เวียดนามร่วมมืออย่างเข้มแข็งต่อกลไกพหุภาคีมาโดยตลอด ซึ่งการเข้าร่วมการประชุมเอเปกครั้งที่ 32 เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เศรษฐกิจที่คล่องตัว ผสมผสานอย่างกว้างลึกและร่วมมือเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเชื่อมโยง - การสร้างสรรค์ – ความรุ่งเรือง”ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้ง ยืนยันถึงบทบาทในฐานะประเทศสมาชิกที่กระตือรือร้น มีความรับผิดชอบและเป็นฝ่ายรุกมากขึ้นในการกำหนดโครงสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกปี 2027

เอเปก 2025: เสริมสร้างวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน ความเชื่อมโยง – การสร้างสรรค์ – ความรุ่งเรือง

การประชุมสุดยอดเอเปก ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของสัปดาห์การประชุมสุดยอดเอเปก โดยประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี อี แจ มยอง เป็นประธาน จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีผู้นำจาก 21 เศรษฐกิจสมาชิกเอเปก และผู้บริหารสถานประกอบการระดับโลกประมาณ 1,700 คนเข้าร่วม ซึ่งหัวข้อหลักประกอบด้วย ปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรมที่ยั่งยืน การเงินสีเขียวและตลาดคาร์บอน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของเอเปกในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1989 เอเปกยังคงยืนยันถึงการเป็นกลไกแห่งการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาค ความร่วมมือของเอเปกเน้นถึง 3 เสาหลัก ได้แก่ เสรีภาพทางการค้าและการลงทุน การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิค ปัจจุบัน ฟอรั่มเอเปกมี 21 เศรษฐกิจสมาชิก ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐ จีนและญี่ปุ่น 9 ประเทศสมาชิกของกลุ่ม G20 และอีกหลายเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนาอย่างคล่องตัว ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 37 ของประชากรโลก มีส่วนร่วมคิดเป็นร้อยละ 61 ของ GDP และร้อยละ 50 ของการค้าโลก

ในสภาวการณ์ดังกล่าว การประชุมครั้งนี้ได้ยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทที่ขาดไม่ได้ของเอเปกในความร่วมมือและการบริหารเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมโยงศูนย์กลางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก ธำรงการค้าและการลงทุนที่ยุติธรรมและมั่นคง นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่กลมกลืนให้แก่ทุกฝ่าย ประชาชนและสถานประกอบการ ส่งเสริมการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ และผลักดันการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค

เวียดนามมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อการกำหนดแนวทางความร่วมมือเอเปกในระยะใหม่

ในตลอด 27 ปีที่เข้าร่วมเอเปก เวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็นหนึ่งในสมาชิกที่กระตือรือร้นที่สุดในการเสนอโครงการและข้อคิดริเริ่มของเอเปก

ล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปก หรือ ABAC  ครั้งที่ 3 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องผ่านการเสนอข้อคิดริเริ่มต่างๆ การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในหลายระดับและการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม การหารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่จะยื่นเสนอต่อผู้นำเอเปกในการประชุมสุดยอด นาย เหงียนกวางวิง รองประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามหรือ VCCI กล่าวว่า

“โครงการของสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปกมีการเข้าร่วมของ 21 เศรษฐกิจสมาชิกและสถานประกอบการขนาดใหญ่เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสีเขียว การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล การอำนวยความสะดวกทางการค้า เสรีภาพด้านการค้าและปัญหาในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ซึ่งผ่านกิจกรรมนี้ สถานประกอบการเวียดนามจึงมีโอกาสแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนต่างประเทศที่เดินทางมาเวียดนาม”

เวียดนามกำลังก้าวเข้าสู่ระยะการพัฒนาใหม่พร้อมเป้าหมายสำคัญหลายประเด็น เวียดนามจะมีเสียงพูดที่สร้างสรรค์และมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อการกำหนดแนวทางความร่วมมือของเอเปกในระยะใหม่ โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมของประชาชนและสถานประกอบการ โดยเฉพาะ ความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดสัปดาห์การประชุมสุดยอดเอเปก 2 ครั้งเมื่อปี 2006 และปี 2017 เวียดนามพร้อมและมั่นใจที่จะจัดปีเอเปก 2027 ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และความปรารถนาที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด รองนายกรัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้กล่าวยืนยันในพิธีเปิดตัวคณะกรรมการแห่งชาติเอเปก 2027 ว่า

“ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ทำให้เศรษฐกิจสมาชิกต้องเดินหน้ายึดมั่นคุณค่าและเป้าหมายหลักของฟอรั่ม การเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปก 2027 จะเป็นบททดสอบที่สำคัญเพื่อยืนยันถึงสถานะการเป็นผู้นำและความสามารถในการปรับตัวของเวียดนามเพื่อสามารถเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส เปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เป็นการปฏิบัติและนำเอเปกเข้าสู่ระยะใหม่”

ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมเอเปกครั้งที่ 32 ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และบรรดาผู้นำเอเปกจะหารือเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆ ต่อเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก และเสนอแนวทางความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม และด้านอื่นๆ การที่ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปก และเยือนสาธารณรัฐเกาหลีในครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนประเทศเจ้าภาพเอเปก และมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยการพบปะหารือต่างๆจะสร้างพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือที่ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังมุ่งสู่การฉลองครบรอบ 35 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2027.