(VOVWORLD) - การที่กรมการเมืองพรรคได้ออกมติที่ 57-NQ/TW ว่าด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาตินั้นได้เปิดวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งสะท้อนความปรารถนาเกี่ยวกับการสร้างประเทศเวียดนามให้เข้มแข็งในยุคดิจิทัล สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากดำเนินการในระยะสั้นๆ การปฏิบัติมติดังกล่าวได้ประสบผลสำเร็จในเบื้องต้นทั้งในระดับส่วนกลางไปจนถึงระดับท้องถิ่น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันความมุ่งมั่นตั้งใจทางการเมืองเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแปลนโยบายใหญ่ๆ ของพรรคให้กลายเป็นความจริงอย่างมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันอีกด้วย
การปฏิบัติระเบียบราชการที่แขวง บั๊กก๋าน จังหวัดท้ายเงวียน (Vũ Hoàng Giang/TTXVN) |
จุดเด่นที่น่าจับตามองคือ จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมปี 2025 จังหวัดและนครทั้ง 34 แห่งทั่วประเทศได้เข้าสู่สถานะ “สีเขียว” บนแผนที่การติดตามของศูนย์บริหารของรัฐบาล (ที่เว็บไซต์: https://nq57.vn) ซึ่งหมายความว่า ท้องถิ่นต่าง ๆ ได้เสร็จสิ้นภารกิจหลักที่ต้องแล้วเสร็จก่อนกำหนดคือวันที่ 1 สิงหาคมปี 2025 อันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ความมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบในระดับสูงของทั้งระบบการเมืองและทางการท้องถิ่นทุกระดับ
มติที่ 57 – จากความมุ่งมั่นตั้งใจทางการเมืองไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน
หลังการประกาศ มติ 57 ท้องถิ่นต่าง ๆ ได้จัดตั้งคณะกรรมการชี้นำและหน่วยปฏิบัติเฉพาะกิจ รวมถึงออกเอกสารฉบับต่างๆ เพื่อแปรแนวทางนี้ให้กลายเป็นภารกิจที่เป็นรูปธรรม โดยจังหวัดกว๋างนิงห์ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่น ซึ่งไม่เพียงแต่ปรับโครงสร้างคณะกรรมการชี้นำให้มีความสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังออกเอกสารชี้นำกว่า 40 ฉบับ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่จังหวัดและท้องถิ่นต่างๆ ในจังหวัด โดยเฉพาะเพื่อดึงดูดการลงทุนมากขึ้น ทางการจังหวัดฯ ได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติอย่างพร้อมเพรียง ดึงดูดและพัฒนาแหล่งบุคคลที่มีคุณภาพสูงและฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ นาย หวูด๋ายทั้ง เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดกว๋างนิงห์กล่าวว่า
“ปัจจุบัน จังหวัดกว๋างนิงห์กำลังร่วมมือกับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี FPT เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การก่อสร้างศูนย์เศรษฐกิจดิจิทัลที่เมืองไฮฟองและประสานงานในด้านการศึกษาและการฝึกอบรม โดยเฉพาะในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย โดยอาศัยประสบการณ์ของ FPT ในด้านการศึกษาเชิงวิชาการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
ในขณะเดียวกัน นับตั้งแต่ต้นวาระปี 2021-2025 นครดานังได้กำหนดพัฒนาวิทยาศาสตร์ - เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเป็น 1 ใน 3 ก้าวกระโดดหลักที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายสร้างทางการปกครองตัวเมืองแบบอัจฉริยะ เพิ่มทักษะความสามารถในการแข่งขันและคุณภาพชีวิตของประชาชน นาย เหงวียนวันกว๋าง อดีตเลขาธิการพรรคสาขานครดานังกล่าวว่า นครดานังได้ประกาศโครงการปฏิบัติต่างๆ เพื่อแปรความมุ่งมั่นตั้งใจทางการเมืองให้เป็นการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดผ่านผลสำเร็จเบื้องต้นใน 3 ด้าน นั่นคือ การจัดทำระเบียบกลไกที่เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล นำดานังพัฒนาเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล
“นครดานังได้ดึงดูดแหล่งบุคคลคุณภาพสูงในหลายสาขา เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ อุตสาหกรรมสาขาอื่น ๆ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในนครดานังก็เป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้มแข็งของประเทศ ซึ่ง 3 ปัจจัยขั้นพื้นฐานนี้ได้เอื้อให้แก่การดำเนินมติที่ 57 ของกรมการเมืองพรรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในเบื้องต้น”
ส่วนที่นครโฮจิมินห์ ก็เร่งสอดแทรกปฏิบัติมตินี้เข้ากับยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์ศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น
จุดสว่างจากการปฏิบัติในความเป็นจริง
ไม่เพียงแต่อยู่ที่การจัดทำนโยบายเท่านั้น ในท้องถิ่นต่าง ๆ ยังสามารถเห็นผลสำเร็จที่น่ายินดีต่างๆ โดยที่นครโฮจิมินห์สามารถดึงดูดโครงการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น โครงการของกลุ่มบริษัท CMC รวมมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทเทคโนโลยีภายในประเทศได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิปตัวอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเวียดนามในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก การเชื่อมโยงในภูมิภาค การเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัย สถานประกอบการและท้องถิ่นก็มีขึ้นอย่างเข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในระดับตำบลและแขวงได้ช่วยให้ประชาชนปฏิบัติระเบียบราชการได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น
ถึงแม้เป็นผลสำเร็จในเบื้องต้น แต่ก็สามารถส่งสัญญาณที่ดีและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การปฏิรูปธรรมาภิบาลและการพัฒนาเศรษฐกิจ–สังคม แต่อย่างไรก็ตาม บนเส้นทางแห่งการปฏิบัติมติที่ 57 นั้น โดยพยายามให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกลายเป็นเสาหลักของการพัฒนายังคงเป็นเส้นทางที่ยาวไกลและเต็มไปด้วยความท้าทายต่างๆ สำหรับหน้าที่หลักในเวลาที่จะถึง นาย เหงียน ฮุย หยุง สมาชิกคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลได้เสนอว่า
“ผู้บริหารท้องถิ่น เลขาธิการพรรคสาขาและประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัด ได้กำชับโดยตรงให้ใช้ “nq57.vn” ทุกวันเพื่อเฝ้าติดตาม ตรวจพบอุปสรรคเพื่อแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เน้นการให้บริการสาธารณะออนไลน์รับใช้ประชาชนและสถานประกอบการ การเชื่อมโยงระหว่างเขตและเปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุน โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการจัดสรรแหล่งพลังได้อย่างเหมาะสมเพื่อดำเนินกิจการและโครงการสำคัญ ๆ”
มติที่ 57-NQ/TW ถือเป็นการเริ่มต้นของเส้นทางใหญ่โดยผลสำเร็จในเบื้องต้นจากท้องถิ่นต่าง ๆ ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า เวียดนามกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และในเวลาที่จะถึง ท้องถิ่น หน่วยงานและกระทรวงต่าง ๆ จะยังคงธำรงความก้าวหน้าที่รวดเร็วและยั่งยืนต่อไป เพื่อให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลกลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่นำประเทศเข้าสู่การพัฒนาในยุคใหม่.