(VOVWORLD) - ในระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ คริสโตเฟอร์ ลักซอน ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และเข้าร่วมฟอรั่มอนาคตอาเซียนครั้งที่ 2 การเยือนครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 19 มิถุนายน และนำความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับนิวซีแลนด์พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นำความสัมพันธ์เวียดนาม-นิวซีแลนด์พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ (chinhphu.vn) |
เวียดนามและนิวซีแลนด์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนปี 1975 นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนในภูมิภาคอยู่เสมอ รวมทั้งนิวซีแลนด์ ในขณะเดียวกัน นิวซีแลนด์ยืนยันอยู่เสมอว่า ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม และถือเวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญในนโยบายต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ความร่วมมือทวิภาคีที่ใกล้ชิด
ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงธำรงกลไกการเยือน การพบปะในระดับสูงและกลไกความร่วมมือทวิภาคี ในด้านการค้าและการลงทุน ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 12 ของนิวซีแลนด์ โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2023 และ 2024 อยู่ที่ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นิวซีแลนด์มีโครงการลงทุน 55 โครงการในเวียดนาม รวมยอดเงินทุน 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่คือในด้านการศึกษาและฝึกอบรม การเกษตร ป่าไม้ การประมงและการก่อสร้าง ส่วนเวียดนามมีโครงการลงทุนในนิวซีแลนด์คิดเป็นมูลค่า 43.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่คือในด้านอุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูป ที่พักและบริการอาหาร ธุรกิจขายส่งและขายปลีก การจำหน่าย การนำเข้าส่งออกและการเกษตร
ความร่วมมือทวิภาคีในด้านอื่นๆ ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และบรรลุผลงานที่น่ายินดี ทั้งสองฝ่ายกำลังส่งเสริมความร่วมมือในด้านใหม่ๆ อย่างแข็งขัน เช่น การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน เมื่อหวนมองในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา นาง แคโรไลน์ เบเรสฟอร์ด เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า
“ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้พัฒนาไปพร้อมกับสายสัมพันธ์ใหม่ๆ จนถึงปัจจุบัน ความผูกพันนี้มีความใกล้ชิดมากกว่าเมื่อ 50 ปีก่อน โดยเฉพาะความร่วมมือทวิภาคีที่ครอบคลุมในด้านความร่วมมือที่สำคัญๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ การเกษตร การพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยและการศึกษา”
โดยเฉพาะ ภายหลังความสำเร็จของการเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เมื่อเดือนมีนาคมปี 2024 ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศยังคงพัฒนาต่อไป และทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามส่งเสริมความสัมพันธ์นี้ให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
โอกาสความร่วมมือใหม่ๆ
การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ คริสโตเฟอร์ ลักซอน เป็นการเยือนพิเศษในสภาวการณ์ที่ปี 2025 ฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และ 5 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับนิวซีแลนด์ ดังนั้น การเยือนครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้ลึกซึ้งมากขึ้น และนำความสัมพันธ์เวียดนาม-นิวซีแลนด์พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในการเยือนของนายกรัฐมนตรี ลักซอน ครั้งนี้มีคณะผู้ประกอบการรายใหญ่ของนิวซีแลนด์จำนวน 20 คนร่วมเดินทางมาด้วย นี่เป็นโอกาสเพื่อให้สถานประกอบการของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงและสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนใหม่ คาดว่าในโอกาสนี้ จะมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับในด้านการศึกษา การฝึกอบรม เศรษฐกิจและการค้า การบิน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามความเห็นของเอกอัครราชทูต แคโรไลน์ เบเรสฟอร์ด นี่คือโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศเปิดความร่วมมือในด้านใหม่ๆ
“การเยือนของนายกรัฐมนตรีและคณะผู้แทนการค้ารายใหญ่ไม่เพียงแต่เป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังเป็นการกระชับ ขยายและพัฒนาความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนสำคัญๆ ดั่งเช่นเวียดนามอีกด้วย ถ้าถือความสัมพันธ์เป็นเสื้อผ้า โครงสร้างของความสัมพันธ์นี้ก็เหมือนเส้นด้ายที่ถักทอเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และในแง่นั้น การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี ลักซอน มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ในปัจจุบัน”
ไฮไลท์อีกประเด็นหนึ่งของการเยือนครั้งนี้คือ นายกรัฐมนตรี คริสโตเฟอร์ ลักซอน เข้าร่วมฟอรั่มอนาคตอาเซียนหรือ AFF ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดยเวียดนาม นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี คริสโตเฟอร์ ลักซอน โดยเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศใหม่คือการกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ดังนั้น การเยือนครั้งนี้จึงเป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำของทั้งสองประเทศหารืออย่างลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆของภูมิภาคและโลก ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับทัศนะและวิสัยทัศน์ของทั้งสองประเทศ
ตามความเห็นของเอกอัครราชทูต แคโรไลน์ เบเรสฟอร์ด นิวซีแลนด์ชื่นชมการเป็นเจ้าภาพจัดฟอรั่มอนาคตอาเซียนครั้งที่ 2 ของเวียดนาม โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกกำลังเผชิญกับความไร้เสถียรภาพมากมาย ปี 2025 ยังฉลอง 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างนิวซีแลนด์กับอาเซียน ดังนั้น ในการเยือนครั้งนี้ นิวซีแลนด์จึงมีความประสงค์ที่จะยืนยันถึงการสนับสนุนและจะกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนต่อไป ตลอดจนความสัมพันธ์ความร่วมมือกับเวียดนามภายในกรอบอาเซียน
ด้วยความหมายเหล่านี้ การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และการเข้าร่วมฟอรั่มอนาคตอาเซียนครั้งที่ 2 จะยังคงมีส่วนร่วมเสริมสร้างและกระชับความไว้วางใจทางการเมืองให้ลึกซึ้งมากขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือหลายด้าน และนำความสัมพันธ์เวียดนาม-นิวซีแลนด์พัฒนาจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.