากในการจำหน่ายสินค้าในต่างจังหวัด เช่น การผลิตที่ยังทำได้ไม่มาก คุณภาพสินค้า การประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าถึงลูกค้ายังขาดประสิทธิภาพ โดยการอบรมและแนะนำวิธีการจำหน่ายสินค้าของสมาคมตำบลได้ช่วยให้สมาชิกกลุ่มฯมีความมั่นใจมากขึ้นในการปักลวดลายต่าง ๆ เช่น นก สัตว์ ป่าเขาและดอกไม้ให้มีเอกลักษณ์ของชนเผ่า การใช้สีอย่างสวยงามผสานกับเครื่องประดับเงินในการทำชุดแต่งกายของสตรีชนเผ่าเย้า ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก และทางกล่มยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายช่องทางการตลาดอีกด้วย นาง ดั่งถิแทง และนาง บ่านถิเฮือง สมาชิกกลุ่มปักผ้าลวดลายพื้นเมือง Đèo Gió ได้เผยว่า

 “การทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เสื้อ ผ้าโพกหัว กางเกงขายาว กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายไหล่ต้องใช้เวลาและมีความพิถีพิถัน โดยลูกค้านิยมซื้อผ้าโพกหัวของสตรีชนเผ่าเย้าเตี่ยนเป็นอย่างมาก”

 “สมาชิกกลุ่มสามารถสื่อสารผ่าน zalo messeger และขายของผ่านโซเชียลมีเดียอย่างสะดวกรวดเร็วมาก”

ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มปักผ้าลวดลายพื้นเมือง Đèo Gió

ปัจจุบัน มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าลวดลายพื้นเมืองกว่า 30 ชนิด เช่น ผ้าโพกหัว เสื้อ กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายไหล่ในกรุงฮานอย นครไฮฟอง จังหวัดกาวบั่งในราคาตั้งแต่ 6-20 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกในกลุ่มฯ โดยสมาชิกกลุ่มได้ live สดผ่านทาง facebook และส่งเสริมการขายของผ่านอีคอมเมิร์ซเพื่อรักษาอาชีพหัตถกรรม อันเป็นการยืนยันบทบาทของสตรีในเขตเขาที่กล้าคิดกล้าทำ พัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างฐานะ พัฒนาอาชีพหัตถกรรมให้มีความยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจให้แก่สตรีเขตเขาในการสร้างฐานะให้แก่ครอบครัว.