การพัฒนาสถานประกอบการคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ

แนวทางของพรรคสำหรับสถานประกอบการภาครัฐคือผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างสถานประกอบการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารและแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนตามรูปแบบที่ทันสมัยของประเทศต่างๆในโลก

ผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้เผยว่า พรรคและรัฐบาลตระหนักได้ดีว่า ในช่วงนี้ ถ้าไม่ปฏิบัตินโยบายแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน ก็จะส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจ ดร.เจิ่นยูหลิก อดีตรองหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ได้เผยว่า“พวกเรากำลังปรับปรุงกลไกบริหารภาครัฐเพื่อเอื้อให้แก่การพัฒนาสถานประกอบการ ซึ่งนี่คือสัญญาณที่น่ายินดี สำหรับบทบาทการบริหารเศรษฐกิจของรัฐนั้นกว้างมาก การปฏิรูปโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐได้รับการปฏิบัติมาเป็นเวลาหลายสิบปี ขณะนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกำหนดบทบาทของสถานประกอบการภาครัฐอย่างเหมาะสม”

ปัจจุบัน เวียดนามมีสถานประกอบการภาครัฐกว่า 700 แห่ง ซึ่งมี 2 มาตรการเพื่อแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านหนึ่งคือพัฒนากลุ่มบริษัทการลงทุนและทำธุรกรรมด้านการเงินแห่งรัฐ หรือ SCIC ให้เป็นกลุ่มบริษัทใหญ่และบริหารทรัพย์สินของรัฐ อีกด้านหนึ่งคือจัดตั้งสำนักงานของรับฐาลที่บริหารสถานประกอบการภาครัฐส่วนที่เหลือ ดร.หวูแถ่งตือแอง ผู้อำนวยการโครงการสอนสาขาเศรษฐศาสตร์ Fulbright ณ นครโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า“เงื่อนไขอันดับแรกของการปรับปรุงสถานประกอบการภาครัฐคือลดจำนวนสถานประกอบการลงเหลือ 15 – 30 แห่งเพื่อจัดการบริหารให้งมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่สอง รัฐจะปฏิบัติตามหลักการคงสถานประกอบการจำนวนหนึ่ง สำหรับสถานประกอบการที่เหลือจะแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนเพื่อทำการปฏิรูปสถานประกอบการ”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เผยว่า สำหรับสถานประกอบการภาครัฐที่ประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องตรวจสอบกลไกและการบริหารจัดการเพื่อให้สถานประกอบการสามารถประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พลังขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายว่า จะมีสถานประกอบการ 1 ล้านแห่งภายในปี 2020

นาย โตหว่ายนาม รองประธานและเลขาธิการสมาคมสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเวียดนามได้เผยว่า การที่รัฐสภาได้อนุมัติร่างกฎหมายการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นการปฏิบัติมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 5 สมัยที่ 12 เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจอย่างเสมอภาคระหว่างสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ส่วนชมรมสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมมีความประสงค์ว่า จะสามารถเข้าถึงแหล่งพลังต่างๆ เช่น ที่ดินและเงินทุนเพื่อพัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ  นาย โตหว่ายนาม ยํ้าว่า“หวังว่า เมื่อกฎหมายการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมมีผลบังคับใช้ ท้องถิ่นต่างๆจะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและสนับสนุนสถานประกอบการมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีการระดมแหล่งพลังต่างๆในสังคมเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการพัฒนานวัตกรรมและเข้าร่วมห่วงโซ่การผลิต”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจยังเผยว่า การปฏิบัติมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 5 เกี่ยวกับการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนและกฎหมายการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจะช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เวียดนามสามารถบรรลุเป้าหมายมีสถานประกอบการ 1 ล้านแห่งที่ประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพภายในปี 2020 ตามแผนการที่วางไว้.