สว. สากล ภูลศิริกุล ประธานกลุ่มสส.มิตรภาพไทย-เวียดนามให้การต้อนรับนาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย (Photo: สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย)

ผลักดันความร่วมมือด้านรัฐสภาระหว่างเวียดนามกับไทย มุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

ในการให้การต้อนรับนาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย สว. สากล ภูลศิริกุล ประธานกลุ่มสส.มิตรภาพไทย-เวียดนามได้แสดงความยินดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสำนักงานนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศและระหว่างสองกลุ่มสส.มิตรภาพในเวลาที่ผ่านมา  ส่วนเอกอัครราชทูต ฝ่ามเวียดหุ่ง ยืนยันว่า จะประสานอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศในเวลาที่จะถึง เพื่อมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2026 ทั้งสองฝ่ายจะประสานงานในการจัดกิจกรรมต่างๆที่มีความหมาย มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรภาพและความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

ภาพการประชุมระหว่างสภาประชาชนกรุงฮานอยกับคณะผู้แทนสภากรุงเทพฯ

ขยายความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามกับไทย

เมื่อบ่ายวันที่ 19 พฤศจิกายน ในการประชุมกับคณะผู้แทนสภากรุงเทพฯ นาง ฝุ่งถิห่งห่า รองเลขาธิการพรรคสาขา ประธานสภาประชาชนกรุงฮานอย ได้แสดงความประสงค์ว่า เมืองสองแห่งจะขยายความร่วมมือในด้านการบริหารตัวเมือง การท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการ มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-ไทย ทางการกรุงฮานอยพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการของไทย โดยเฉพาะสถานประกอบการของกรุงเทพฯ เข้ามาลงทุนและขยายการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล การขยายตัวแห่งสีเขียว พลังงานหมุนเวียน เศรษฐกิจหมุนเวียนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   ส่วนนาย วิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพฯแสดงความประสงค์ว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ที่กรุงฮานอย เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีความก้าวหน้าในความร่วมมือ  มีส่วนร่วมต่อการรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

ในการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ได้แสดงความประทับใจต่อผลสำเร็จด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา และแสดงความยินดีต่อการที่จังหวัดสงขลาได้รับการประกาศเป็น “เมืองไมซ์ซิตี้”  ผ่านการประเมินของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี   สำหรับความร่วมมือด้านการประมง เอกอัครราชทูต ฝ่ามเวียดหุ่ง ได้แจ้งเกี่ยวกับมาตรการและผลการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ของเวียดนาม และเสนอให้จังหวัดสงขลาให้ความสนใจต่อการประสานงานและการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเวียดนาม

ในการประชุมใหญ่สมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทยสาขาจังหวัดอานยางครั้งที่ 1 วาระปี 2025-2030 นาย โตเยิน รองประธานสมาคมฯ ได้เผยว่า การจัดตั้งสมาคมฯ ถือเป็นก้าวเดินสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขยายการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน เชื่อมโยงศักยภาพและจุดแข็งของจังหวัดอานยางกับประเทศไทย โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยกำลังพัฒนาในหลายด้าน ในวาระใหม่นี้ ทางสมาคมฯ จะจัดกิจกรรมด้านการต่างประเทศระดับประชาชนในหลายด้าน เช่น การจัดรายการการแสดงศิลปะ งานแสดงสินค้าเวียดนาม-ไทย งานนิทรรศการภาพถ่าย สัปดาห์ภาพยนตร์ การเสวนาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การศึกษา การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทยจังหวัดอานยางกับชุมชนชาวเวียดนามในประเทศไทย ทางสมาคมฯ จะเป็นสะพานเชื่อมในนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค การฝึกสอนอาชีพและการจัดหางานระหว่างสถานประกอบการกับโรงเรียนของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมกิจกรรมด้านมนุษยธรรม การมอบทุนการศึกษา และโครงการพัฒนาชุมชน

ในกรอบสีฐานเฟสติวัล ปี2025   ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน โรงละครหุ่นกระบอกเวียดนามได้นำเสนอการแสดงอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการแสดงหุ่นกระบอกน้ำเล่าเรื่องราวชีวิตในเขตชนบทของเวียดนามที่เรียบง่าย   การจัดกิจกรรมนี้เป็นผลของความร่วมมือระหว่างสถานกงสุลใหญ่เวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงละครหุ่นกระบอกเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของการทูตวัฒนธรรมในการส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทย  การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของโรงละครหุ่นกระบอกเวียดนามได้มีส่วนร่วมทำให้สีฐานเฟสติวัล ปี2025 เปี่ยมไปด้วยคุณค่าและน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้น  สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นฝ่ายรุกในความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆในภูมิภาค สำหรับชุมชนชาวเวียดนามในประเทศไทย นี่เป็นโอกาสเพื่อรับชมและภาคภูมิใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาติ ซึ่งมีส่วนช่วยเชื่อมโยงระหว่างชาวเวียดนามโพ้นทะเลกับบ้านเกิดและประเทศชาติ.