ความไม่มั่นคงของความมั่นคงในยุโรป
Huyen/VOV5 -  
(VOVworld)- เหตุทหารอังกฤษและฝรั่งเศสถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณเตือนภัยด้านความมั่นคงของประเทศเหล่านี้ ซึ่งนี่จะเป็นการโจมตีแก้แค้นการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายหรือเป็นผลจากอิทธิพลของแนวคิดอิสลามหัวรุนแรงยังคงเป็นคำถามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศกำลังเร่งหาคำตอบ แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เหตุรุนแรงนี้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงในยุโรปและภูมิภาคนี้จะต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่
(VOVworld)- เหตุทหารอังกฤษและฝรั่งเศสถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณเตือนภัยด้านความมั่นคงของประเทศเหล่านี้ ซึ่งนี่จะเป็นการโจมตีแก้แค้นการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายหรือเป็นผลจากอิทธิพลของแนวคิดอิสลามหัวรุนแรงยังคงเป็นคำถามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศกำลังเร่งหาคำตอบ แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เหตุรุนแรงนี้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงในยุโรปและภูมิภาคนี้จะต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่
กรณีทหารอังกฤษ1นายถูกแทงเสียชีวิตในลอนดอนและหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีทหารฝรั่งเศส1นายถูกคนร้ายจ้วงแทงด้วยมีดจนได้รับบาดเจ็บในกรุงปารีสนั้นถือเป็นเหตุระทึกขวัญในช่วงที่ผ่านมา แต่ที่น่าสนใจก็คือทั้งสองเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในย่านชุมชนที่คึกคักและดูเหมือนว่าคนร้ายไม่ต้องการปกปิดตัวเองเพราะเมื่อลงมือก่อเหตุก็ให้ผู้คนที่เดินผ่านถ่ายรูปและบันทึกวีดีโอคลิปด้วยและภาพจากคลิปวีดีโอที่หน่วยงานตำรวจเก็บได้ในที่เกิดเหตุที่มีภาพคนร้ายยืนอยู่ถือมีดที่เปื้อนเลือด จ้องไปที่กล้องและพูดว่า “พวกเราขอสาบานต่อพระเจ้าอัลเลาะห์ว่าจะไม่มีวันยุติการต่อสู้” รวมทั้งกล่าวถึงเหตุผลด้านการเมืองของการกระทำดังกล่าวว่าเพื่อแก้แค้นรัฐบาลอังกฤษที่ส่งกำลังเข้าร่วมสงครามต่อต้านชาวมุสลิมรวมทั้งเรียกร้องให้ชาวอังกฤษโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งทั้งนี้ก็สามารถทำให้หลายคนเชื่อว่านี่มิใช่เหตุฆ่าตกรรมธรรมดา เพราะถึงแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าทั้งสองเหตุการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่จากรูปแบบการลงมือของคนร้ายในฝรั่งเศสก็สามารถเห็นว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้มีเป้าหมายเดียวกันคือเป็นการแก้แค้นการโจมตีกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายของอังกฤษที่อัฟกานิสถานกับอิรักร่วมกับกองกำลังพันธมิตรและที่แอฟริกาเหนือของกองทัพฝรั่งเศสซึ่งล่าสุดคือการแทรกแซงทางทหารในประเทศมาลี หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่านี่คือคำประกาศสงครามของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงกับกองทัพฝ่ายตะวันตกเพราะพวกเขาได้เข้าร่วมสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในทั่วโลก ทั้งนี้ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังมุ่งหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุโจมตีต่างๆดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก็ยิ่งวุ่นวายกันไปอีกเนื่องจากเหตุรุนแรงนี้ได้เป็นการจุดชนวนให้แก่กระแสความโกรธแค้นต่อต้านชาวมุสลิม
ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เหตุรุนแรงที่มุ่งเป้าไปยังทหารอังกฤษและฝรั่งเศสนี้จะมีลักษณะเป็นการโจมตีเพื่อปกป้องศาสนาของชาวมุสลิมหรือไม่ แต่เมื่อเชื่อมโยงเหตุโจมตีก่อการร้ายต่างๆในรอบ1เดือนที่ผ่านมาตั้งเเต่เหตุการณ์ที่บอสตันไปจนถึงเหตุร้ายที่กรุงลอนดอนและกรุงปารีสเข้าด้วยกันแล้วจะเห็นได้ว่าต่างก็เป็นฝีมือของพวก “หมาป่าเดียวดาย” หรือ“โลน วูล์ฟ” คือผู้ก่อการร้ายแบบบุกเดี่ยวที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการทำสงครามปกป้องศาสนาที่ซับซ้อนและยากที่จะป้องกันได้ โดยตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายนั้น เอกสารข้อมูลที่เผยแพร่แนวคิดหัวรุนแรงนับวันแพร่สะพัดในโลกสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เนตของรัฐบาลบางประเทศในยุโรปได้อำนวยเงื่อนไขที่สะดวกให้แก่การหล่อเลี้ยงผู้ก่อการร้ายที่เป็น“หมาป่าเดียวดาย”ในขณะที่ทั้งหน่วยงานตำรวจและข่าวกรองของทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสหรือแม้กระทั่งสหรัฐเองก็ไม่สามารถค้นพบได้ และการโจมตีก่อการร้ายแบบบุกเดี่ยวนี้ก็ยิ่งเป็นการยืนยันถึงผลร้ายที่อันตรายของพวกหัวรุนแรงในการใช้ยุทธศาสตร์การประกาศสงครามเพื่อศาสนาทางอินเตอร์เนต ซึ่งจากรายงานของสำนักงานความมั่นคงเนเธอเเลนด์ ฟอรั่มต่างๆในเครือข่ายสังคมออนไลน์กำลังสร้างขวัญกำลังใจให้แก่การโจมตีแบบบุกเดี่ยวดั่งเช่นเหตุฆาตกรรมทหาร2ครั้งที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ปี2010มาจนถึงปัจจุบัน ตำรวจอังกฤษได้ปิดเว็บไซต์กว่า2พันเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาปลุกปั่นผู้คนให้ก่อการร้ายพร้อมทั้งเผยแพร่ข่าวและข้อความของผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุก่อการร้ายต่างๆที่เรียกร้องให้ทุกคนต่อต้านคารมแห่งสงครามเพื่อศาสนาและแนวคิดหัวรุนแรง กฎหมายของอังกฤษก็กำลังถูกบังคับใช้อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกลายเป็นบุคคลหัวรุนแรงและมีการติดต่อสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้และทั้งนั้น ความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาดของแนวคิดหัวรุนแรงในประชาคมชาวมุสลิมกำลังเผชิญกับอุปสรรคจากความขัดแย้งด้านทัศนะที่ยังไม่สามารถหาจุดจบได้ในรัฐบาลประเทศตะวันตกต่างๆ โดยอีกฝ่ายยืนหยัดจุดยืนให้ความเคารพสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและอีกฝ่ายส่งเสริมยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้าย ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าเหตุรุนแรงที่ปารีสและลอนดอนนั้นเกี่ยวข้องกับองค์การก่อการร้ายหรือไม่ แต่ตามความเห็นของประชามติหากสิ่งนี้ได้รับการยืนยันว่ามีจริงก็ถือเป็นฝันร้ายของหน่วยงานความมั่นคงของชาติตะวันตก เพราะจากการปฏิบัติรูปแบบใหม่ที่เป็นการโจมตีในลักษณะง่ายๆแบบบุกเดี่ยวและใช้อาวุธที่ง่ายๆที่ทำให้คนอื่นคาดไม่ถึงนั้นดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมุ่งเผยแพร่แนวคิดหัวรุนแรงเพื่อก่อความไม่งสบทางการเมืองและสังคม ซึ่งท่ามกลางอุปสรรคนานัปการจากการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะนั้น แน่นอนว่ายุโรปจะต้องเพิ่มความพยายามอีกหลายเท่าเพื่อรับมือกับความไร้เสถียรภาพที่อาจจะขยายตัวมากขึ้น./.
Huyen/VOV5