การทูตเวียดนามในศักราชใหม่

(VOVWORLD) -เมื่อ 80 ปีก่อน ประธานโฮจิมินห์ได้ลงนามเกี่ยวกับนโยบายการทูตฉบับแรกของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามและในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา การทูตเวียดนามได้ต่างสานต่อจุดเริ่มต้นดังกล่าวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนร่วมต่อชัยชนะของการปฏิวัติเวียดนาม เมื่อย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาด การทูตเวียดนามได้เปิดเส้นทางใหม่ ๆ และปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการในการปกป้องประเทศและประชาชาติ สนับสนุนภารกิจพัฒนาประเทศและเป็นฝ่ายรุกในการสร้างสรรค์สันติภาพ
การทูตเวียดนามในศักราชใหม่ - ảnh 1เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  บุ่ยแทงเซิน เข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ 80 ปีวันก่อตั้งหน่วยงานการทูตเวียดนาม 28 สิงหาคม (VGP)

เอกราช – สันติภาพ – มิตรภาพและการพัฒนาคือแนวทางการต่างประเทศที่เวียดนามยืนหยัดปฏิบัตินับตั้งแต่ที่สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามและได้รับการส่งเสริมต่อไปในระยะต่างๆ ของการปฏิวัติเวียดนามและการปรับตัวเข้ากับยุคใหม่

เข็มทิศนำทางของการทูตปฏิวัติเวียดนาม

ถ้าหากปฎิญญาเอกราชวันที่ 2 กันยายนปี 1945 เป็นนิมิตหมายเปิดตัวประเทศใหม่ ข่าวสารนิเทศประกาศนโยบายการทูตที่ลงบนหนังสือพิมพ์กิ๊วก๊วกหรือกู้ชาติเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมปี 1945 ก็ถือเป็นปฏิญญาฉบับที่ 2 ของเวียดนาม ซึ่งในเอกสารฉบับนั้น ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะเป็นเพื่อนกับพันธ์มิตรทุกประเทศ พร้อมที่จะร่วมมือกับฝรั่งเศสถ้าหากพวกเขาให้ความเรารพอธิปไตยและเอกราชของประชาชาติเวียดนาม ศ. หวูเยืองฮวน อดีตผู้อำนวยการสถาบันการทูตกล่าวว่า 

“แถลงการณ์รวม 4 ประเด็นเรียกว่า ข่าวสารนิเทศประกาศนโยบายการต่างประเทศที่ระบุ 4 ประเด็นที่เกี่ยวข้องถึงนโยบายต่อเป้าหมายและหุ้นส่วนต่างๆ ซึ่งก่อนอื่นเกี่ยวข้องถึงพันธมิตร เวียดนามยืนยันธำรงความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือกับพันธมิตรทุกประเทศบนพื้นฐานคือให้ความเคารพเอกราชและอธิปไตยบูรณะภาพแห่งดินแดนของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเพื่อสันติภาพของโลก สองคือระบุถึงความสัมพันธ์กับฝรั่งเศส โดยมีความประสงค์ว่า จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับฝรั่งเศสบนพื้นฐานคือให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและผลประโยชน์ของเวียดนาม”

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการทูตเท่านั้น หากยังเป็นการเริ่มต้นของแนวคิดที่คล่องตัวและศิลปะการปกป้องรักษาประเทศผ่านการไกล่เกลี่ยและการใช้ไหวพริบ โดยนับตั้งแต่วันสถาปนาประเทศ นโยบายการทูตโฮจิมินห์ได้กลายเป็นเข็มทิศนำทางที่สร้างชัยชนะต่างๆ ให้แก่การปฏิวัติเวียดนาม

ในตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยความคิดเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อยืนหยัดเป้าหมายพร้อมกับความมุ่งมั่น การไกล่เกลี่ย ยกย่องความชอบธรรม การทูตเวียดนามได้มีส่วนร่วมช่วยให้การปฏิวัติเวียดนามได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์

การพัฒนาสู่การทูตในเชิงรุก

ในช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การทูตเวียดนามได้มีก้าวพัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยการปรับเปลี่ยนเป็นการทูตในเชิงรุกและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและกว้างลึก เดินหน้าในการสร้างสรรค์สันติภาพ ดึงดูดแหล่งพลังต่างๆ ให้แก่การพัฒนาประเทศและยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก

ใน 8 เดือนที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาแห่งความคึกคักและความมุ่งมั่นของกิจกรรมการต่างประเทศเวียดนาม โดยมีกิจกรรมการต่างประเทศในระดับสูงกว่า 50 กิจกรรม ซึ่งเกือบเท่ากับกิจกรรมการทูตของตลอดปี 2024 ความรวดเร็วและขอบเขตของกิจกรรมได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของพรรคและรัฐเวียดนามในการนำการทูตกลายเป็นก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับสถานะของเวียดนามและเปิดศักยภาพใหม่ให้แก่การพัฒนาดั่งคำยืนยันของนาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามว่า

“หน่วยงานการทูตได้ปฏิบัติตามแนวทางการต่างประเทศของพรรคและรัฐ ส่งเสริมอัตลักษณ์ เกาะติดสถานการณ์ของโลกและภูมิภาคอย่างใกล้ชิด มีความคล่องตัวและมีความคิดส้างสรรค์ในการวางแผนและแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อใช้โอกาสและยุติความท้าทายเพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงไปด้วยดี”

ใน 8 เดือนที่ผ่านมา เวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์กับ 13 ประเทศและลงนามข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีกว่า 300 ฉบับ ซึ่งมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การทูตเชิงเศรษฐกิจได้ช่วยให้จีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.52 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า การทูตเวียดนามนับวันมีคุณภาพ มุ่งสู่คำมั่นระยะยาวและประสบความสำเร็จในระดับสูง นอกจากนี้ เวียดนามยังกลายเป็นจุดหมายปลายทางเชิงยุทธศาสตร์ในกรอบความร่วมมือระหว่างทวีปต่างๆ โดยบรรดาประเทศมหาอำนาจและหุ้นส่วนต่าง ๆสามารถส่งเสริมเสถียรภาพ โอกาสและมีเสียงพูดที่เท่าเทียมกันในโลกที่กำลังแบ่งแยกออกเป็นหลายขั้ว

ในศักราชแห่งการผงาด การทูตเวียดนามจะส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้เดินหน้า เปิดเส้นทางเพื่อแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชาติกับโลกและยุคสมัย เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือผลประโยชน์ของประชาชาติและประเทศ ดั่งคำยืนยันของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ว่า 

“ต้องธำรงทัศนะเกี่ยวกับเอกราชและการพึ่งตนเองในกิจกรรมการต่างประเทศ โดยถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเหนือกว่าสิ่งใด เราจะไม่พึ่งพาใครและไม่ปล่อยให้ถูกยุยงปลุกปั่นให้เข้ากระแสต่างๆ ของโลก เกียรติประวัติของเวียดนามคือ มีเพื่อนมากดีกว่าและร่ำรวยกว่า ดังนั้น เราจะมีเพื่อนอีกมากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นประเทศเล็กหรือห่างไกลเราก็ตาม”

บทเรียนด้านการทูตเกี่ยวกับการยืนหยัดหลักการและความคล่องตัวในด้านนโยบายตามแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อยืนหยัดเป้าหมายและการไกล่เกลี่ยนั้นได้รับการปฏิบัติอย่างคล่องตัวในยุคใหม่ของเวียดนามในตลอด 80 ปีที่ผ่านมา.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด