เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม โฆษกสำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติในฉนวนกาซา Olga Cherevko เปิดเผยว่า สหประชาชาติได้รับแจ้งจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหมอิสราเอลว่า นับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม อิสราเอลอนุญาตให้รถบรรเทาทุกข์เข้าสู่ฉนวนกาซาได้วันละ 300 คันแทน 600 คันต่อวันตามข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 1 ที่กำลังมีผลบังคับใช้เพื่อเป็นการตอบโต้การที่กลุ่มฮามาสได้ละเมิดข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งคืนศพตัวประกันให้แก่อิสราเอล
ตามข้อตกลงหยุดยิงระยะ 1 ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ได้บรรลุ ณ ประเทศอียิปต์ กลุ่มฮามาสต้องส่งคืนตัวประกันทั้งหมด 48 ราย ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และร่างผู้เสียชีวิตให้แก่อิสราเอลภายในเวลา 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่ที่กองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซาถอนตัวครั้งแรก เมื่อบ่ายวันที่ 10 ที่ผ่านมา กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (U.S. Central Command-CENTCOM) ในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ยอมรับว่า อิสราเอลได้เสร็จสิ้นการถอนทหารรอบแรกในฉนวนกาซาในเที่ยงวันเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า กลุ่มฮามาสต้องเสร็จสิ้นการส่งคืนตัวประกันอย่างช้าที่สุดคือเที่ยงวันที่ 13 ตุลาคม แต่ถึงคืนวันที่ 14 ตุลาคม กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ 20 คนและส่งคืนศพตัวประกันอีก 8 ราย
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์หลายคนแสดงความกังวลว่า การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสว่าด้วยการดำเนินการระยะที่ 2 ของข้อตกลงนี้อาจเผชิญกับความเสี่ยงที่จะชะงักงันหรือแม้กระทั่งล้มเหลว.
ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำอียิปต์