การควบรวมสำนักงานบริหารราชการคือมาตรการเชิงก้าวกระโดดเพื่อพัฒนา

(VOVWORLD) - เวียดนามกำลังเดินหน้าควบรวมสำนักงานบริหารราชการ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญเพื่อปรับโครงสร้างหน่วยงานต่างๆในระบบการเมืองให้กระทัดรัด ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารและการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อปรับพื้นที่การพัฒนาในระดับท้องถิ่น แก้ไขปัญหาการพัฒนาแบบกระจัดกระจาย การลงทุนที่ขาดประสิทธิภาพและการจัดสรรแหล่งพลังที่ไม่เหมาะสม ตอบสนองความต้องการขยายตัวที่เลขสองหลักและเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศรุดหน้าต่อไป

     

การควบรวมสำนักงานบริหารราชการคือมาตรการเชิงก้าวกระโดดเพื่อพัฒนา - ảnh 1ดร.เหงวียนเตี๊ยนหยิง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการภายใน

ปัจจุบัน เวียดนามมี 63 จังหวัดและนคร โดยมีนครสังกัดส่วนกลาง 6 แห่งได้แก่กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ นครดานัง เว้ ไฮฟองและเกิ่นเทอ หลังจากรวมประเทศเป็นเอกภาพเมื่อปี 1975 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ควบรวมและแยกสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดหลายครั้ง

ควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดคือแนวโน้มสำคัญที่ต้องปฏิบัติ

การพิจารณาควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดเป็นแนวทางที่ได้กำหนดไว้แล้วและเป็นกระบวนการปรับพื้นที่การพัฒนาในระดับจังหวัด โดยในสภาวการณ์ที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ต้องปรับโครงสร้างหน่วยงานในระบบให้กระทัดรัด เข้มแข็งและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีส่วนร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้องเพรียง ครบถ้วน ระบบการสื่อสารที่รวดเร็วและการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆเพื่อระดมแหล่งพลังและส่งเสริมศักยภาพในด้านต่างๆ

ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่า การควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดและยกเลิกสำนักงานบริหารราชการระดับอำเภอจะช่วยประหยัดงบประมาณกว่า  1หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี คิดเป็นร้อยละ 3.8ของจีดีพี ดร.บุ่ยดึ๊กถุ อดีตรองหัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านบุคลากรของคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้ให้ข้อสังเกตว่า นี่คือแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่การพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเขต การพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคและการใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของเขตก็ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ส่วนดร.เหงวียนเตี๊ยนหยิง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการภายในได้แสดงความเห็นว่า

การควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดจะช่วยปฏิรูประบบบริหารราชการให้กระทัดรัด เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายและสร้างศักยภาพการพัฒนาใหม่ให้แก่ท้องถิ่น เช่น ที่ดินและส่งเสริมความได้เปรียบระดับท้องถิ่นและเขต โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการแยกสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัด การพัฒนาในปัจจุบันก็มีข้อจำกัดเกี่ยวกับพื้นที่ ที่ดินและแหล่งพลัง”

ต้องเร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัดและเป็นระบบ

ทั้งนี้ แนวทางการควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดได้รับความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในระดับสูง โดยในหลายปีมานี้ พรรคและรัฐได้เดินหน้าปรับโครงสร้างสำนักงานบริหารราชาการ รวมถึงควบรวมสำนักงานบริหารราชากรระดับตำบลที่ค้ำประกันมาตรฐานเส้นแบ่งจังหวัดและตำบลที่คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้อนุมัติและยังมีผลบังคับใช้

การควบรวมสำนักงานบริหารราชการคือมาตรการเชิงก้าวกระโดดเพื่อพัฒนา - ảnh 2นาย บุ่ยหว่ายเซิน กรรมการคณะกรรมาธิการวัฒนธรรมและการศึกษาของสภาแห่งชาติ

สำหรับการควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัด ข้อสรุปที่127 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเดินหน้าปรับโครงสร้างหน่วยงานต่างๆในระบบให้กระทัดรัดของกรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้ระบุว่า ต้องวิจัยการควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัด ตำบลและยกเลิกสำนักงานบริหารราชการระดับอำเภอเพื่อค้ำประกันความกระทัดรัดและประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งต้องรายงานผลการจัดทำร่างโครงการนี้ให้แก่กรมการเมืองพรรคในวันที่ 14 มีนาคม โดยกระทรวงกิจการภายในกำลังเน้นปรับปรุงเพื่อยื่นเสนอให้รัฐบาลรายงานต่อกรมการเมืองพรรค อีกทั้งขอการชี้นำของกรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการกลางพรรคเพื่อเดินหน้าปรับปรุงต่อไปและรวบรวมความคิดเห็นของพรรคสาขาสังกัดส่วนกลาง จังหวัด นคร สำนักงานและองค์กรหลังวันที่ 14 มีนาคมเพื่อเร่งปรับปรุงร่างโครงการให้สมบูรณ์เพื่อยื่นเสนอให้แก่คณะกรรมการกลางพรรคก่อนวันที่ 7 เมษายน ส่วนคณะกรรมการส่วนกลางได้ส่งคณะปฏิบัติงาน 20 คณะไปยังท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบและประสานงานในการปฏิบัติ

ในการวิจัยการควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดต้องวิเคราะห์ปัจจัยทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เกียรติประวัติ เศรษฐกิจ สังคม ขนบธรรมเนียมประเพณีและเรียนรู้ประสบการณ์จากต่างประเทศ นาย บุ่ยหว่ายเซิน กรรมการคณะกรรมาธิการวัฒนธรรมและการศึกษาของสภาแห่งชาติได้เผยว่า

กระบวนการนี้ต้องสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารของรัฐและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องประเมินการควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับจังหวัดอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ประชากร สถานการณ์เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม โครงสร้างพื้นฐาน ทักษะการบริหารและการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่น โดยประสบการณ์ควบรวมสำนักงานบริหารราชการระดับอำเภอและตำบลในอดีตจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้แก่การปฏิบัติกระบวนการนี้ในปัจจุบัน”

การที่เวียดนามเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรบริหารราชการในระบบการเมืองให้กระทัดรัดเปรียบเสมือนการปฏิวัติในด้านนี้เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้การพัฒนาประเทศรุดหน้าต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด