สร้างก้าวกระโดดให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน

(VOVWORLD) -เศรษฐกิจภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดผ่านการมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อจีดีพี การสร้างงานทำ การผลักดันนวัตกรรม เพิ่มผลิตภาพแรงงาน ขยายตลาดและงบประมาณแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การขยายตัวอยู่ในเลขสองหลักในเวลาที่จะถึง เวียดนามต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน โดยต้องมีก้าวกระโดดในด้านความคิด ความตระหนักและการปฏิบัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสารที่ผู้นำพรรคและรัฐบาลยืนยันหลายครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเพื่อสร้างความไว้วางใจและพลังขับเคลื่อนให้แก่สถานประกอบการภาคเอกชน
สร้างก้าวกระโดดให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน - ảnh 1เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม กล่าวปราศรัยใน การประชุมกับคณะกรรมาธิการนโยบายและยุทธศาสตร์ส่วนกลางเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา (chinhphu.vn)

เศรษฐกิจภาคเอกชนมีส่วนร่วมต่อจีดีพีเวียดนามกว่าร้อยละ 50 และงบประมาณร้อยละ 30 ซึ่งดึงดูดแรงงานร้อยละ 85 และเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ในความเป็นจริง เศรษฐกิจภาคเอกชนยังคงประสบอุปสรรคมากมาย เช่น บรรยากาศการประกอบธุรกิจที่ยังคงต้องปรับปรุงในเรื่องความเท่าเทียม อุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและที่ดิน ซึ่งถือเป็นปัจจัยส่งต่อส่วนร่วมของเศรษฐกิจภาคเอกชนในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

กำหนดยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน

พรรคและรัฐกำหนดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องยกเลิกอุปสรรคต่างๆ ปลูกฝังความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภาคเอกชนเพื่อมีส่วนร่วมบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศถึงปี 2030 และ 2045 ในการประชุมกับคณะกรรมาธิการนโยบายและยุทธศาสตร์ส่วนกลางเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้กำชับว่า

“ต้องมียุทธศาสตร์อย่างชัดเจนสำหรับการพัฒนาของเศรษฐกิจภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับอัตราการพัฒนาของเศรษฐกิจปัจจุบัน สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเศรษฐศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองใหม่ของประเทศ โดยต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านนี้เพื่อค้ำประกันให้เศรษฐกิจภาคเอกชนสามารถพัฒนา ปรับตัว มีความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้องเน้นยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรเพื่อสนับสนึนการพัฒนาของเศรษฐกิจภาคเอกชน”

นอกจากนี้ เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยังยืนยันว่า เศรษฐกิจภาคเอกชนต้องเป็นแกนหลักพร้อมกับเศรษฐกิจภาครัฐและเศรษฐกิจหมู่คณะเพื่อนำประเทศเวียดนามพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป พรรคและรัฐจะมีนโยบายสำคัญๆ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น ช่วยให้ชมรมสถานประกอบการพัฒนาอย่างเจริญรุ่งเรือง

ควบคู่กับการส่งเสริมให้สถานประกอบการพยายามมากขึ้น โดยเน้นถึงการผลิตและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตามแนวโน้มต่างๆ ของโลก เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยังกำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ ต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้สถานประกอบการภาคเอกชนสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนและยาวนาน พร้อมทั้งพิจารณานโยบายที่ก้าวกระโดดเพื่อพัฒนาสถานประกอบการขนาดใหญ่ มีบทบาทแนะแนวและเดินหน้าในหน่วยงานหลักๆ ของประเทศ 

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามได้จัดตั้งคณะกรรมการชี้นำว่าด้วยการจัดทำร่างโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน โดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นหัวหน้าคณะฯ ซึ่งเน้นจัดทำมติเกี่ยวกับกลไกและนโยบายพัฒนาเชิงก้าวกระโดดของเศรษฐกิจภาคเอกชน นาย เหงวียนดึ๊กชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเผยว่า 

“เรากำลังประสานงานกับสมาคมอาชีพต่างๆ และสมาคมสถานประกอบการเพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะสถานประกอบการรายใหญ่ เพื่อจัดทำเนื้อหาของมติและมติของรัฐบาลเพื่อค้ำประกันให้การปฏิบัติถูกต้องตามแนวทางของพรรคคือ เป็นก้าวกระโดด สนับสนุนและสร้างสรรค์เพื่อช่วยให้สถานประกอบการภาคเอกชนสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืน หน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังคือ จะประสานงานกับสถานประกอบการ สมาคม กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ พิจารณาและเสนอนโยบายที่สอดคล้องที่สุด ค้ำประกันคำมั่นระหว่างประเทศและอำนวยความสะดวกมากที่สุดให้สถานประกอบการภาคเอกชนในเวียดนามสามารถพัฒนาอย่างเข้มแข็งเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาคและโลก”

พลังขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจ

ในปี 2025 นี้ รัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่า การมีส่วนร่วมวของเศรษฐกิจภาคเอกชนต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 55 และการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก การขยายตัวของสินเชื่อบรรลุร้อยละ 16 ซึ่งในนั้นต้องอำนวยความสะดวกให้แก่แหล่งเงินทุนสินที่สนับสนุนการผลิตและประกอบธุรกิจของเศรษฐกิจภาคเอกชน พร้อมทั้งมีการประสานงานระหว่างสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมกับสถานประกอบการรายใหญ่ๆ และสถานประกอบการที่ใช้เงินทุนจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอเพื่อช่วยให้สถานประกอบการภาคเอกชนกว่า 9 แสนราย รวมไปถึงธุรกิจครัวเรือนอีก 5 ล้านครัวเรือนที่กลายเป็นแกนหลักที่เข้มแข็ง สามารถประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและความก้าวหน้าใหม่ๆ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจ นาย ดิงจ่องถิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเผยว่า 

“เรามีนโยบายอยู่แล้วแต่ที่สำคัญคือการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนา ดังนั้น การปฏิรูปโครงสร้างระบบการบริหารภาครัฐ ลดขั้นตอนระเบียบราชการ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารภาครัฐและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นกำลังได้รับการปฏิบัติจากส่วนกลาง สภาแห่งชาติและรัฐบาล ช่วยให้เศรษฐกิจภาคเอกชนสามารถดำเนินงานตามกฎหมายและมีส่วนร่วมมากที่สุดต่อการขยายตัวและการพัฒนาของเศรษฐกิจ”

ด้วยการกำหนดแนวทางอย่างเข้มแข็งของพรรคและการชี้นำอย่างเคร่งครัดจากรัฐบาล เศรษฐกิจภาคเอกชนของเวียดนามกำลังมีโอกาสพัฒนาอย่างรวดเร็วในเวลาที่จะถึง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด