นาย หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC  (Photo:qdnd)

มติที่ 57 ของกรมการเมืองพรรคฯเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์อย่างก้าวกระโดดพร้อมการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติได้กำหนว่า การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติเป็นพลังขับเคลื่อนหลักเพื่อพัฒนากองกำลังผลิตที่ทันสมัย พัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรือง

ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามเน้นผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมในด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และเซมิคอนดักเคอร์  ดังนั้นการประชุม AISC 2025 จึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อปฏิบัติเป้าหมายตามมติที่ 57

พร้อมต้อนรับเครือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก

นาย หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC ซึ่งเป็นสำนักงานร่วมจัดการประชุม AISC 2025 เผยว่า การจัดการประชุม AISC 2025 มีส่วนร่วมขยายรูปแบบความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเครือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น NVIDIA   แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเวียดนามในการต้อนรับเครือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก โดยเฉพาะด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่เข้ามาลงทุน 

“NIC มีความประสงค์ที่จะส่งเสริมการเชื่อมโยงกับระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ส่งเสริมความร่วมมือกับหุ้นส่วนทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อพัฒนาด้านเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ในเวียดนาม มีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายของเวียดนามคือสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุคใหม่”

การประชุมเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และเซมิคอนดักเตอร์-AISC 2025  สร้างโอกาสให้สถานประกอบการและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามได้พบปะกับผู้บริหารเครือบริษัทเทคโนโลยี นักลงทุนและหุ้นส่วนชั้นนำ เช่น Google, Intel, TSMC จากซิลิคอนวัลเลย์ ไต้หวัน ประเทศจีน สาธารณรัฐเกาหลี  ญี่ปุ่น อินเดีย และจีนกว่า 1 พันคน โดยเน้นหารือเกี่ยวกับการกำหนดก้าวพัฒนาต่อไปของหน่วยงาน AI และเซมิคอนดักเตอร์เวียดนามและโลก การประยุกต์ใช้ AI ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ การออกแบบชิปด้วย AI การเชื่อมโยงระหว่างเซมิคอนดักเตอร์กับปัญญาประดิษฐ์  การหารือเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ความร่วมมือในโลก และฟอรั่มนโยบายระดับสูงโดยมีการเข้าร่วมของผู้นำรัฐบาลเวียดนาม

 ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเวียดนาม

Bloomberg Intelligence เผยว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกบรรลุ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปลายปีที่แล้วและคาดว่า จะอยู่ที่กว่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดย AI กลายเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล จากการพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และ AI เวียดนามได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับบรรดานักลงทุนในโลกเนื่องจากมีความได้เปรียบต่างๆ เช่น บรรยากาศการเมืองที่มีเสถียรภาพ นโยบายดึงดูดการลงทุน  อัตราประชากรในวัยทำงานในระดับสูงและสถานะเชิงยุทธศาสตร์ในห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งได้รับการแสดงให้เห็นผ่านการที่เครือบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Intel, Amkor, Marvell, Qorvo, Qualcomm, Synopsys และ NVIDIA ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และศูนย์ข้อมูล AI ในเวียดนาม ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อช่วยให้เวียดนามมีก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยี  ดึงดูดความสนใจของบรรดานักลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในโลก โดยเฉพาะด้านเซมิคอนดักเตอร์ และ AI  นาย  Tomas Konigs ตัวแทนสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำเวียดนามและนาย Ranjan Sharma ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอาเซียนของ JPMorgan ได้ให้ข้อสังเกตว่า

“เวียดนามกำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ปัจจุบัน เวียดนามได้บรรลุความคืบหน้าในด้านการออกแบบชิป บรรจุภัณฑ์และการทดลอง แต่อย่างไรก็ดี  โอกาสสำหรับเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานยังไม่ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเพียงพอ ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นและเนเธอร์แลนด์พร้อมใช้โอกาสนี้”

“เมื่อกล่าวถึงการพัฒนาของ AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องกล่าวถึงเวียดนาม เพราะเวียดนามมีศักยภาพด้าน AI อีกมาก โดยอัตราการเติบโตในด้านนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ต่อปี ในหน่วยงานการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งบุคลากรกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและบริษัทหลายแห่งกำลังผลักดันการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและคลาวด์คอมพิวติ้ง ดังนั้น ผมเห็นว่า เวียดนามอาจเดินหน้าในด้าน AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

การประชุมเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และเซมิคอนดักเตอร์-AISC 2025 ครั้งแรกจะสร้างโอกาสเพื่อให้เวียดนามเข้าถึงข้อมูลใหม่ของหน่วยงานเซมิคอนดักเตอร์ และ AI โลก นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามยืนยันจุดมุ่งหมายพร้อมผลักดันความร่วมมือ มีบทบาทเชื่อมโยงกับเป้าหมายพัฒนาเวียดนามให้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้าน AI ในเวลาที่จะถึง.