ในหลายปีที่ผ่านมา ชนกลุ่มน้อยในอำเภอตาเดื่อง เปลี่ยนมาปลูกต้นพุทธรักษากินได้ ช่วยให้ครัวเรือนหลายร้อยครัวเรือนหลุดพ้นจากความยากจนและมีรายได้ที่มั่นคง

เมื่อเดินทางมาเยือนตามเดื่องในช่วงเดือนสุดท้ายของปี นักท่องเที่ยวจะเห็นวุ้นเส้นที่แขวนผึ่งลมไว้เป็นจำนวนมาก คณะนักท่องเที่ยวหลายคณะมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตวุ้นเส้นและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์วุ้นเส้น นาง เยืองเวินแอง นักท่องเที่ยวจากกรุงฮานอยที่มาซื้อวุ้นเส้นเผยว่า

“ทุกครั้งที่ดิฉันมาที่นี่ ดิฉันมักจะซื้อวุ้นเส้นบิ่งลือที่ทำจากแป้งต้นพุทธรักษากินได้ เพราะครอบครัวของดิฉันคุ้นเคยกับการกินวุ้นเส้นชนิดนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว วุ้นเส้นที่นี่อร่อยมาก ดิฉันมักจะซื้อวุ้นเส้นมาทำเป็นอาหารในช่วงตรุษเต๊ต และซื้อเป็นของฝากให้แก่เพื่อนด้วย”

วุ้นเส้นบิ่งลือทำจากแป้งต้นพุทธรักษากินได้และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากมีความเหนียวนุ่มที่ไม่เหมือนกับวุ้นเส้นแบบอื่น ถึงแม้ไม่มีสีเหลืองเหมือนวุ้นเส้นของหมู่บ้านกึด่าในกรุงฮานอย แต่วุ้นเส้นบิ่งลือมีสีเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว  เส้นเล็ก เหนียวนุ่ม สามารถปรุงซ้ำได้ 2-3 ครั้งโดยที่เส้นไม่ขาด ส่วนในขั้นตอนการผลิตนั้นก็มีความพิถีพิถันมากเพราะวุ้นเส้นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่บิ่งลือ นาย บุ่ยวันเฟิ้น ในตำบลบิ่งลือ เผยว่า

“ครอบครัวของดิฉันทำวุ้นเส้นตลอดทั้งปี และในวันสุดท้ายของปี เราจะจ้างแรงงานเพิ่มเพื่อทำวุ้นเส้นตอบสนองความต้องการในช่วงตรุษเต๊ต ในวันที่อากาศดี ครอบครัวของผมสามารถทำแป้งวุ้นเส้นได้ 1.2 ถึง 1.5 ตัน ซึ่งสูงกว่าวันปกติถึง 2 เท่า”

เพื่อค้ำประกันแหล่งจัดสรรสินค้าให้แก่ร้านค้าในช่วงตรุษเต๊ต นอกจากแรงงานที่มีอยู่แล้ว ครอบครัวของนาย โด๋วันเติม ในหมู่บ้านต่องปั่น ตำบลบิ่งลือ ยังได้จ้างแรงงานเพิ่มอีกกว่า 10 คนเพื่อทำวุ้นเส้น

“การเชื่อมโยงกับครอบครัวที่ปลูกต้นพุทธรักษากินได้สามารถค้ำประกันแหล่งจัดสรรวัตถุดิบและธำรงการผลิตตลอดทั้งปี ทุกปี ครัวเรือนที่ผลิตวุ้นเส้น เช่น ครอบครัวของผมรับซื้อแป้งสำหรับวุ้นเส้นจากชาวบ้านประมาณ 500 ตัน”

นอกจากครัวเรือนที่ผลิตวุ้นเส้นแล้ว  สหกรณ์ในท้องถิ่นก็กำลังยุ่งอยู่กับการผลิตวุ้นเส้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้โรงงานผลิตวุ้นเส้นหลายแหน่งก็ได้พัฒนาคุณภาพและแนะนำผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นใหม่ๆ สู่ตลาด นาย เหงวียนหงอกแอ๊ง ผู้อำนวยการสหกรณ์บริการการเกษตรบิ่งลือ เผยว่า

“นอกจากผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิมแล้ว ปัจจุบัน เรายังมีผลิตภัณฑ์อีก 3 ชนิด ได้แก่ วุ้นเส้นหั่นมือ วุ้นเส้นถั่วดำ และวุ้นเส้นที่ทำจากแป้งต้นพุทธรักษากินได้ผสมโสม สหกรณ์ฯ เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์วุ้นเส้น 3 ชนิดนี้ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตปีนี้”

วุ้นเส้นบิ่งลือทำจากแป้งต้นพุทธรักษากินได้และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากมีความเหนียวนุ่มที่ไม่เหมือนกับวุ้นเส้นแบบอื่น

ปัจจุบัน หมู่บ้านทำวุ้นเส้นบิ่งลือในอำเภอตามเดื่อง จังหวัดลายโจว์มีครอบครัวกว่า 100 ครอบครัว และสหกรณ์การผลิตวุ้นเส้น 3 แห่ง เฉลี่ยแต่ละปี จะจำหน่ายวุ้นเส้นแห้งออกสู่ตลาดกว่า 550 ตัน จนถึงขณะนี้ ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นบิ่งลือได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 และได้รับการวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นในท้องถิ่นได้ยืนยันถึงสถานะและแบรนด์สินค้าในตลาด อีกทั้งช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้กว่า 3 หมื่นล้านด่งต่อปีจากการปลูกต้นพุทธรักษากินได้และการผลิตวุ้นเส้น ทางการปกครองท้องถิ่นคาดหวังว่า จะสร้างแรงผลักดันเพื่อช่วยให้บิ่งลือกลายเป็นตำบลชนบทใหม่โดยเร็ว นาย หล่อวันทั้ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลบิ่งลือ เผยว่า

“ทุกปี  คณะกรรมการประชาชนตำบลจะชี้นำการค้ำประกันแหล่งจัดสรรวุ้นเส้นเพื่อตอบสนองความต้องการในช่วงตรุษเต๊ต เราประสานงานกับสำนักงานและหน่วยงานต่างๆ ดูแลเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยด้านอาหารเป็นอย่างดี อีกทั้ง ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยเพื่อทำการผลิตอย่างแข็งขันเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด”

หมู่บ้านทำวุ้นเส้นบิ่งลือกำลังมีความคึกคักเป็นอย่างมากในช่วงตรุษเต๊ด ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นแต่ละชนิดที่จำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคแฝงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจของหมู่บ้านในเขตเขาทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือแห่งนี้.