ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต

(VOVWORLD) - วันนี้ เมื่อ 80 ปีก่อน ณ จัตุรัสบาดิ่ง ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช อันเป็นการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เปิดศักราชใหม่ในประวัติศาสตร์ของประชาชาติ ในเหตุการณ์สำคัญนั้น ได้มีพิธีเชิญธงแดงดาวเหลืองขึ้นสู่ยอดเสา โบกสะบัดไปตามสายลม เพื่อเป็นการยืนยันว่า เวียดนามจะมีชื่ออย่างเป็นทางการบนแผนที่โลกนับจากนี้เป็นต้นไป เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 80 ปีวันชาติ 2 กันยายน สถานีวิทยุเวียดนามขอแนะนำรายการพิเศษภายใต้หัวข้อ “ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต”
ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 1เมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ณ จัตุรัสบาดิ่ง ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช อันเป็นการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (VNA)

ธงชาติคือสัญลักษณ์ของประเทศ และสำหรับเวียดนาม ธงชาติคือธงแดงมีรูปดาว 5 แฉกสีเหลืองอยู่กลาง ธงผืนนี้คือจิตวิญญาณของชาติที่ได้ผ่านพ้นความผันผวนของกาลเวลา เป็นนิมิตหมายของช่วงเวลาแห่งการต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปีเพื่อเอกราช เป็นภาพลักษณ์ของผู้ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อเอกราชและสันติภาพของประเทศในปัจจุบัน เพื่อให้วันนี้ บนท้องฟ้าแห่งเสรีภาพ ธงผืนนี้ยังคงโบกสะบัดอย่างสง่างามและภาคภูมิใจ นำประชาชาติเวียดนามก้าวเข้าสู่อนาคตที่สดใส

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 2ธงแดงดาวเหลืองโบกสะบัด ณ จัตุรัสบาดิ่ง 

สัญลักษณ์แห่งเอกราชและอธิปไตย               

ธงแดงดาวเหลืองปรากฏขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ จัตุรัสบาดิ่ง เมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 เมื่อประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราช ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นวันที่ประเทศมีชื่อเป็นทางการต่อหน้าประชาชนเท่านั้น หากยังเป็นวันที่ชื่อเวียดนามได้ปรากฏขึ้นอย่างเป็นทางการบนแผนที่โลกอีกด้วย

ผืนธงสีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความกระตือรือร้น ความมุ่งมั่น ความเชื่อมั่น จิตใจแห่งการเสียสละและการต่อสู้ที่กล้าหาญเพื่อการปฏิวัติ ดาวสีเหลืองเป็นแสงสว่างนำทางการชี้นำการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ดาว 5 แฉกเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของประชาชนทุกชนชั้น ทั้งปัญญาชน เกษตรกร กรรมกร นักธุรกิจและทหารในกลุ่มชาติพันธุ์เวียดนาม ศาสตราจารย์ แหมกกวางทั้ง จากสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้วิเคราะห์ว่า

“พร้อมกับปฏิญญาเอกราช ธงแดงดาวเหลืองได้เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของปิตุภูมิ นั่นคือรัฐเวียดนามใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น ระบอบการปกครองใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น และการเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชาติเวียดนามได้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง จากการเป็นทาสไปสู่การเป็นประชาชาติที่อิสระเสรี เป็นการประกาศให้คนทั้งโลกทราบว่า ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมตำแหน่งสำคัญบนแผนที่โลก ในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา ธงชาติเป็นสัญลักษณ์ของระบอบการปกครองทางการเมือง ความภาคภูมิใจในชาติ และแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งอำนาจอธิปไตยของชาติ”

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 3ธงแดงดาวเหลืองโบกสะบัด ณ ทำเนียบเอกราชในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา อันเป็นการสร้างนิมิตหมายชัยชนะของการปฏิวัติเวียดนาม (VNA)

ในสงครามต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช ธงชาติเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง เป็นที่พึ่งเพื่อให้กำลังใจทหารและประชาชนเวียดนามฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างชัยชนะ เพื่อให้วันที่ 7 พฤษภาคมปี 1954 ธงแดงดาวเหลืองได้โบกสะบัดบนหลังคาบังเกอร์ของนายพล เดอ กัสตริส์ เป็นการยืนยันชัยชนะอย่างสมบูรณ์ของกองทัพและประชาชนเวียดนามในยุทธนาการเดียนเบียนฟู หลังจากนั้นอีกกว่า 20 ปี เมื่อปี 1975 ธงแดงดาวเหลืองก็ได้โบกสะบัดในพื้นที่ทุกแห่งของประเทศจากเหนือจรดใต้เมื่อยุทธนาการโฮจิมินห์ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์และประเทศเวียดนามได้รวมเป็นเอกภาพ ทหารผ่านศึก เหงวียนวันเถิบ ผู้ขับรถถัง 390 พุ่งชนประตูทำเนียบเอกราชเมื่อปี 1975 แสดงความเห็นว่า

“ผมรู้สึกซาบซึ้งและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อธงแดงดาวเหลืองที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อและการเสียสละของคนหลายชั่วอายุคนโบกสะบัดที่ทำเนียบเอกราช อันเป็นการยืนยันถึงชัยชนะแห่งความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ต่อเส้นทางที่พรรคและลุงโฮได้เลือกเฟ้น เพื่อเอกราชและเสรีภาพของประชาชาติ เพื่อความสุขของประชาชน

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 4พิธีเคารพธงชาติในเขตพิเศษเจื่องซา  (baohaiquanvietnam.vn)

ภูมิใจในธงชาติ

ธงแดงดาวเหลืองคือความภาคภูมิใจของประชาชนเวียดนามทุกคน และจะยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นธงชาติโบกสะบัดที่จัตุรัสบาดิ่ง โบกสะบัดเหนือดินแดนที่เป็นจุดใต้สุดและเหนือสุดของปิตุภูมิในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา ธงแดงดาวเหลืองยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกราช อธิปไตยและความมุ่งมั่นแห่งสันติภาพของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย 

ในเขตพิเศษเจื่องซา จังหวัดแค้งหว่า พิธีเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาไม่เพียงแต่เป็นพิธีการทางทหารที่เคร่งขรึมเท่านั้น หากยังเป็นคำสาบานที่จะสานต่อจิตใจแห่งการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ความมุ่งมั่นที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยอันศักดิ์สิทธิ์เหนือทะเลและเกาะแก่งของปิตุภูมิอย่างมั่นคงอีกด้วย 

“พิธีเคารพธงชาติคือพิธีศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเรา เป็นเกียรติและความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติภารกิจบนเกาะเจื่องซา ภายใต้ธงชาติ เราได้เปล่งคำสาบานอันศักดิ์สิทธิ์ของทหาร 10 ข้อเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพรรค ประเทศชาติและประชาชน” 

“ธงชาติโบกสะบัดบนเกาะพร้อมเสียงเพลงชาติก้องกังวาลบนเกาะ ดิฉันรู้สึกว่า บ้านเกิดและปิตุภูมิของดิฉันอยู่ที่นั่น และเป็นการยืนยันถึงอธิปไตยของประชาชาติ

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 5ธงแดงดาวเหลืองโบกสะบัดที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก (UN)

ที่เสาธงหลุงกู๊ บนยอดเขามังกร จุดเหนือสุดของเวียดนาม ธงชาติ ขนาด 54 ตร.ม. ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ 54 ชนเผ่าถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาท่ามกลางเสียงเพลงชาติที่รุ่งโรจน์ เป็นการยืนยันถึงอำนาจอธิปไตยของชาติ ในขณะเดียวกัน ที่จุดใต้สุดของปิตุภูมิคือแหลมก่าเมาก็มีธงชาติอันศักดิ์สิทธิ์กำลังโบกสะบัดเช่นกัน 

ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 1977 ธงแดงดาวเหลืองของประชาชาติเวียดนามได้โบกสะบัดที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก สร้างนิมิตหมายแห่งการเป็นสมาชิกลำดับที่ 149 ขององค์กรพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดกระบวนการแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกของเวียดนาม ไม่นานหลังจากนั้น ธงแดงดาวเหลืองก็ปรากฏมากขึ้นในฟอรั่มระหว่างประเทศพหุภาคี เช่น การประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปก การประชุมเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซม และการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ธงแดงดาวเหลืองยังโบกสะบัดที่คณะเฉพาะกิจรักษาสันติภาพของเวียดนามในแอฟริกา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมในภารกิจการรักษาสันติภาพ พลตรี โมฮัมหมัด นาซมุล ฮัก เสนาธิการใหญ่กรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้ประเมินว่า 

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคำชื่นชมเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของกองกำลังรักษาสันติภาพของเวียดนาม จากผู้นำของสหประชาชาติ ตลอดจนรัฐบาลและประชาชนของประเทศซูดานใต้และอาบเย โดยเฉพาะทีมทหารช่างและโรงพยาบาลภาคสนามที่ถูกส่งไปประจำการที่ UNISFA และ UNMISS ผมมั่นใจว่า ในเวลาข้างหน้า จะยังคงได้รับความสำเร็จต่อไปด้วยความทุ่มเทและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจในประเทศที่ประจำการ

การที่ธงชาติเวียดนามปรากฏในสถานที่ต่าง ๆ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงกระบวนการผสมผสานของประเทศที่มีเอกราช ที่มีเสียงพูดและสถานะบนเวทีระหว่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน เผยว่า 

“จากที่เคยเป็นประเทศที่ถูกปิดล้อมและโดดเดี่ยว ปัจจุบัน เวียดนามมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 194 ประเทศ สถาปนาเครือข่ายความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความร่วมมือที่ครอบคลุมกับ 38 ประเทศ รวมถึงประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประเทศ G7 ประเทศและ G20 หลายประเทศและเวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นขององค์กรระหว่างประเทศกว่า 70 แห่ง”

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 6กองกำลังรักษาสันติภาพของเวียดนามได้มีส่วนร่วมเผยแพร่ภาพลักษณ์เกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่สวยงามและไฝ่สันติภาพไปสู่เพื่อนมิตรชาวต่างชาติ 

ทุกครั้งที่ปรากฏขึ้น ธงแดงดาวเหลืองไม่เพียงแต่ยืนยันถึงสถานะของประเทศที่มีเอกราชเท่านั้น หากยังเป็นการประกาศอย่างเข้มแข็งว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีสถานะมั่นคงในประชาคมโลก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้า สติปัญญาและความคาดหวังของเวียดนามในการมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและทั่วโลก เอกอัครราชทูต โตนหนือถินิง กล่าวว่า 

“เวียดนามได้ผสานพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับพลังที่เข้มแข็งแห่งยุคสมัย พลังภายในประเทศและเพื่อนมิตรทั่วโลกมาโดยตลอด ดังนั้น เราจึงมีพลังที่เข้มแข็งร่วมกันโดยเปลี่ยนจากสถานะและกำลังที่อ่อนแอให้กลายเป็นสถานะและกำลังที่แข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน เราเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของโลกอย่างแท้จริ

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 7ถนนหลายสายในนครโฮจิมินห์เต็มไปด้วยธงแดงดาวเหลืองและดอกไม้ฉลองครบรอบ 80 ปีวันชาติ 2 กันยายน (baodautu.vn)

ในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา บนเส้นทางที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติ ภาพธงแดงดาวเหลืองบนแผนที่การเมืองโลกได้กลายเป็นพลังที่เข้มแข็งในการยกระดับสถานะของประเทศ เป็นแรงผลักดันที่ช่วยให้การปฏิวัติเวียดนามฟันฝ่าความยากลำบากเพื่อบรรลุความสำเร็จบนเวทีระหว่างประเทศ

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 8เส้นทางที่เต็มไปด้วยธงแดงดาวเหลืองในตำบล เวินโห่ จังหวัดเซินลา

ธงแดงดาวเหลืองในวันชาติ

ภายหลัง 80 ปีนับตั้งแต่ธงแดงดาวเหลืองโบกสะบัดเหนือท้องฟ้าจัตุรัสบาดิ่ง และภายหลัง 40 ปีแห่งการปฏิบัติภารกิจโด๋ยเหมยหรือเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ปัจจุบัน เวียดนามมีพลังที่เข้มแข็ง อำนาจและอิทธิพลอย่างเพียงพอเพื่อเข้าร่วมการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ความสำเร็จในตลอด 80 ปีที่ผ่านมาคือพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชาติเวียดนามก้าวไปสู่อนาคตที่สดใส

จากประเทศยากจนและล้าหลัง เวียดนามได้หลุดพ้นจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำตั้งแต่ปี 2008 จากประเทศที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร เวียดนามได้กลายเป็นประเทศส่งออกข้าวและสินค้าเกษตรชั้นนำของโลก อัตราความยากจนลดลงจากร้อยละ 58 เมื่อปี 1993 ลงเหลือประมาณร้อยละ 1.9 ในปี 2024 ตามมาตรฐานความยากจนหลายมิติ

เวียดนามกลายเป็นเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับที่ 32 ของโลก ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีเฉลี่ยต่อหัวประชากรในปี 2025 สูงกว่าเกือบ 25 เท่าในรอบ 3 ทศวรรษ อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 62 ปีในปี 1990 เป็นประมาณ 74.7 ปีในปี 2025            ดัชนีการพัฒนามนุษย์หรือ HDI ของเวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศเฉลี่ยสูงของโลก ดัชนีความสุขตามการจัดอันดับของสหประชาชาติในปี 2025 เลื่อนขึ้น 8 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 อยู่อันดับที่ 46 จากจำนวนทั้งหมด 143 ประเทศ

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 9พิธีฝึกซ้อมในโอกาสฉลองครบรอบ 80 ปีการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและวันชาติ 2 กันยายน ณ จัตุรัสบาบิ่งในกรุงฮานอย

ความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของประชาชาติที่จะ “อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศมหาอำนาจ” กำลังมีโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ที่จะบรรลุผลภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ในศักราชแห่งการผงาดของประชาชาติ เวียดนามจำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระเบียบโลกใหม่ เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้กล่าวในพิธีฉลองครบรอบ 80 ปีหน่วยงานการทูตเวียดนาม 25 สิงหาคม ว่า 

“ในอีก 20 ปีข้างหน้า เวียดนามต้องมุ่งมั่นที่จะเป็นประเทศพัฒนา มีรายได้สูง เป็นประเทศที่มีอำนาจ มั่งคั่งและมีความสุข นั่นคือคำสั่งของสติปัญญาและหัวใจ ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศมหาอำนาจโลกของประธานโฮจิมินห์ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการก่อตั้งประเทศ และของประชาชาติเวียดนาม”

โดยเฉพาะ นับจากนี้ไปจนถึงปี 2045 เวียดนามมุ่งมั่นที่จะสร้าง “สถานะ” ใหม่ นั่นคือสถานะของประเทศที่พัฒนาแล้วและมีรายได้สูง มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและการผลิตระดับโลก ศาสตราจารย์ หลิวอิ๋ง จากสถาบันการเงินฉงหยาง มหาวิทยาลัยเหรินหมินของประเทศจีนแสดงความเห็นว่า 

“ผมเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างคล่องตัวและยั่งยืน ควบคู่กับการปฏิรูปการเมืองและการบริหาร การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามจะมีคุณภาพและขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น อนาคตของเวียดนามเต็มไปด้วยศักยภาพ ความน่าสนใจและความมีชีวิตชีวา

เวียดนามได้เปลี่ยนจาก “การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน” ไปสู่ “การมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และการกำหนดเกม” โดยปรับความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจและศูนย์กลางอำนาจของโลกอย่างกลมกลืน นาย จอห์น แมคออลิฟฟ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของมูลนิธิเพื่อการปรองดองและการพัฒนาแห่งสหรัฐแสดงความเห็นว่า 

“ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เวียดนามจะต้องมีบทบาทในเชิงรุกมากขึ้น มีบทบาทในการนำการเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ไม่เพียงแต่ในการส่งเสริมความปรองดองเท่านั้น หากยังรวมถึงการสร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีการปะทะและความขัดแย้ง เวียดนามสามารถใช้ประสบการณ์ของตนในการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในการแก้ไขจุดร้อนระอุเพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถเจรจากันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งได้ 

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะที่จัตุรัสบาดิ่ง เมืองหลวงฮานอย และพื้นที่ทุกแห่งของประเทศต่างก็เต็มไปด้วยธงแดงดาวเหลือง   สัญลักษณ์ของอนาคตที่สดใสของประชาชาติเวียดนาม

ธงแดงดาวเหลืองและเส้นทางไปสู่อนาคต - ảnh 10ประชาชน 2 ข้างทางฉลองงานฝึกซ้อมในโอกาสฉลองครบรอบ 80 ปีการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและวันชาติ 2 กันยายน

ตามสำนักงาน สถานประกอบการ ห้างร้านและบ้านเรือนของประชาชนได้รับการตกแต่งด้วยธงชาติและดอกไม้หลากสี  ดูเหมือนพรมสีสดใสที่ทอด้วยความรักปิตุภูมิ คุณ โด๋ถิบิ๊กถุก จากจังหวัดบั๊กนิงและ ตะถิซวน แสดงความเห็นว่า 

“ดิฉันภูมิใจ ซาบซึ้งใจและมีความสุขมาก ท้องถนนมีผู้คนคับคั่ง ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือภูมิใจที่ได้เป็นชาวเวียดนามและภูมิใจในชัยชนะ ภูมิใจในประวัติศาสตร์ที่กล้าหาญและรุ่งโรจน์ของทั้งประเทศภายหลัง 80 ปีแห่งเอกราช” 

“ตอนอยู่บ้าน ดิฉันไม่คิดว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้ เห็นเสื้อสีแดงและธงแดงดาวเหลืองเต็มถนน ดีใจและภูมิใจมาก 

เวียดนามกำลังย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาดภายหลัง 80 ปีแห่งการก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามที่มีเอกราช ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของธงชาติไม่ได้อยู่ที่สีแดงและดาว 5 แฉกสีเหลืองเพียงอย่างเดียว หากยังรวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนนับล้านต่อคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของเอกราช สันติภาพและการพัฒนาอีกด้วย ถ้าเอกราชต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ สันติภาพก็คือผลสำเร็จ ถ้าหากบรรพบุรุษได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อรักษาธงชาติไว้ ชาวเวียดนามรุ่นปัจจุบันก็กำลังใช้สติปัญญาและจิตใจแห่งความรับผิดชอบเพื่อทำให้ธงชาติโบกสะบัดอย่างงดงามบนแผนที่โลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด