(VOVWORLD) -เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ปี 1945 รัฐบาลเฉพาะกาลของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามได้ออกประกาศต่อสาธารณชนและทั่วโลกเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หลังความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม 19 สิงหาคมปี 1945 ซึ่ง 80 ปีได้ผ่านพ้นไป รัฐบาลเฉพาะกาลของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามซึ่งปัจจุบันคือรัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้ธำรงความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว พยายามอย่างสุดความสามารถและไม่หยุดยั้งเพื่อเป้าหมาย “เอกราชของประชาชาติมีความผูกพันกับสังคมนิยม” และชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกของประชาชน ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อในภารกิจการปฏิวัติของประชาชาติเวียดนาม
เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีการก่อตั้งรัฐบาล |
ในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ปฏิบัติทุกภาระหน้าที่ที่พรรคมอบหมายในการจัดและบริหารทุกกิจกรรมของประเทศ ประสบความสำเร็จในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ พยายามสร้างพลังขับเคลื่อน ความเชื่อมั่นและพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อนำประเทศย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ - ศักราชแห่งการผงาด การพัฒนาที่เจริญเข้มแข็ง มีอารยธรรมและเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติ
80 ปีแห่งการดำเนินงานของรัฐบาล หนึ่งเส้นทาง หนึ่งเป้าหมาย
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมปี 1945 รัฐบาลเฉพาะกาลของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามได้รับการก่อตั้ง เมื่อวันที่ 2 กันยายน รัฐบาลเฉพาะกาลของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามได้รับการเปิดตัวพร้อมกับการสถานาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามหรือในปัจจุบันคือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เปิดศักราชใหม่ ซึ่งเป็นศักราชแห่งเอกราช เสรีภาพของประชาชนและประเทศ
ในช่วงปี 1946-1975 รัฐบาลเน้นชี้นำการรักษาเสถียรภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้การนำของพรรค รัฐบาลได้ร่วมกับกองทัพและประชาชนปฏิบัติภารกิจการรวมประเทศเป็นเอกภาพ ส่วนในช่วงยามสันติ รัฐบาลเน้นสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจ แก้ไขผลเสียหายจากสงคราม ฟื้นฟูการผลิตและการประกอบธุรกิจควบคู่กับการต่อสู้เพื่อปกป้องเขตชายแดนและปฏิบัติภาระหน้าที่ระหว่างประเทศ จากที่เคยเป็นประเทศที่ขาดแคลนอาหารและอดอยาก ปัจจุบันเวียดนามเป็นผู้ผลิตธัญญาหารและส่งออกข้าวแถวหน้าของโลก ซึ่งผลการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ได้มีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคม ช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากความยากจน มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม
ซึ่งการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 6 เมื่อเดือนธันวาคมปี 1986 ได้เปิดศักราชใหม่ ซึ่งเป็นศักราชแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและการพัฒนาของประเทศ คณะรัฐมนตรีในตอนนั้นหรือรัฐบาลในปัจจุบันได้เป็นฝ่ายรุกในการชี้นำทางการทุกระดับ หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่เศรษฐกิจบน 3 เสาหลักคือ การแก้ไขปัญหาการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม การพัฒนาเศรษฐกิจหลายรูปแบบ เปิดประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า
“จากการเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริจาคจากภายนอก ถูกปิดล้อมและถูกคว่ำบาตร เวียดนามได้กลายเป็นเศรษฐกิจที่เปิดเผย คล่องตัว นวัตกรรมและติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงในภูมิภาคและโลก ติดกลุ่ม 15 ประเทศที่มียอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากที่สุดในโลกและติดกลุ่ม 20 ประเทศที่มีขอบเขตการค้าใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะ เวียดนามได้ระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อปฏิบัตินโยบายค้ำประกันสวัสดิการสังคม สวัสดิภาพ การแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งเวียดนามได้รับการประเมินว่า เป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษและเสร็จสิ้นกรปฏิบัติเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจนก่อนกำหนด 10 ปี”
ปัจจุบัน เวียดนามได้ลงนามและเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีหรือ เอฟทีเอ 17 ฉบับ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกือบ 200 ประเทศ มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนยุทธศาตร์ในทุกด้านกับ 38 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งช่วยยกระดับศักยภาพ สถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก
1 ในหน้าที่ที่สำคัญของรัฐบาลเวียดนามในปัจจุบันคือ เน้นปฏิบัติแนวทางการปรับโครงสร้างหน่วยงานในระบบการเมืองให้กระทัดรัดและมีประสิทธิภาพ ดำเนินงานรูปแบบทางการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับควบคู่กับการปฏิบัติ 2 เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 100 ปีตามมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13
“รัฐบาลเน้นชี้นำเพื่อผลักดัน 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ กำหนดรูปแบบการขยายตัวใหม่ ปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย สร้างสรรค์กองกำลังผลิตใหม่ๆ ปฏิบัติ 4 เสาหลักอย่างเคร่งครัดตามมติฉบับต่างๆของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับก้าวกระโดดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การผสมผสานเข้ากับกระแสโลก จัดทำและบังคับใช้กฎหมายและพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน รัฐบาลกำลังเร่งเสร็จสิ้นการจัดทำมติต่างๆเพื่อสร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาเศรษฐกิจภาครัฐ การศึกษาและฝึกอบรม การดูแลสุขภาพของประชาชนและการพัฒนาวัฒนธรรมเพื่อยื่นเสนอให้กรมการเมืองอนุมัติ”
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่องาน |
บทเรียนจากประวัติศาสตร์
ในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดต่างๆของเวียดนามได้แสดงจิตใจแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจสูง ความพยายามเป็นอย่างมากและมีปฏิบัติการที่เคร่งครัดเพื่อร่วมกับกองทัพและประชาชนทั่วประเทศประสบผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มีความหมายทางประวัติศาสตร์ในทุกด้าน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เห็นว่า จากสถานการณ์ที่เป็นจริง รัฐบาลสามารถถอดบทเรียนที่มีค่าต่างๆ
“ในระยะแห่งการพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ภายในประเทศ ภูมิภาคและโลกมีทั้งโอกาส ความได้เปรียบ ความยากลำบากและความท้าทายต่างๆแต่ความยากลำบากและความท้าทายมากกว่า ภายใต้การนำของพรรค บนเจตนารมณ์ “รัฐบาลรับใช้ประชาชน ถือสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชนเหนือกว่าสิ่งอื่นใด สิ่งใดที่นำผลประโยชน์มาให้แก่ประชาชนต้องพยายามทำให้ได้ สิ่งใดที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนต้องหลีกเลี่ยง” รัฐบาลจะส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงามของรัฐบาลชุดก่อนเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทาย เปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิดอย่างไม่หยุดยั้ง มีปฏิบัติการที่เคร่งครัด มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความมั่นใจ พึ่งพาตัวเอง ร่วมกับประชาชนทั่วประเทศพยายามปฏิบัติ 2 เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 100 ปีที่มติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ได้กำหนดไว้ให้ประสบความสำเร็จ”
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังยืนยันว่า 80 ปีแห่งการดำเนินงานของรัฐบาลเป็นกระบวนการเพื่อเป้าหมายเดียวบนเจตนารมณ์ของความสามัคคี ความเมตตา ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความคาดหวัง ให้ความสำคัญต่อเวลาและสติปัญญาและการตัด รัฐบาล ทางการทุกระดับ หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ ร่วมกับประชาชนและทหารทั่วประเทศส่งเสริมจิตใจแห่งความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเพื่อปฏิบัติเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ให้ประสบความสำเร็จเพื่อนำประเทศย่างเข้าสู่ศักราชใหม่และพัฒนาให้ทัดเทียมกับประเทศมหาอำนาจต่างๆในโลก.