(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โตเลิม และประธานประเทศเวียดนามเลืองเกื่อง วันที่ 14 เมษายน นาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานประเทศจีนได้เดินทางถึงกรุงฮานอย เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน
ศ. ฟานจีนเอ๋อ นักเวียดนามศึกษาจากสถาบันวิจัยลัทธิมากซ์และผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศจีน |
การเยือนนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม – จีน 18 มกราคมและเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์และความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างสองประเทศ
ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน เวียดนามและจีนต่างตระหนักดีเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของการเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองและความสัมพันธ์มิตรภาพ โดยเฉพาะกำหนดแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมีเสถียรภาพในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก
ความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้าน การสร้างสรรค์ “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเวียดนาม – จีน” ตามแนวทางที่กระชับความสัมพันธ์ใน 6 ด้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นที่ได้รับการสถาปนาเมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 ซึ่งเปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี
กระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน
ในสภาวการณ์ดังกล่าว การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง มีความหมายสำคัญเป็นพิเศษ โดยเวียดนามเป็นประเทศแรกที่นายสีจิ้นผิงเดินทางมาเยือนในปีนี้และเป็นครั้งที่ 4 ที่นายสีจิ้นผิงเยือนเวียดนามในฐานะผู้นำสูงสุดของประเทศจีนและเป็นครั้งที่ 2 ในวาระนี้ของนาย สีจิ้นผิง ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากของพรรค รัฐและนาย สีจินผิง ต่อการกระชับความสัมพันธ์เพื่อนบ้านมิตรภาพและความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างสองประเทศ ศ. ฟานจีนเอ๋อ นักเวียดนามศึกษาจากสถาบันวิจัยลัทธิมากซ์สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์จีนแสดงความคิดเห็นว่า
“พรรคคอมมิวนิสจีนเพิ่งจัดการประชุมส่วนกลางเกี่ยวกับงานด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเลขาธิการใหญ่พรรค สีจิ้นผิง ได้กำชับให้ต้องถือการทูตเพื่อนบ้านเป็นภารกิจที่สำคัญ เป็นเป้าหมายหลักและได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เพื่อร่วมมือกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านมุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรือง เวียดนามเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของจีนและความสัมพันธ์เวียดนาม – จีนเป็นความสัมพันธ์พิเศษ เวียดนามเป็นประเทศแรกในการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในปีนี้ของนาย สีจิ้นผิง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงนโยบายการต่างประเทศของจีนที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน การให้ความสำคัญต่อประเทศเวียดนามและความสัมพันธ์เวียดนาม – จีน”
นาย หลินเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน |
บนพื้นฐานแห่งความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังในทุกด้านในเวลาที่ผ่านมา การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของผู้นำสูงสุดจีนจะช่วยสร้างพื้นฐานที่มั่นคงมากขึ้นให้แก่ความไว้วางใจทางการเมืองและกำหนดแนวทางให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมีเสถียรภาพและโปร่งใสในสภาวการณ์โลกและภูมิภาคที่ผันผวนต่อไป นาย หลินเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า
“การเยือนมีขึ้นในโอกาสรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน – เวียดนาม มีความหมายเป็นอย่างมากในการสานต่ออดีตและเปิดอนาคตให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม – จีน จีนมีความประสงค์ว่า จะร่วมมือกับเวียดนามและถือการเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสทำนุบำรุงความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน ซึ่งเป็นทั้งสหายและพี่น้อง กระชับความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ ความร่วมมืออย่างจริงจัง ผลักดันการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน – เวียดนาม ที่มีความหมายยุทธศาสตร์ให้เข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน”
ร่วมกันแปรวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตให้เป็นรูปธรรม
จากความหมายดังกล่าว การเยือนครั้งนี้จะส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาของความสัมพันธ์เวียดนาม – จีนในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการพัฒนาใหม่
ในกรอบการเยือน เลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง จะมีการพบปะกับเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ประธานประเทศเลืองเกื่อง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน เพื่อหารือเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางใหญ่ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทุกด้าน นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามยืนยันว่า
นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม |
“การเยือนครั้งนี้ช่วยกำหนดแนวทางใหญ่ๆ และความร่วมมือในด้านหลักๆ ยกระดับความร่วมมือตามแนวทางที่นับวันมีคุณภาพ ประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น สร้างจุดเด่นในความร่วมมือระดับสูง โดยเฉพาะในด้านที่เวียดนามมีความต้องการและเป็นจุดแข็งของจีน เช่น ระบบขนส่งทางราง การค้าด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษาและการฝึกอบรม เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เป็นต้น โดยจะมีเอกสารราว 40 ฉบับได้รับการลงนามในโอกาสนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญให้แก่การขยายความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่จะถึง”
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ยังสร้างนิมิตหมายที่สำคัญในปีพบปะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและประชาชนเวียดนาม – จีน 2025 มีส่วนร่วมขยายความร่วมมือในระดับท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจกัน ส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและไมตรีจิตมิตรภาพในระดับประชาชนให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคี
บนเจตนารมณ์ที่ว่า “ถ้าอยากก้าวไกล ต้องไปด้วยกัน” เวียดนามและจีนกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อแประความปรารถนาร่วมและวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับอนาคตที่สดใสด้วยความตั้งใจร่วม เสียงพูดเดียวกันและการปฏิบัติร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค.