ประธานประเทศ เลืองเกื่อง

การปฏิบัติภารกิจด้านการต่างประเทศครั้งนี้ของประธานประเทศ เลืองเกื่อง ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างลึกซึ้งของพรรค รัฐเวียดนามต่อความร่วมมือพหุภาคี ระเบียบวาระการประชุมใหญ่ของสหประชาชาติเท่านั้นหากยังยืนยันแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

ยืนยันการให้ความสำคัญของเวียดนามต่อสหประชาชาติ

สัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติภายใต้หัวข้อ “Better together”จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 22-30 กันยายน ซึ่งการประชุมหารือระดับสูงเน้นส่งเสริมจิตใจแห่งความสามัคคีระหว่างประเทศ ลัทธิพหุภาคี สันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนาและปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยมีการเข้าร่วมของประธานประเทศ เลืองเกื่อง และผู้นำ เจ้าหน้าที่ระดับสูง 192 ของประเทศสมาชิกสหประชาชาติ นาย เหงวียนก๊วกหยุง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐได้ย้ำว่า

“การที่ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เข้าร่วมการประชุมหารือระดับสูงของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ได้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนลัทธิพหุภาคีและการให้ความสำคัญของเวียดนามต่อสหประชาชาติ นี่เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามยืนยันบทบาทการเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก เพื่อให้เวียดนามแสดงจุดยืนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนา เสนอความคิดริเริ่มและมาตรการต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมของมนุษยชาติ เช่น สันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”

การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 มีขึ้นประจวบกับโอกาสที่สหประชาชาติรำลึกครบรอบ 80 ปีการก่อตั้งและ 48 ปีการที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เวียดนามเพิ่งรำลึกครบรอบ 80 ปีวันชาติและทั้งเวียดนามและสหประชาชาติกำลังปฏิรูปตามแนวทางการส่งเสริมประสิทธิภาพและปรับตัวเข้ากับความต้องการของยุคสมัย  ดังนั้น ในโอกาสนี้ ประธานประเทศ เลืองเกื่อง จะส่งสารของเวียดนามเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การสมานแผลสงคราม การปรับเปลี่ยนและพัฒนาอย่างเข้มแข็ง  พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เชิดชูคุณค่าของสันติภาพ การปรับเปลี่ยนอย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ยืนยันอีกครั้งถึงจุดยืนที่สนับสนุนลัทธิพหุภาคีและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของสหประชาชาติในธรรมาภิบาลโลก

ในกรอบการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศครั้งนี้ ประธานประเทศ เลืองเกื่อง จะเข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีกับสหรัฐทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรมและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ในโอกาสรำลึกครบรอบ 30 ปีการปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นปกติและ 2 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-สหรัฐเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะมีส่วนร่วมรักษาเสถียรภาพ และผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในรอบด้านในเวลาที่จะถึง ภายหลัง 2 ปีที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้มีการพัฒนาอย่างข้ามขั้น เอกอัครราชทูต เหงวียนก๊วกหยุง ได้ยืนยันว่า

“ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญและให้ความสนใจกันผ่านการธำรงการพบปะสังสรรค์ในทุกระดับ โดยเฉพาะการพบปะระดับสูง ผู้นำทั้งสองประเทศได้มีการพบปะและการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ โดยเฉพาะในหลายเดือนที่ผ่านมา เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ 4 ครั้งกับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการพบปะระดับสูงสร้างพื้นฐานและกำหนดแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในหลายด้าน”

ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศบรรลุผลงานในเชิงบวก โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง สหรัฐยังคงเป็นตลาดการส่งออกชั้นนำของเวียดนาม โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่กว่า 9 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐให้ความสำคัญต่อการเจรจาเกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทนกับเวียดนามและทั้งสองฝ่ายบรรลุความเข้าใจร่วมระดับสูง แนวทางการเจรจาเพื่อค้ำประกันการค้าอย่างยั่งยืนและสมดุลมากขึ้น

เวียดนามยังคงดึงดูดความสนใจจากบรรดาสถานประกอบการสหรัฐ โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี พลังงานและโลจิสติกส์ ส่วนจำนวนสถานประกอบการเวียดนามที่อยากลงทุนในสหรัฐนับวันเพิ่มมากขึ้น การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการเพิ่มจำนวนนักศึกษา นักท่องเที่ยวและชมรมชาวเวียดนามในสหรัฐนับวันเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งสร้างสะพานเชื่อมที่ช่วยส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

ในสภาวการณ์นี้ ภารกิจของประธานประเทศเวียดนาม เลืองเกื่อง ในกรอบสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ได้ยืนยันถึงนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม โดยให้ความสนใจเป็นอย่างงสูงต่อความสัมพันธ์กับสหประชาชาติ สร้างพื้นฐานใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ.