(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของประธานประเทศเวียดนาม เลืองเกื่องและภริยา นาง Sam Mostyn ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 9-12 ซึ่งถือเป็นการสานต่อผลสำเร็จของความร่วมมือที่จริงจัง มีประสิทธิภาพและรอบด้านระหว่างสองประเทศและเป็นการแปรคำมั่นนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ระยะใหม่ให้กลายเป็นความจริง
นาง Sam Mostyn ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ( กระทรวงการต่างประเทศ) |
ในตลอดกว่า 50 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต(1973-2025) เวียดนามและออสเตรเลียนับวันได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ ในความสร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วยนยุทธศาสตร์รอบด้านเมื่อปี 2024
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนาง Sam Mostyn ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียแสดงให้เห็นถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของออสเตรเลียในการให้ความสำคัญและให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศเวียดนาม สำหรับเวียดนาม การเยือนครั้งนี้ก็ถือเป็นการยืนยันเกี่ยวกับนโยบายการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ โดยเฉพาะออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคนี้
ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการปฏิบัติอย่างรอบด้าน
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนาง Sam Mostyn มีขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านเมื่อเดือนมีนาคมปี 2024 ด้วย 6 เสาหลัก และเมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 ทั้งสองประเทศก็ได้ลงนามแผนปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนนี้ในระยะปี 2024-2027
ถึงขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการนี้ได้ประมาณร้อยละ 96 โดยเฉพาะนับเป็นครั้งแรกที่สองฝ่ายได้จัดการสนทนาความมั่นคงในระดับรัฐมนตรีและปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนในด้านการรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติอย่างมีประสิทธิภาพ รองศ.ดร. เหงวียนฮวีหว่าง อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า
“หนึ่งในตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันคือความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลีย ซึ่งเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน ศักยภาพของการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่เพียงแต่เป็นพื้นฐานผลักดันสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกเท่านั้น หากยังเปิดโอกาสให้แก่การพัฒนาของทั้งเวียดนามและออสเตรเลียอีกด้วย ซึ่งมีส่วนร่วมกำหนดโครงสร้างภูมิภาคใหม่ในเวลาที่จะถึง"
ในขณะเดียวกัน นาย Layton Pike จากสถาบันวิจัยนโยบายออสเตรเลีย – เวียดนามให้ข้อสังเกตว่า ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและเวียดนามนับวันได้รับการกระชับเนื่องจากสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน โดยเฉพาะการให้คำมั่นที่จะสร้างสรรค์โลกที่มีเสถียรภาพ สันติ เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของรัฐบาลออสเตรเลีย
“ผมคิดว่า สองประเทศได้แลกเปลี่ยนคุณค่าร่วม ซึ่งไม่เพียงแต่ในความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น หากยังในความคาดหวังต่อภูมิภาคอีกด้วย เรามีระบบเศรษฐกิจที่เกื้อหนุนกัน เป็นประเทศในระดับกลางของภูมิภาค ถ้าหากร่วมมือกันก็จะสามารถทำได้หลายอย่าง”
ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ทั้งสองประเทศต่างเป็นสมาชิกของของตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ เช่น ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิกหรือ CPTPP ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEPและ เขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์หรือAANZFTA ซึ่งเอื้อประโยชน์อย่างจริงจังและสิทธิพิเศษในด้านภาษีให้แก่สองประเทศ จากศักยภาพแห่งความร่วมมือที่ยังมีอีกมาก ทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเร็วๆ นี้
จุดเด่นในภาพรวมความสัมพันธ์เวียดนาม – ออสเตรเลียคือการเชื่อมโยงด้านวัฒนธรรมและมนุษย์ โดยชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศออสเตรเลียมีจำนวนประมาณ 350,000 คนและภาษาเวียดนามเป็น 1 ใน 4 ภาษาที่ใช้มากที่สุดในออเสตรเลีย รองจากภาษาอังกฤษ ภาษาจีนและภาษาอาหรับ ซึ่งก็ถือเป็นพื้นฐานที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้ ทั้งสองฝ่ายกำลังปฏิบัติแนวทางที่รัฐบาลสองประเทศได้เห็นพ้องในการส่งเสริมการพบปะแลกเปลี่ยนระดับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอำนวยความสะดวกมากขึ้นให้แก่นักศึกษาเวียดนามไปศึกษาในประเทศออสเตรเลียและประสานงานในการปฏิบัติโครงการ Colombo ใหม่ที่นำนักศึกษาออสเตรเลียมาพบปะและเรียนรู้ประสบการณ์ในเวียดนาม
ยืนยันความมุ่งมั่นตั้งใจกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในสภาวการณ์ดังกล่าว การเยือนเวียดนามของนางSam Mostyn ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียมีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งสองประเทศในการกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือทางการเมืองภายหลังกว่าหนึ่งปีครึ่งที่สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน โดยในกรอบการเยือนครั้งนี้ นาง Sam Mostyn จะเจรจากับประธานประเทศเลืองเกื่อง พบปะหารือและเจรจากับผู้นำพรรคและรัฐเวียดนาม เข้าร่วมฟอรั่มเวียดนาม – ออสเตรเลีย เข้าร่วมพิธีเปิดสถาบันนโยบายออสเตรเลีย – เวียดนามและเยือนนครโฮจิมินห์ เป็นต้น ซึ่งการเยือนครั้งนี้จะช่วยกระชับความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เวียดนามและออสเตรเลียสามารถกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบนพื้นฐานของความเข้าใจและความไว้วางใจกัน การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนาง Sam Mostyn ถือเป็นการสานต่อผลสำเร็จของความร่วมมืออย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพและรอบด้านระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียและช่วยแปรคำมั่นเกี่ยวกับการนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ระยะใหม่ให้กลายเป็นความจริง.