การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 กำหนดอนาคตของลัทธิพหุภาคี

(VOVWORLD) - การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติหรือ UNGA ครั้งที่ 80 มีขึ้นในระหว่างวันที่ 9 ถึง 30 กันยายน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ นี่เป็นโอกาสเพื่อยกย่องบทบาทและส่วนร่วมขององค์กรพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา และกำหนดอนาคตของลัทธิพหุภาคี ตลอดจน แนวทางการพัฒนาระดับโลกในปีต่อๆ ไป
การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 กำหนดอนาคตของลัทธิพหุภาคี - ảnh 1สัญลักษณ์ของสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ (REUTERS/David 'Dee' Delgado)

 

การประชุม UNGA ครั้งที่ 80 มีขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ภายใต้หัวข้อ “ร่วมกันดีกว่า: 80 ปีและมากกว่านั้นเพื่อสันติภาพ การพัฒนาและสิทธิมนุษยชน” ("Better Together: 80 years and more for peace, development and human rights")  โดยมีการจัดการประชุมสุดยอดสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ ความมั่นคงโลก การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แผนปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ SDGs ของประเทศต่างๆ

บททดสอบครั้งใหญ่ต่อสหประชาชาติ

กิจกรรมสำคัญของ UNGA-80 คือสัปดาห์ระดับสูง ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 ถึง 30 กันยายน โดยมีการประชุมสำคัญๆ ได้แก่ การประชุมระดับสูงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีการก่อตั้งสหประชาชาติในวันที่ 22 กันยายน การประชุม SDG Moment ในวันที่ 22 กันยายน การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศในวันที่ 24 กันยายน การประชุมระดับสูงเพื่อเปิดการสนทนาระดับโลกเกี่ยวกับการบริหารจัดการปัญญาประดิษฐ์ในวันที่ 25 กันยายน การประชุมอภิปรายในระหว่างวันที่ 23-27 กันยายน และในวันที่ 29 กันยายน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ เช่น การฉลองครบรอบ 30 ปีแผนปฏิบัติการเพื่อเยาวชนในวันที่ 25 กันยายน การเฉลิมฉลองและส่งเสริมวันขจัดอาวุธนิวเคลียร์สากล 26 กันยายน การประชุมสุดยอดสองปีแรกเกี่ยวกับความยั่งยืน ความครอบคลุม และความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจโลก เป็นต้น

การประชุม UNGA-80 ซึ่งจัดขึ้นในสภาวการณ์ที่สหประชาชาติเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีการก่อตั้ง และโลกยังคงเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ การค้า ธรรมาภิบาลในภาคเทคโนโลยีและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนี่ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับบทบาทของสหประชาชาติในฐานะเป็นเวทีพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในโลกในการส่งเสริมการสนทนาและความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ การรักษาสันติภาพ ความมั่นคง และกำหนดมาตรฐานธรรมาภิบาลระดับโลก นอกจากนี้ การประชุม UNGA-80 จะแสดงให้เห็นว่า ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการแปรเป้าหมายของข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้วให้เป็นรูปธรรมหรือไม่ นาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เผยว่า

“เราได้กำหนดอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของความร่วมมือในยุคปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัล ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น หากยังรวมถึงความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาได้รับประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์หรือ AI อีกด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็เป็นอีกประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พลังงานหมุนเวียนเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและประหยัดที่สุดในการผลิตพลังงาน นอกจากนี้ เรากำลังส่งเสริมระเบียบวาระการประชุมใหม่เพื่อสันติภาพผ่านการเจรจาและความร่วมมือ เพื่อให้ประเทศที่มีวัฒนธรรมและอารยธรรมที่แตกต่างกันสามารถร่วมมือกันได้”

เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม สมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้อนุมัติมติจัดตั้งหน่วยงานที่ปรึกษาด้าน AI ที่มีชื่อว่า “สภาวิทยาศาสตร์อิสระระหว่างประเทศว่าด้วย AI” โดยจะเผยแพร่รายงานประเมินทางวิทยาศาสตร์ที่อ้างอิงหลักฐาน รวบรวมและวิเคราะห์งานวิจัยที่มีอยู่เกี่ยวกับโอกาส ความเสี่ยง และผลกระทบของ AI เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน สหประชาชาติยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เร่งพัฒนาแผนงานด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อระบุพันธกรณีในรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติด้านสภาพภูมิอากาศโลกในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศในวันที่ 24 กันยายน

การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 กำหนดอนาคตของลัทธิพหุภาคี - ảnh 2นาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (REUTERS/Mike Segar )

ปัญหาปาเลสไตน์

ถึงแม้จะได้รับความคาดหวังเป็นอย่างมากในการบรรลุผลงานที่เป็นก้าวกระโดดเกี่ยวกับธรรมาภิบาล AI การปฏิบัติ SDG และพันธกรณีในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ UNGA-80 ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกแบ่งแยกเนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะ การถกเถียงที่เกี่ยวข้องกับการปะทะในฉนวนกาซาและปัญหารัฐปาเลสไตน์ โดยก่อนการประชุม UNGA-80 ประเทศตะวันตกหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยียมและแคนาดาได้ประกาศว่า จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในกรอบการประชุม UNGA-80 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งสำคัญของประเทศพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอล สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลและความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศเหล่านี้ต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงในฉนวนกาซา รวมถึงการเดินหน้าปฏิบัติยุทธนาการทางทหารครั้งใหญ่ของรัฐบาลอิสราเอลในดินแดนแห่งนี้ นาย ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ประกาศว่า

“ฝรั่งเศสพร้อมรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของฝรั่งเศส และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธแนวคิดที่ว่า ฝ่ายก่อสงครามกำลังชนะฝ่ายสันติภาพ”

แต่อย่างไรก็ตาม แผนการที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ของประเทศดังกล่าวกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากภายในโลกตะวันตก โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ทางการสหรัฐประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส เดินทางไปยังนครนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 นอกจากนาย อับบาสแล้ว ยังมีชาวปาเลสไตน์อีกประมาณ 80 คนได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐปฏิเสธและเพิกถอนวีซ่าของพวกเขา โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้อธิบายว่า ฝ่ายปาเลสไตน์กำลังทำลายโอกาสสันติภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสาเหตุที่หลายประเทศในยุโรปคัดค้านอย่างรุนแรง สำหรับสหประชาชาติ การตัดสินใจดังกล่าวยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรนี้กับทางการสหรัฐมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งตัดงบประมาณและเงินบริจาคให้แก่สหประชาชาติ ถอนตัวออกจากองค์กรต่างๆ ของสหประชาชาติ แถมยังขู่ว่า จะถอนตัวออกจากสหประชาชาติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด