การร้องเพลงทำนองแทนของชาวไตในตำบลแค้งซวน จังหวัดหลางเซิน
(VOVWORLD) -การร้องเพลงแทนเป็นการแสดงศิลปะพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไตและหนุ่งในจังหวัดบางแห่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น หลางเซินและกาวบั่ง ซึ่งชาวไตในตำบลแค้งซวน จังหวัดหลางเซิน กำลังพยายามฟื้นฟู อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของการร้องเพลงทำนองแทนผ่านรูปแบบที่หลากหลาย
ชาวไตในแค้งซวนพยายามอนุรักษ์การร้องเพลงทำนอง “แทน” |
นาย ลิวเทียนต๊วน รู้สึกมีความสุขมากที่ได้แสดงร้องเพลง “แทน” ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าบนเวทีแสดงต่างๆ นาย ต๊วน เริ่มร้องเพลงแทนตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี เสียงกล่อมของแม่ได้หล่อหลอมความรักและความหลงใหลในการร้องเพลงทำนองแทนของเขา ซึ่งนอกจากเรียนการร้องเพลงทำนองแทนจากแม่แล้ว เขายังเดินทางไปหลายที่ ชมการแสดงและพบปะกับศิลปินพื้นบ้านจำนวนมากเพื่อศึกษาหาข้อมูลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีการร้องและลีลาของเพลงแทน หลังจากที่สโมสรร้องเพลงแทนของตำบล แค้งซวน ได้รับการก่อตั้ง เขาได้สมัครเข้าร่วมเพื่อฝึกการทักษะความสามารถ ส่งแรงบันดาลใจต่อคนรุ่นต่อๆ ไป
“ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ร้องเพลงทำนองของชนเผ่าตน นี่เป็นความรักและความหลงใหลของตนเองเพราะผมเห็นว่า เพลงทำนองแทนของเรามีเอกลักษณ์มาก”
ในอดีต ที่ตำบล แค้งซวน ผู้ที่หลงรักการร้องเพลงทำนองแทนที่ตั้งใจเรียนเองเหมือนนายต๊วนมีไม่มากนัก มีแค่ผู้สูงอายุบางคนที่ยังคงร้องได้และแสดงในโอกาสพิเศษๆ ของหมู่บ้านเท่านั้น
|
นับตั้งแต่ที่สโมสรได้รับการก่อตั้งเมื่อ 3 ปีก่อน สมาชิกทุกคนได้เรียนการร้องเพลงนี้อย่างเป็นมืออาชีพ
|
สตรีเกือบ 40 คนในตำบลแค๊งซวนจะมารวมตัวกันสัปดาห์ละสามวันในช่วงหัวค่ำ ที่สโมสรร้องเพลงแทนและเล่นพิณติ๊ง ของตำบล เพื่อฝึกการร้องเพลงทำนองนี้ นับตั้งแต่ที่สโมสรได้รับการก่อตั้งเมื่อ 3 ปีก่อน คือปี 2022 สมาชิกทุกคนได้เรียนการร้องเพลงนี้อย่างเป็นมืออาชีพจากศิลปินพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงต่างๆ โดยในช่วงเริ่มต้น มักจะพบความยากลำบากบางอย่างแต่ก็ยังเข้าใจลีลาและความหมายในแต่ละคำของเพลงพื้นเมืองแทน ทุกคนก็ยิ่งหลงรักกับศิลปะการร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์นี้ของชนกลุ่มน้อยเผ่าตน โดยพยายามเรียนให้ได้ทั้งลีลาเก่าแก่และทันสมัย การร้องเพลง “ซลี” และ “เหลือน” รวมทั้งหาซื้อพิณติ๊ง จากจังหวัดกาวบั่งมาใช้ นาง หว่างถิญุง ผู้ก่อตั้งสโมสรฯ และนาง หมาถิแบ๊ สมาชิกของสโมสรฯ กล่าวว่า
“ตัวดิฉันเอง รวมถึงพี่น้องในสโมสรฯ ต่างก็รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติ เราพยายามเรียนรู้ ฝึกฝนและเก็บประสบการณ์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนพี่น้องที่หลงใหลการร้องเพลงแทนเหมือนเรา พยายามถ่ายทอดประสบการณ์ขยายผลความหลงใหลศิลปะการร้องเพลงอันล้ำค่านี้ให้พัฒนามากขึ้น”
“ฉันเข้าร่วมสโมสรฯ ก็เพราะความหลงใหล แต่ที่สำคัญก็คือ เพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าไตของตน ฉันรู้สึกมีความสุขมากในทุกครั้งที่มีโอกาสแสดงเพลงทำนองนี้ของชนเผ่าตน”
จากที่เคยเป็นผู้ชม ปัจจุบัน สตรีหลายคนในตำบลฯ ได้เปลี่ยนมาเป็นนักร้องเพลงทำนองนี้ |
จากที่เคยเป็นผู้ชม ปัจจุบัน สตรีหลายคนในตำบลฯ ได้เปลี่ยนมาเป็นนักร้องเพลงทำนองนี้บนเวที โดยเฉลี่ยแต่ละปี สโมสรได้เข้าร่วมการแสดงประมาณ 20 ครั้งทั้งภายในและต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อปี 2022 ทางสโมสรฯ ได้เปิดการฝึกอบรมทักษะความสามารถในการร้องเพลงทำนองแทนและการเล่นพิณติ๊งเพื่อช่วยให้สมาชิกมีความมั่นใจในการแสดงบนเวทีมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปี 2023 ทางจังหวัดฯ ได้สนับสนุนเงิน 27 ล้านด่งให้สโมสรฯ ซื้อเครื่องเสียงและชุดสำหรับใส่แสดง ปัจจุบันสมาชิกในสโมสรฯ ต่างให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการถ่ายทอดความหลงใหลการร้องเพลงทำนองนี้ให้กับวัยรุ่น โดยมองว่า พวกเขาจะเป็นแกนหลักในการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของเพลงทำนองนี้ให้คงอยู่ตลอดไป ซึ่งเป็นความปรารถนาของชนกลุ่มน้อยเผ่าไตทุกคน.