ก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยีในการปกป้องน่านฟ้าของปิตุภูมิ

(VOVWORLD) - กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงเวียดเทลหรือ VHT สังกัดเครือบริษัทอุตสาหกรรมโทรคมนาคมกองทัพเวียดเทล ได้เริ่มทดลองใช้ระบบบริหารน่านฟ้าและสั่งการแบบอัตโนมัติ VQ-2M ในการซ้อมปฏิบัติการอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหม่ของอุตสาหกรรมกลาโหมของประเทศ และยืนยันถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปกป้องน่านฟ้า
 
ก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยีในการปกป้องน่านฟ้าของปิตุภูมิ - ảnh 1ภาพการอบรมของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ (qdnd.vn)

ระบบ VQ-2M ซึ่งเริ่มมีการใช้งานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือระบบเตือนภัยที่มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ โดยมีการจำลองปฏิบัติการแบบเรียลไทม์ พร้อมสั่งการแบบอัตโนมัติ ประกอบด้วยสถานีเรดาร์ภาคพื้น เครื่องบินลาดตระเวนไร้คนขับ รวมถึง ดาวเทียมสำรวจ ซึ่งทุกอย่างถูกเชื่อมโยงในเครือข่ายแบบบูรณาการ เพื่อเป็น “ตาข่ายอิเล็กทรอนิกส์” ครอบคลุมน่านฟ้าของประเทศ

ณ ศูนย์บัญชาการ VQ-2M มีจอภาพเปิดสว่างถูกเรียงเป็นแถว โดยข้อมูลจากเซ็นเซอร์นับร้อยตัวถูกส่งมาและรวบรวมภายในเสี้ยววินาที บนแผนที่ดิจิทัล 3 มิติ วัตถุเคลื่อนที่ทั้งหมดจะถูกทำเครื่องหมายไว้ พร้อมระบุและจำแนกประเภทตามระดับความอันตราย โดยทุกสัญญาณที่แปลกประหลาดที่โผล่ขึ้นในน่านฟ้า ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กหรือเครื่องบินพิสัยไกลก็ไม่สามารถพ้นจาก “สายตา” ของ VQ-2M ได้

นอกจากนี้ ระบบ VQ-2M มีส่วนช่วยให้เห็นน่านฟ้าเวียดนามในมุมกว้าง ด้วยจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 4,000–5,000 เที่ยวต่อวัน รวมถึงเที่ยวบินที่ไม่มีกำหนดการในแผนงานด้วย พลอากาศตรี หวูด่ายเยือง (Vũ Đại Dương) รองผู้บัญชาการหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ-กองทัพอากาศ เผยว่า ระบบดังกล่าวสามารถประมวลผลกิจกรรมข่าวกรองพร้อมกันได้มากถึง 300 รอบภายในเวลา 5 วินาที พร้อมคำนวณรัศมีตรวจจับของเรดาร์และพื้นที่ยิง ช่วยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถคำนวณ พร้อมประเมินเพื่อการสู้รบอย่างมีประสิทธิภาพ

เวียดเทลได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ-กองทัพอากาศ ในการเตรียมพร้อมติดตั้งระบบ โดยระบบสั่งการแบบอัตโนมัติ VQ-2M นี้ จะช่วยให้ผู้บัญชาการและทีมปฏิบัติการสามารถระบุเป้าหมาย พร้อมรับมือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ” 

 ยิ่งไปกว่านั้น ระบบ VQ-2M ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญสำหรับเทคโนโลยีสั่งการและบริหารปฏิบัติการแบบอัตโนมัติ ซึ่งได้ถูกพัฒนาจากระบบ VQ-1M ซึ่งเป็นระบบเตือนภัยในน่านฟ้าระบบแรกที่เวียดนามคิดค้นที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2015

การเป็นเจ้าของเทคโนโลยีตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบหลักการทำงานจนถึงการเขียนซอฟต์แวร์ควบคุมทั้งระบบนั้น มีความหมายที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งระบบ VQ-2M ไม่เพียงแค่เป็นผลงานทางวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความสร้างสรรค์ของบรรดาวิศวกรในกองทัพ ซึ่งถือเป็นกองทัพ “ทหารดิจิทัล” แห่งยุค 4.0 นาย เหงวียนดิ่งเหวียด (Nguyễn Đình Việt) หัวหน้าทีมโครงการ VQ-2M ได้ยืนยันว่า

 “การซ้อมทดลองในครั้งนี้เป็นพื้นฐานให้พวกเรามีความมั่นใจว่า ระบบ VQ-2M สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง ตอบสนองความต้องการของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ-กองทัพอากาศของเวียดนาม โดยระบบจะค้ำประกันความคล่องตัวและการปฏิบัติการในสภาพการสู้รบที่ซับซ้อน นอกจากนี้ พวกเราจะศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) ข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเสริมศักยภาพในการสนับสนุนและการประมวลผลในการสู้รบแบบอัตโนมัติ

 จากศูนย์บัญชาการ คำสั่งการประสานสามารถถูกส่งถึงหน่วยปฏิบัติการได้ทันที ตั้งแต่กองพันขีปนาวุธ สถานีเรดาร์ จนถึงกองทัพอากาศพร้อมรบ ซึ่งความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัย คือสามปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการควบคุมระบบ VQ-2M ซึ่งสำหรับการใช้งานจริง ระบบนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านการประมวลผลที่รวดเร็วและความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ชาญฉลาด นาวาอากาศโท เหงวียนแองท้าย (Nguyễn Anh Thái) ผู้บังคับกองพัน 282 สังกัดหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ-กองทัพอากาศ เผยว่า

 “เมื่อเทียบกับอดีตที่ต้องใช้กำลังพลเป็นหลัก ปัจจุบัน ระบบอัจฉริยะและอุปกรณ์อัจฉริยะเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนอย่างมาก ซึ่งช่วยให้ทีมปฏิบัติการสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีพร้อมปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

ก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยีในการปกป้องน่านฟ้าของปิตุภูมิ - ảnh 2การผลิตอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (qdnd.vn)

 จนถึงปัจจุบัน ระบบฯ ได้ถูกติดตั้งและใช้งานในจุดที่สำคัญ ๆ ของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ-กองทัพอากาศ ซึ่งถือเป็น “โล่เหล็ก” ในการปกป้องน่านฟ้าของประเทศ

 ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การพัฒนาอย่างรวดเร็วของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาทักษะความสามารถด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศด้วยตนเองต่างมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาระบบเตือนภัยปกป้องน่านฟ้า VQ-2M ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญและสติปัญญาของคนเวียดนามในยุคดิจิทัลได้อย่างชัดเจน ปัจจุบัน มีเพียงประมาณ 10 ประเทศทั่วโลกเท่านั้นที่สามารถพัฒนาระบบนี้ได้ด้วยตนเอง ซึ่ง VQ-2M พร้อมเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมายที่เหล่าทหารกองทัพเวียดนามได้คิดค้นขึ้นมานั้น เป็นสัญญาณแห่งการพัฒนาใหม่ของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเวียดนามและยกระดับความพร้อมรบของกองทัพ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด