(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้หรือ SCO ในฐานะแขกรับเชิญและปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในประเทศจีนในระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม - 1 กันยายน ซึ่งการปฏิบัติภารกิจนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ก็เพื่อปฏิบัติมติที่ 59 ของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในสภาวการณ์ใหม่ โดยเน้นเข้าร่วมฟอรั่มพหุภาคีและกลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาคและโลกอย่างแข็งขัน
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง (Photo: VGP) |
การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ปีนี้เป็นการประชุมใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ SCO ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2001 โดยมีการเข้าร่วมของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ผู้นำกว่า 20 ประเทศ รวมทั้งประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน และผู้บริหารองค์การระหว่างประเทศ 10 แห่ง
SCO ส่งเสริมจิตใจเซี่ยงไฮ้
การประชุมสุดยอด SCO เป็นหนึ่งในกิจกรรมการทูตประจำปีที่สำคัญที่สุดของจีน โดยเน้นหารือเกี่ยวกับการส่งเสริม “จิตใจเซี่ยงไฮ้” เสริมสร้างกลไกความร่วมมือ หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคีด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรม
ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง จะเป็นประธานในการประชุมครั้งที่ 25 ของสภาผู้นำประเทศ SCO และการประชุม SCO+ และมีบทปราศรัยที่สำคัญต่างๆ ซึ่งการจัดการประชุมใหญ่นี้แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของบรรดาประเทศสมาชิกในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างกว้างลึกมากขึ้นและดึงดูดความสนใจจากประชาคมโลก คาดว่า บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจะลงนามและอนุมัติ “แถลงการณ์เทียนจิน” อนุมัติยุทธศาสตร์การพัฒนา SCO ในอีก 10 ปีข้างหน้า ประกาศใช้เอกสารที่สำคัญต่างๆในโอกาสรำลึกครบรอบ 80 ปีชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์และการก่อตั้งสหประชาชาติ
ภายหลัง 24 ปีที่ได้รับการก่อตั้ง จากที่มีประเทศสมาชิก 6 ประเทศในช่วงเริ่มแรก ปัจจุบัน จำนวนสมาชิกขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ประเทศ ประเทศผู้สังเกตการณ์ 2 ประเทศและ 14 หุ้นส่วนสนทนาในภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา SCO ได้กลายเป็นองค์การระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีขอบเขตที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด มีบทบาทที่สำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาทั่วโลก
จากหลักการที่เปิดเผยและครอบคลุม SCO แสดงความยินดีต่อทุกประเทศที่รับรองจิตใจเซี่ยงไฮ้และประเทศและหุ้นส่วนต่างๆที่ต้องการเข้าร่วม SCO การที่เวียดนามเข้าร่วม SCO ในฐานะแขกรับเชิญของประเทศเจ้าภาพเป็นโอกาสเพื่อส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคี แลกเปลี่ยนจุดยืนและผลักดันเป้าหมายร่วมด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับจีนตามแนวทางที่สูงขึ้นใน 6 ด้าน
การปฏิบัติภารกิจนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับจีนกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งและบรรลุผลงานที่สำคัญต่างๆ ปีนี้ ทั้งสองประเทศกำลังฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต การหารือและการพบปะระดับสูงระหว่างสองประเทศถูกจัดขึ้นอย่างหลากหลาย เช่น การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ การเยือนของผู้นำทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม กับเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เมื่อวันที่ 15 มกราคม โดยประกาศเปิดปีแลกเปลี่ยนระดับประชาชนเวียดนาม-จีน 2025 ต่อจากนั้นคือการเยือนเวียดนามของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เมื่อเดือนเมษายนปี 2025 ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่ 4 ของผู้นำจีน แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในระดับสูงและการให้ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ทวิภาคี
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดัน โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2024 อยู่ที่กว่า 2 แสน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและใน 7 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 21 อยู่ที่ประมาณ 1 แสน 3 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับด้านการท่องเที่ยว ใน 7 เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวเวียดนามอยู่ที่กว่า 3.1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25.5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนาม ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการแสดงให้เห็นอย่างมีชีวิตชีวาของความสัมพันธ์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เวียดนาม – จีน ที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่กำลังอยู่ในระยะที่ดีที่สุดตามแนวทางที่สูงขึ้นใน 6 ด้านที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้อง คือความไว้วางใจทางการเมืองที่สูงขึ้น ความร่วมมือด้านกลาโหมและความั่นคงที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การพบปะสังสรรค์ที่ลึกซึ้งมากขึ้น การประสานงานพหุภาคีที่ใกล้ชิดมากขึ้น การแก้ไขการความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่ก็คือคำยืนยันของนาย เหอเหว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนามในการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนปีมิตรภาพเวียดนาม-จีนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“จีนและเวียดนามถือการพัฒนาของอีกฝ่ายเป็นผลประโยชน์ของตน นับตั้งแต่ที่สถาปนาความสัมพันธ์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการพัฒนาอย่างข้ามขั้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจสีเขียว ไฟฟ้าพลังงานลม ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และสินค้าการเกษตร ความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนกับเวียดนามอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งสองประเทศในการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพในโลกที่มีความผันผวน”
บนพื้นฐานนี้ การที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมสุดยอด SCO ปี 2025 จะมีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ ยืนยันบทบาทการเป็นฝ่ายรุกและมีความกระตือรือร้นของเวียดนามในกลไกความร่วมมือพหุภาคีในภูมิภาคและโลก.