(VOVWORLD) - สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนกระจายเสียงต่างประเทศได้รับอีเมล์และคอมเมนต์จากผู้ฟังเกือบ 371 ฉบับจาก 33 ประเทศและดินแดน โดยรายการภาคภาษาไทยได้รับอีเมล์และคอมเมนต์ 20 ฉบับ
การประกวด “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเวียดนาม” เอกลักษณ์วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวในเขตภูเขาภาคเหนือเวียดนาม ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกิจกรรม เอิร์ธ อาวเออร์ 2025 คือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจจากผู้ฟังหลายๆ ท่าน
ตามข้อมูลที่เราได้แจ้งในรายการตอบจดหมายท่านผู้ฟัง ในระหว่างวันที่ 10 มีนาคม -15 มิถุนายนี้ สถานีวิทยุเวียดนามจัดการประกวด “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเวียดนาม”สำหรับชาวต่างชาติและชาวเวียดนามโพ้นทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักเพื่อรำลึกครบรอบ 80 ปี การก่อตั้งสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งตรงกับวันที่ 7 กันยายน ด้วยรางวัลที่น่าสนใจคือแพ็กเกจท่องเที่ยวเวียดนาม 5 วัน 4 คืนค่ะ ผู้ฟังรายการภาคภาษาไทย สถานีวิทยุเวียดนามหลายๆ ท่าน เช่น อาจารย์ เกษม ทั่งทอง คุณ จรัลนัดดา จรูญโรจน์ คุณ Stamp Ploythet และกลุ่มนักศึกษาไทย ณ กรุงฮานอย บอกว่า กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อทำผลงานส่งเข้าร่วมการประกวด
คุณผู้ฟังที่สนใจต้องการเข้าร่วมการประกวดก็สามารถหาข้อมูลได้ผ่านรายการต่างๆ ของภาคภาษาไทยและเว็บไซต์ vovworld.vn นะครับ ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ฟังภาคภาษาไทยจะได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้ด้วย
ส่วนคุณ Manop จากประเทศอินเดียได้ถามว่า “ผมเป็นคนไทยที่กำลังอาศัยในประเทศอินเดีย อยากเข้าร่วมการประกวดนี้แต่ไม่ทราบว่า คนไทยที่อาศัยในต่างประเทศสามารถเข้าร่วมได้หรือไม่
นี่คือการประกวดสำหรับชาวต่างชาติและชาวเวียดนามโพ้นทะเล คุณ Manop เป็นชาวต่างชาติสามารถเข้าร่วมการประกวดนี้ได้ครับ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการประกวดนี้บนเว็บไซต์ของเราตามที่อยู่ www.vovworld.vn
ต่อไปคือคอมเมนท์ที่น่าสนใจของท่านผู้ฟังในสัปดาห์ที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ www.vovworld.vn โดยประมวลภาพ “ดอกกาหลงบานสะพรั่งทั่วพื้นที่ป่าเขาในจังหวัดเซินลา” และบทความต่างๆ เช่น “Plei Ơp หมู่บ้านร้อยปีในเมืองแห่งขุนเขาเปลกู” “วรรณศิลป์ชนกลุ่มน้อยในวงการวรรณศิลป์เวียดนาม” ... ได้รับความชื่นสนใจจากท่านผู้ฟังหลายๆ ท่าน นอกจากนี้ ท่านผู้ฟังยังสนใจต่อกิจกรรม เอิร์ธ อาวเออร์ 2025 ในเวียดนามด้วย
 |
เพื่อขานรับกิจกรรม เอิร์ธ อาวเออร์ 2025 ท้องถิ่นหลายแห่งของเวียดนาม โดยเฉพาะในตัวเมืองใหญ่ เช่น กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ นครดานัง กรุงเก่าเว้ เป็นต้น ได้จัดกิจกรรมต่างๆ โดยนอกเหนือจากการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในเวลา 20.30 น. – 21.30 น. ของวันเสาร์สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความรู้ของประชาชนเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การประกวดออนไลน์ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานขานรับเอิร์ธ อาวเออร์ปี 2025 การประกวด “รางวัลสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ” กิจกรรม “ 25 วินาทีดับเครื่องยนต์” การแจกใบปลิวและแขวนโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ การประกวดเต้น flashmod ร่วมกันประหยัดไฟฟ้า การประกวดสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปั่นจักรยานเพื่อเอิร์ธอาวเออร์ เป็นต้น
มีกิจกรรมเยอะมากคุณมิงเงวียดครับ และในประเทศไทย ก็มีการจัดกิจกรรม"ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน" ซึ่งดึงดูดความสนใจของประชาชนนับล้านคน รวมทั้งสถานประกอบการนับพันแห่ง ช่วยลดการใช้พลังงานได้ร้อยละ 10.2 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีใช่ไหมคุณ มิงเหงวียด
ปีนี้เป็นปีที่ 17 ที่เวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมเอิร์ธ อาวเออร์ ตามข้อมูลสถิติของบริษัทจัดการระบบไฟฟ้าและตลาดไฟฟ้าแห่งชาติจำกัดหรือ NSMO การปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ 448,000 kWh หรือถ้าคิดเป็นเงินก็ประมาณ 1,250,000 บาทค่ะ เราก็หวังว่า กิจกรรมที่เป็นประโยชน์นี้จะได้รับการขานรับจากประชาชนทุกประเทศต่อไป เพื่อมีส่วนร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ถนน ฟานดิ่งฝุ่ง ในกรุงฮานอย (Photo Internet) |
ต่อไปนี้ ขอเชิญท่านฟังเนื้อหาที่สำคัญในอีเมลของอาจารย์ เกษม ทั่งทอง แฟนพันธุ์แท้ของรายการครับ ซึ่งนอกจากขอบคุณรายการได้ตอบเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเวียดนามแล้ว อาจารย์ยังเล่าเรื่องการเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิ หลังจากไม่ได้ไปนานร่วม 10 ปี นับตั้งแต่เกษียณอายุราชการและก็พบว่าถนนระหว่างจังหวัดขอนแก่นไปชัยภูมิ เปลี่ยนจากถนน 2 เลนเป็น 4 เลนแล้ว จึงอยากจะเล่าเรื่องถนนในเมืองไทยให้ฟังกันคือ “เส้นทางหลักมี 4 เส้นทาง เริ่มจากกรุงเทพมหานคร โดยถนนหมายเลข 1 ไปภาคเหนือ ชื่อถนนพหลโยธิน ถนนหมายเลข 2 ไปภาคอีสาน ชื่อถนนมิตรภาพ ถนนหมายเลข 3 ไปภาคตะวันออก ชื่อถนนสุขุมวิท และถนนหมายเลข 4 ไปภาคใต้ ชื่อถนนเพชรเกษม
ดังนั้น ถ้ามีถนนแยกออกไปจะมีหมายเลขเพิ่ม เช่น ถนนหมายเลข 21 หมายเลข 23 หมายเลข 24 ถ้ามีถนนรองอีกก็เพิ่มหมายเลข เช่น ถนนหมายเลข 201 หมายเลข 203 หมายเลข 204 แสดงว่า ถนนเหล่านี้อยู่ในภาคอีสาน ถนนในภาคอื่นๆก็มีหมายเลขกำกับเช่นเดียวกัน
หน่วยงานที่รับผิดชอบมีกรมทางหลวง การทางพิเศษ และทางหลวงชนบท กำกับดูแลแต่ละถนน ถ้าเป็นถนนหลักจะให้กรมทางหลวง ถ้าเป็นทางด่วนจะให้การทางพิเศษ ถ้าเป็นถนนย่อยภายในจังหวัดก็จะให้ทางหลวงชนบท การแบ่งหน่วยงานกำกับดูแล จึงทำให้เมืองไทยมีถนนอย่างทั่วถึง ถนนที่เวียดนามเหมือนกันหรือว่าต่างจากเมืองไทยไหมครับ”
สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับถนนของเวียดนามก็คล้ายๆ กับไทย แต่การตั้งชื่อถนนในเวียดนามส่วนใหญ่จะตั้งชื่อตามสถานที่หรือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ถนนล้าง ถนนเบื๋อย ถนนเตยโห่ ถนนเหงวียนเต๊ดแถ่ง ถนนหวอเงวียนย้าป ถนนลี้เถื่องเกียด เป็นต้น สำหรับทางหลวงและไฮเวย์ก็มีการตั้งชื่อเป็นหมายเลข เช่น ไฮเวย์หมายเลข 1 หมายเลข 3 และหมายเลข 5 แต่ไม่มีการตั้งชื่อตามถนนแยกออกไปเหมือนที่ไทย.