ความร้อนแรงของเหตุการณ์ Kwangmyongsong-3
Hong Van-VOV -  
(VOVworld)- เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการปล่อยดาวเทียมสำรวจ Kwangmyongsong-3 ของเปียงยาง ซึ่งตามมาด้วยกระแสการคัดค้านจากหลายประเทศที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะท่าทีที่รุนแรงจากญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐที่ไม่สนใจต่อคำยืนยันของเปียงยางที่ว่าการยิงดาวเทียมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพและเหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้บรรยากาศทางการเมืองในโลกเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น.
(VOVworld)- เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการปล่อยดาวเทียมสำรวจ Kwangmyongsong-3 ของเปียงยาง ซึ่งตามมาด้วยกระแสการคัดค้านจากหลายประเทศที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะท่าทีที่รุนแรงจากญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐที่ไม่สนใจต่อคำยืนยันของเปียงยางที่ว่าการยิงดาวเทียมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพในโอกาสฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 100 ของประธานาธิบดีคิม อิล ซุง เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีเหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้บรรยากาศทางการเมืองในโลกเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น.
|
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการปล่อยดาวเทียมสำรวจ Kwangmyongsong-3
|
ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของเปียงยาง ดาวเทียมKwangmyongsong-3 ที่มีน้ำหนัก91ตันจะถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรด้วยจรวดพิสัยไกล Unha-3 ในช่วงกลางเดือนเม.ย.นี้ จากฐานยิงในเขตภาคเหนือของประเทศโดยจะมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ตามการวิเคราะห์ส่วนถังเชื้อเพลิงที่ติดกับดาวเทียมจะแยกตัวตกลงในเขตทะเลเหลืองห่างจากคาบสมุทร Byeonsan ของสาธารณรัฐเกาหลีประมาณ160กิโลเมตรและการแยกชิ้นส่วนของดาวเทียมระยะที่สองจะเกิดขึ้นบริเวณทะเลห่างจากเกาะ Luzon ของฟิลิปปีนส์ไปทางทิศตะวันออก140กิโลเมตร ส่วนจรวดUnha-3 ก็ถูกติดตั้งระบบทำลายอัตโนมัติหลังจากเสร็จสิ้นหน้าที่จึงจะไม่เป็นอันตรายต่อประเทศต่างๆในภูมิภาค นอกจากนี้เปียงยางยังได้ยืนยันอย่างเข้มแข็งแล้วว่านี่เป็นดาวเทียมด้านพลเรือนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของตนและแผนการยิงก็ได้เตรียมการมานานแล้ว ส่วนกระบวนการยิงดาวเทียมจะเป็นไปตามกฎหมายและถูกเปิดเผยอย่างโปร่งใสด้วยการอนุญาติให้นักข่าวต่างชาติหลายสิบคนไปสังเกตุการณ์ที่ฐานยิงดาวเทียม ณ ศูนย์อวกาศ Tongchang-ri ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เปียงยางได้อนุญาตให้สื่อมวลชนระหว่างประเทศเข้าถึงศูนย์พัฒนาอวกาศของตนรวมไปถึงการเชิญผู้แทนสำนักงานพัฒนาอวกาศจากหลายประเทศเข้าสังเกตุการณ์ด้วย
|
เป็นครั้งแรกที่เปียงยางได้อนุญาตให้สื่อมวลชนระหว่างประเทศเข้าถึงศูนย์พัฒนาอวกาศของตน
|
แต่ถึงอย่างไรก็ดี โดยไม่สนใจการอธิบายและท่าทีที่จริงจังของเปียงยาง หลายประเทศในโลกได้แสดงความกังวลต่อแผนการดังกล่าวโดยเฉพาะสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีต่างก็แสดงท่าทีที่รุนแรงที่สุดเพราะอ้างเหตุผลว่า อันที่จริงนี่เป็นการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฮิลลารี่ กลินตันได้ประกาศว่าแถลงการณ์เกี่ยวกับการยิงดาวเทียมของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีมีลักษณะยั่วยุและเรียกร้องให้เปียงยางปฏิบัติมติห้ามยิงจรวดพิสัยไกลของคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเคร่งครัดรวมทั้งยืนยันว่า การยิงจรวดจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของทั้งภูมิภาค นอกจากนี้สหรัฐยังตัดสินใจระงับการช่วยเหลือด้านอาหาร2แสน4หมื่นตันให้แก่เปียงยางตามข้อตกลงที่สองฝ่ายได้บรรลุเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และล่าสุดนี้คือเมื่อวันที่9เมษายน สหรัฐยังเร่งรัดให้จีนสร้างแรงกดดันเพื่อขัดขวางแผนการดังกล่าวของเปียงยาง ส่วนรัฐบาลของสาธารณรัฐเกาหลีก็แสดงจุดยืนเดียวกันกับสหรัฐที่ถือแผนการยิงดาวเทียมของเปียงยางมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาจรวดพิสัยไกลที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ ในขณะที่ญี่ปุ่นยืนยันว่าการยิงจรวดของเปียงยางนั้นไม่ว่าจะบรรทุกหรือไม่บรรทุกดาวเทียมแต่ใช้เทคโนโลยีจรวดพิสัยไกลต่างก็ถือว่าละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
กระแสการคัดค้านยังแสดงความรุนแรงมากขึ้นเมื่อกองทัพของประเทศเหล่านี้เริ่มเตรียมกำลังอาวุธที่ทันสมัยในเขตเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือท่ามกลางสถานการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า เปียงยางไม่มีทีท่าที่จะยกเลิกแผนการนี้ โดยทางการโตเกียว ได้ติดตั้งหน่วยจรวดป้องกันอากาศยานและส่งเรือพิฆาต Aegis ที่ติดตั้งจรวด SM-3 รวม3ลำไปยังทะเลฮัวตุ้งเพื่อเตรียมสกัดจรวดของเปียงยางถ้าหากออกนอกเส้นทางที่กำหนดและมุ่งหน้ามายังในดินแดนของญี่ปุ่น ส่วนฝ่ายสหรัฐก็ได้เตรียมพร้อมการใช้ระบบเรดาร์ที่ทันสมัยที่สุด SBX-1จากฮาวายพร้อมเรือพิฆาตของกองทัพในการติดตามและเตรียมยิงสกัดตจรวดของเปียงยางเช่นกัน
สำหรับฝ่ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีนั้น เพื่อตอบโต้แรงกดดันจากประเทศต่างๆเปียงยางก็ได้ออกประกาศที่แข็งกร้าวว่าการยิงสกัดจรวดบรรทุกดาวเทียมของตนจะเป็นการประกาศสงครามและเปียงยางจะตอบโต้ด้วยการโจมตีที่มีลักษณะการทำลายล้างสูง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ก็ยิ่งมีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อกำหนดเวลาแผนการยิงดาวเทียมกำลังใกล้เข้ามา แต่ตามความเห็นของผู้สังเกตุการณ์นั้นการปะทะครั้งใหญ่ยากที่จะเกิดขึ้นได้แต่จากแนวโน้มในปัจจุบันก็สามารถทำให้ความพยายามในการแสวงหามาตรการสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีที่ทุกฝ่ายได้พยายามในช่วงเวลาที่ผ่านมาหริบหรี่มากขึ้น./.
Hong Van-VOV