เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำแอลจีเรียและเซเนกัล เจิ่นก๊วกแค้ง (ภาพ: สถานทูตเวียดนามประจำแอลจีเรีย)

การปฏิบัติภารกิจของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน มีเป้าหมายเพื่อดำเนินแนวทางการต่างประเทศของเวียดนามที่อิสระ พึ่งตนเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เดินหน้าผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างครอบคลุม กว้างลึกและมีประสิทธิภาพต่อไป

ส่งเสริมความร่วมมือในหลายด้านกับประเทศในแอฟริกา

สาธารณรัฐเซเนกัลเป็นประเทศแรกในการปฏิบัติภารกิจในระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคมของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน นี่เป็นการเยือนระดับสูงสุดในรอบกว่า 55 ปีนับตั้งแต่เวียดนามและเซเนกัลสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต สำหรับความหมายของการเยือนครั้งนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำแอลจีเรียและเซเนกัล เจิ่นก๊วกแค้ง แสดงความเห็นว่า

“การเยือนครั้งนี้ได้รับการคาดหวังว่า จะเปิดโอกาสความร่วมมือในด้านต่างๆที่เป็นรูปธรรม เช่น การค้า การเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ตาม การเยือนครั้งนี้มีความหมายสำคัญอีกประการคือ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเซเนกัลในกรอบฟอรั่มความร่วมมือพหุภาคีซึ่งทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก ล่าสุด เซเนกัลได้ให้การสนับสนุนเวียดนามอย่างแข็งขันเพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวเอียนตื๋อ-กนเซิน-เกี๊ยบบากของเวียดนามได้รับการรับรองเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกในการประชุมครั้งที่ 47 ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างที่ชัดเจนถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในกรอบฟอรั่มระหว่างประเทศ”

สำหรับโมร็อกโกตั้งอยู่ในแอฟริกาเหนือ บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติก มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยว และถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งที่ 2 ของแอฟริกา ซึ่งการเยือนโมร็อกโกอย่างเป็นทางการของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน จะเปิดโอกาสให้แก่ความร่วมมือมากมาย โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมฮาลาล การท่องเที่ยวและการอนุรักษ์โบราณสถานทางประวัติศาสตร์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดั่งหว่างยาง ได้กล่าวถึงความหมายของการเยือนประเทศเซเนกัลและโมร็อกโกอย่างเป็นทางการของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน ว่า

“การเยือนครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายและเปิดระยะใหม่ในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับแอฟริกา รวมทั้ง เซเนกัลและโมร็อกโก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนอย่างลึกซึ้ง”

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดั่งหว่างยาง (VNA)

แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและบทบาทของสภาแห่งชาติเวียดนามในการร่วมมือแก้ไขปัญหาระดับโลก

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน คือการเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 6 ประธานรัฐสภาโลกของสหภาพรัฐสภาหรือ IPU ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นี่คือกิจกรรมสำคัญด้านการทูตรัฐสภา โดยมีตัวแทนรัฐสภาจากเกือบ 120 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งรวมถึงประธานรัฐสภาเกือบ 100 ท่าน โดยที่ประชุมฯ จะเน้นถึงหัวข้อ “โลกที่วุ่นวาย: ความร่วมมือของรัฐสภาและลัทธิพหุภาคีเพื่อสันติภาพ ความยุติธรรมและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับประชาชนทุกคน”

ในการเข้าร่วมการประชุม ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามจะส่งข้อความเกี่ยวกับแนวทางและนโยบายของเวียดนาม โดยเฉพาะแนวทางความร่วมมือเพื่อสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครบองค์ การพบปะทวิภาคีกับประธาน เลขาธิการสหภาพรัฐสภาโลก และประธานรัฐสภาของหลายประเทศ

ในโอกาสนี้ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เจิ่นแทงเหมิน จะเดินทางไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสวิตเซอร์แลนด์ ส่งเสริมความร่วมมือกับสวิตเซอร์แลนด์ในด้านที่สวิตเซอร์แลนด์มีความได้เปรียบและเวียดนามมีความต้องการพัฒนา ส่งเสริมการเจรจาและการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับกลุ่ม EFTA ยืนยันความพร้อมของเวียดนามในการส่งเสริมบทบาทเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับอาเซียน และย้ำถึงเนื้อหาของความร่วมมือระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับรัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์

การปฏิบัติภารกิจของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเวียดนามต่อลัทธิพหุภาคี ยืนยันถึงบทบาทในเชิงรุกและกระตือรือร้นของสภาแห่งชาติเวียดนามในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนระดับโลก นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้แก่ความร่วมมือที่กว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเซเนกัล โมร็อกโกและสวิตเซอร์แลนด์.