เพิ่มการพึ่งตนเองเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่อาเซียน
(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ณ กรุงฮานอย ในกรอบฟอรั่มอนาคตอาเซียนหรือ AFF ครั้งที่ 2 ได้มีการจัดการหารือระดับสูง
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมและแสดงความคิดเห็นในการหารือ |
ในการนี้ นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน 2025 ได้ย้ำว่า บทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจในหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บรรดาประเทศอาเซียนต้องตระหนักได้ดีว่า บทบาทการเป็นศูนย์กลางนี้ไม่ใช่สิทธิผลประโยชน์ หากเป็นเอกสิทธิ์ที่ทุกประเทศสมาชิกต้องพยายามบรรลุและปกป้องให้ได้ ปัจจุบัน อาเซียนกำลังอยู่ในยามสันติในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยเรียกร้องให้ทุกประเทศสมาชิกส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่มเพื่อเพิ่มการพึ่งตนเองเชิงยุทธศาสตร์และธำรงอิทธิพลในขอบเขตทั่วโลก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังอ้างเรื่องความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในหลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งศิลปะการทูตเวียดนามในการประสานความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศมหาอำนาจ ซึ่งอาจมีส่วนร่วมสำคัญต่อการสร้างสรรค์การพึ่งตนเองเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน
ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า เพื่อปฏิบัติภารกิจนี้ ทุกประเทศสมาชิกและอาเซียนต้องธำรง 5 ปัจจัยหลัก คือ นโยบายการต่างประเทศที่สมดุล มิตรภาพและอาศัยกฎระเบียบต่างๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ รักษาความมั่นคงกลาโหมและความมั่นคงทางไซเบอร์ มีนโยบายสวัสดิการสังคมที่ครอบคลุม ใช้บทเรียนจากการต่อสู้กู้ชาติของประชาชาติเวียดนาม โดยวัฒนธรรมเป็นพลังภายในที่สำคัญและเป็นจุดแข็งของอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายในด้านวัฒนธรรม
“ปัญหาที่สำคัญคือการพัฒนาวัฒนธรรรมและเอกลักษณ์วัฒนธรรมของอาเซียน เพื่อสามารถพึ่งตนเองได้ นอกจากประเด็นที่สำคัญคือ การต่างประเทศ เศรษฐกิจและกลาโหม จำเป็นต้องมีเอกลักษณ์วัฒนธรรมเพื่อสามารถส่งเสริมพลังภายใน เพราะว่า วัฒนธรรมเป็นพลังภายในของประชาชาติ”
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ Christopher Luxon ก็ยกย่องบทบาทที่นับวันสำคัญมากขึ้นของอาเซียนในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก พร้อมทั้งย้ำว่า นิวซีแลนด์สนับสนุนการเติบโตและการพึ่งตนเองเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียนในสภาวการณ์ที่กลไกที่มีมาช้านานในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและยากที่จะคาดเดาได้.