เศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาได้ฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ เพื่อธำรงอัตราการขยายตัว

(VOVWORLD) - ปี 2025 กำลังจะผ่านพ้นไปและภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการรับมือความผันผวน ความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคและความมุ่งมั่นตั้งใจธำรงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในสภาวการณ์ที่โลกประสบความผันผวนต่างๆ ข้อมูลสถิติต่าง ๆ ทั้งในด้านการผลิตอุตสาหกรรม การนำเข้าและส่งออก การบริโภคภายในประเทศ การควบคุมภาวะเงินเฟ้อและการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ต่างพิสูจน์ให้เห็นว่า เวียดนามกำลังเดินถูกทิศทางในกระบวนการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ

ในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ  สร้างภาพรวมเชิงบวกในสภาวการณ์ที่ต้องรับมือความยากลำบากมากมาย เช่น ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในประเทศ การชะลอตัวของการค้าทั่วโลกและมาตรการคุ้มครองทางการค้าในรูปแบบใหม่ๆ แต่จีดีพีในไตรมาสที่ 3 ของเวียดนายังคงบรรลุกว่าร้อยละ 8 ยอดจีดีพีในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ช่วยให้เวียดนามติดกลุ่มประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในเอเชีย ซึ่งถือเป็นพลังขับเคลื่อนและพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้เวียดนามย่างเข้าสู่ปีหน้าอย่างเป็นฝ่ายรุก มั่นใจและสามารถธำรงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค

ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ อย่างกล้าหาญ

ในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา ภาคเศรษฐกิจหลักของเวียดนามยังคงประสบผลที่น่ายินดีต่อไป โดยในด้านการลงทุน มีการเพิ่มเงินทุน ทั้งจากงบประมาณแผ่นดินและจากต่างประเทศ คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.8 และร้อยละ 7.4 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนามในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมาได้บรรลุกว่า 8 แสน 3 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเวียดนามยังเกินดุลการค้ามากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและเป็นก้าวกระโดด รองศ.ดร. เหงวียนเถื่องหลาง อาจารย์มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า

            “ในการส่งออก เราก็เห็นภาพในเชิงบวกที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมคิดว่า ในปีนี้ การส่งออกของเวียดนามสามารถบรรลุตั้งแต่ 9 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นครั้งแรกที่เวียดนามติดท็อปประเทศที่มีศักยภาพการส่งออกมาก โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งออกของเวียดนามก็เป็นสินค้าที่ผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงที่กำลังติดท็อปของโลก”

ที่น่าสนใจคือ ในด้านการเกษตรก็ประสบผลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ประสบความยากลำบากมากมาย เช่น ภัยธรรมชาติ พายุและเหตุน้ำท่วม แต่ก็สามารถผ่านตัวเลข 6 หมื่น 2 พัน 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐของปี 2024 และค่อยๆ บรรลุเป้าหมายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคือ 6 หมื่น 5 พันถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย ฝุ่งดึ๊กเตี๊ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและสิ่งแวดล้อมยืนยันว่า

            “สิ้นเดือนพฤศจิกายน เราได้บรรลุกว่า 6 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว และในตลาดส่งออกต่างๆ ของเวียดนาม เช่น สหรัฐ จีนและสหภาพยุโรปมีสัญญาณในเชิงบวก ถ้าหากในเดือนธันวาคมนี้ เราสามารถส่งออกได้ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็สามารถเสร็จสิ้นเป้าหมายการส่งออกคือ 6 หมื่น 5 พันถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนกำหนดได้”

ไม่เพียงแต่ประสบผลที่น่ายินดีในการส่งออกเท่านั้น  หากการบริโภคภายในประเทศและภาคบริการก็มีการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง โดยรายได้จากการขายปลีก การท่องเที่ยวและการขนส่งต่างเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามได้บรรลุกว่า 19 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละเกือบ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ภาวะเงินเฟ้อได้รับการควบคุมตามตัวเลขที่สภาแห่งชาติกำหนด นาย ฝ่ามแทงห่า รองผู้ว่าธนาคารชาติเวียดนามกล่าวว่า

สภาพคล่องของระบบสถาบันการเงินได้รับการค้ำประกัน ตลาดการเงินโดยรวมมีความมั่นคงและอัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวอย่างยืดหยุ่นสอดคล้องกับสภาวะการณ์ของตลาด ในขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงอยู่ในระดับมั่นคงและมีแนวโน้มลดลง ตลาดเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ ความต้องการเงินตราต่างประเทศที่ถูกกฎหมายได้รับการตอบสนองอย่างครบถ้วนและทันเวลา อีกหนึ่งตัวชี้วัดในการดำเนินนโยบายการเงินคือ สินเชื่อ ซึ่งมีการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจและเป็นบวกเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ”

ธำรงอัตราการขยายตัวในสภาวการณ์เกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก

ผลสำเร็จที่น่ายินดีในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมาได้สร้างความเชื่อมั่นและให้กำลังใจเวียดนามในการบรรลุเป้าหมายในปี 2025 และวางรากฐานให้แก่ปี 2026 และปีถัดๆไป

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อธำรงอัตราการขยายตัว เวียดนามยืนหยัดปฏิบัติมาตรการต่างๆ อย่างพร้อมเพรียง โดยควบคู่กับการส่งเสริมพลังขับเคลื่อนที่มีอยู่ เช่น การส่งออก การสนับสนุนสถานประกอบการ การเร่งการลงทุนภาครัฐและการพัฒนาตลาดภายในประเทศ เวียดนามยังเร่งรัดทำการปฏิรูปกลไกลและปฏิบัติการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยถือเป็นกุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จในปี 2025 และเป็นพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับระยะการพัฒนาใหม่ ศาสตราจารย์ ดร. หว่างวันเกื่อง รองประธานสมาคมเศรษฐศาสตร์เวียดนามกล่าวว่า ในสภาวการณ์การแข่งขันด้านเทคโนโลยีกำลังมีขึ้นอย่างรุนแรง รวมทั้งการเกิดขึ้นของกำแพงทางการค้าใหม่ๆ แนวโน้มการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้เวียดนามก้าวรุดหน้าด้วยศักยภาพภายในประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายที่การขยายตัวในช่วงปี 2026–2030 ที่เลขสองหลัก

“นี่เป็นช่วงเวลาให้เวียดนามก้าวรุดหน้าไป สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาจากศักยภาพภายในประเทศเพื่อแปรความคาดหวังให้กลายเป็นความจริง ถ้าหากเราดำเนินการอย่างทันเวลาและถูกทิศทาง เวียดนามสามารถเข้าร่วมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมเกิดใหม่ กลายเป็นประเทศสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก แทนที่จะหยุดอยู่เพียงขั้นตอนการประกอบหรือแปรรูป นี่ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการหลีกเลี่ยงการขยายตัวเร็วเกินไปในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเลือกเส้นทางการพัฒนาที่รวดเร็วและยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการขยายตัวให้อยู่ที่เลขสองหลักและสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อกลายเป็นประเทศพัฒนา”

ในตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา เวียดนามได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อธำรงอัตราการขยายตัว ยืนยันถึงศักยภาพของเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรวดเร็ว ผลสำเร็จเหล่านี้ได้สร้างแรงพลังขับเคลื่อนให้เวียดนามพยายามบรรลุเป้าหมายการขยายตัวตลอดทั้งปี 2025 และก้าวรุดหน้าในระยะต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด