(VOVWORLD) - ในกรอบงานนิทรรศผลสำเร็จของประเทศ "80 ปี เส้นทางแห่งเอกราช - เสรีภาพ - ความสุข"ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเวียดนามทั้ง 12 สาขาได้รับการถ่ายทอดอย่างชัดเจนในพื้นที่สร้างสรรค์ขนาดใหญ่และทันสมัย ช่วยเปิดเส้นทางแห่งการค้นคว้าวัฒนธรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งเป็นเวทีช่วยให้ผู้ชมสามารถทดลอง เรียนรู้ประสบการณ์และพบปะสังสรรค์ ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบันและเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองสามารถพัฒนาในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่
ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเวียดนามทั้ง 12 สาขาได้รับการถ่ายทอดอย่างชัดเจนในพื้นที่สร้างสรรค์ขนาดใหญ่และทันสมัย (Dương Dũng/congly.vn) |
ไม่เหมือนกับโรงละครที่มีความคุ้นเคยอยู่แล้ว การจัดแสดงในพื้นที่นิทรรศการถือเป็นการจัด “เวทีเปิด” สำหรับวัฒนธรรมและศิลปะ โดยมีการเสนอไม่ว่าจะเป็น เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ภาพพิมพ์ด่งโห๋ เทคโนโลยีเสมือนจริง เกมส์ ภาพยนตร์และแฟชั่น ซึ่งทุกสิ่งถูกรวบรวมไว้ในพื้นที่เดียวอย่างกลมกลืน คือการผนึกรูปแบบวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเล่าเรื่องอย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับวัฒนธรรมเวียดนามที่ไม่เพียงแต่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี เท่านั้น แต่ยังถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
โซนจัดแสดง "สร้างสรรค์เพื่อการพัฒนา" เสนอภาพรวมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้านวัฒนธรรมทั้ง 12 สาขา ได้แก่ การโฆษณา สถาปัตยกรรม ซอฟต์แวร์และเกมส์ หัตถกรรม การออกแบบ ภาพยนตร์ การพิมพ์ แฟชั่น ศิลปะการแสดง วิจิตรศิลป์ การถ่ายภาพและนิทรรศการ โทรทัศน์และวิทยุ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยแต่ละสาขาช่วยให้ผู้ชม โดยเฉพาะคนรุนใหม่ไม่เพียงแต่ได้รับชมเท่านั้น หากยังได้เข้าร่วมหรือสัมผัสได้โดยตรงผ่านรูปแบบใหม่
“ดิฉันได้ชมละครเวที ชมการแสดงเพลงพื้นเมือง “แจ่ว” ทดลองใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง สวมใส่ชุดยุคราชวงศ์เหงวียนและลองใช้กล้องถ่ายวิดีโอ ผ่านกิจกรรมเหล่านี้ ดิฉันมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีและประวัติศาสตร์ของประเทศเวียดนาม”
“ในนิทรรศการนี้ มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเกี่ยวกับวัฒนธรรม การลองสวมใส่เสื้อผ้าและถ่ายคลิป เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างสะดวก ช่วยให้พวกเขาตระหนักได้ว่า เวียดนามมีสิ่งที่งดงามและน่าสนใจมากมาย ส่วนดิฉันเองก็เข้าใจวัฒนธรรมของประเทศตัวเองมากยิ่งขึ้น”
ภาพในกิจกรรม (Dương Dũng/congly.vn) |
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจให้กับนิทรรศการครั้งนี้คือรายการแสดงศิลปะที่ได้รับการจัดแสดงอย่างรอบคอบ โดยมีการผสมผสานระหว่างท่วงทำนองพื้นบ้านกับเทคนิคการแสดงร่วมสมัย ตั้งแต่การแสดงเพลงทำนอง “แจ่ว” เพลงทำนอง “กวานเหาะ” ศิลปะการแสดงดนตรีพระราชวังเว้ ไปจนถึงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และการแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งช่วยเปิดพื้นที่แห่งการผสานระหว่างสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่และระหว่างการอนุรักษ์กับการเปลี่ยนแปลงใหม่
จากมุมมองของผู้ที่ทำงานด้านศิลปะอย่างเป็นมืออาชีพ การจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเวียดนาม นาย ฝ่ามดึ๊กลอง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตโครงการ “สวัสดีเวียดนาม” กล่าวว่า
“การนำศิลปะประเภทต่าง ๆ มาแนะนำในนิทรรศการที่มีขอบเขตกว้างใหญ่แบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้สาธารณชนได้รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับนานาชาติ และก็สะท้อนให้เห็นถึงการวางแผนอย่างเป็นระบบจากฝ่ายบริหารและรัฐเวียดนาม”
การแสดงได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก (Dương Dũng/congly.vn) |
ส่วนนาย ตะกวางดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวย้ำว่า
“เราไม่เคยใช้พื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อจัดนิทรรศการที่ใหญ่แบบนี้เลย ผมคิดว่า พื้นที่แห่งนี้สามารถตอบสนองความต้องการในทุกด้านช่วยให้เราสามารถจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ในระดับระหว่างประเทศได้ นี่ยังเป็นโอกาสให้เราประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกี่ยวกับคนและประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะผลสำเร็จต่างๆ ของเวียดนามให้แก่เพื่อนมิตรนานาชาติและประชาชนภายในประเทศได้”
วัฒนธรรมได้กลายเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของประเทศ ถ้าหากได้รับการผนึก เชื่อมโยง และเผยแพร่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ อัตลักษณ์นั้นไม่เพียงแต่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังได้รับการเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีส่วนช่วยยืนยันเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่สร้างสรรค์และเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างต่อเนื่องบนแผนที่วัฒนธรรมโลก.