(VOVWORLD) - ในเดือนกรกฎาคมทุกปี ประชาชนเวียดนามทุกคนต่างรำลึกและสำนึกในบุญคุณต่อผู้ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อเอกราช เสรีภาพและความสงบสุขของปิตุภูมิ โดยคติประจำใจของชาติเวียดนามคือ “ดื่มน้ำต้องรำลึกถึงแหล่งที่มาของน้ำ”เป็นเกียรติประวัติที่ดีงามและเป็นแหล่งพลังที่เข้มแข็งเพื่อให้ประชาชาติสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงและสร้างสรรค์ประเทศให้นับวันเจริญรุ่งเรืองและมีอารยธรรม
ประธานประเทศเลืองเยี่ยมเยือนและมอบของขวัญให้แก่ทหารทุพพลภาพและทหารผู้ป่วย ที่ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพทหารทุพพลภาพยวีเตียนในจังหวัดนิงบิ่ง |
พรรคและรัฐเวียดนามยึดมั่นแนวทางการชี้นำปฏิบัตินโยบายสำหรับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง โดยพรรค รัฐและประชาชนจดจำส่วนร่วมของผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเสมอ
ยึดมั่นแนวทางการชี้นำปฏิบัตินโยบายสำหรับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
ปัจจุบัน เวียดนามมีทหารพลีชีพเพื่อชาติกว่า 1.2 ล้านนาย มีผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและครอบครัวของผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง 9.2 ล้านคน โดยในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ประธานโฮจิมินห์เคยบอกว่า “สำหรับผู้ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อชาติ พรรค รัฐบาลและประชาชนต้องช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยและการฝึกสอนอาชีพเพื่อให้มีชีวิตที่มั่นคงและพึ่งตนเอง ส่วนสำหรับพ่อแม่และสมาชิกครอบครัวทหารทุพพลภาพและพลีชีพเพื่อชาติที่มีฐานะยากจนและไร้ที่พึ่ง ทางการท้องถิ่นต้องช่วยเหลือด้านงานทำเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว”
ทั้งนี้ ในตลอด 78 ปีที่ผ่านมา มีการประกาศใช้นโยบายให้สิทธิพิเศษต่างๆ เช่น มติที่ 14 ของคณะเลขาธิการกลางพรรคเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมปี 2017 เกี่ยวกับการเดินหน้าขยายการชี้นำของพรรคต่องานด้านผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองการปฏิวัติ มติที่ 42 ของคณะกรรมการกลางพรรคเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนปี 2023 เกี่ยวกับการเดินหน้าเปลี่ยนแปลงใหม่ ยกระดับนโยบายทางสังคมเพื่อตอบสนองความต้องการของภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในระยะใหม่ กฤษฎีกาเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ อันเป็นการยืนยันถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบและการแสดงความสำนึกในบุญคุณของประชาชน พรรคและรัฐต่อผู้ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อประเทศและประชาชน ในการเยี่ยมเยือนและมอบของขวัญให้แก่ทหารทุพพลภาพและทหารผู้ป่วย ที่ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพทหารทุพพลภาพยวีเตียนในจังหวัดนิงบิ่งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ประธานประเทศเลืองเกื่องได้กำชับว่า
“กระทรวง หน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่น รวมถึงกระทรวงกิจการภายในและจังหวัดนิงบิ่งต้องปฏิบัติมติต่างๆของพรรคเกี่ยวกับงานด้านผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นงานประจำในระยะยาวของทั้งระบบการเมืองและสังคม เดินหน้าทบทวนนโยบายในด้านนี้และเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆที่สอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศ”
ผลงานที่เป็นรูปธรรม
ในการปฏิบัตินโยบายสำหรับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง กิจกรรมตอบแทนบุญคุณและขบวนการ “ปวงชนดูแลครอบครัวทหารทุพพลภาพ ทหารพลีชีพเพื่อชาติและผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ” ได้สร้างแรงจูงใจและได้รับการสนับสนุนในทั่วประเทศ โดยในช่วงปี 2013-2024 สามารถเรี่ยไรเงินได้กว่า 345 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร 67,700 หลังและซ่อมแซมบ้านเกือบ 45,900 หลัง รวมมูลค่ากว่า 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มอบสมุดบัญชีเงินฝากกว่า 110,000 เล่ม รวมมูลค่า 17.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบาย ส่วนในการประชุมคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาบ้านชั่วคราวและบ้านทรุดโทรมทั่วประเทศเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับให้เร่งเสร็จสิ้นการก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านของครอบครัวผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติก่อนวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
“ทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจแก้ไขปัญหาบ้านชั่วคราวบ้านทรุดโทรม โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติและผู้ที่เสียสละเพื่อภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติและการสร้างสรรค์ประเทศ ซึ่งต้องเร่งทำให้เสร็จก่อนวันที่ 27 กรกฎาคม”
ภาพการพบปะกับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม |
ส่วนในการพบปะกับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ณ กรุงฮานอย นาย เลืองวันเมือด วีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชนได้แสดงความเห็นว่า
“พรรคและรัฐให้ความสนใจเอาใจใส่ผู้ที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อเอกราชของประชาชาติ โดยแม้จะประสบความลำบากในระยะต่างๆ แต่พรรคและรัฐยังคงให้ความสนใจดูแลเอาใจใส่ผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ ผู้ที่อยู่ในเป้านโยบาย ทหารทุพพลภาพและครอบครัวทหารพลีชีพเพื่อชาติ”
ประเทศเวียดนามกำลังพัฒนารุดหน้าอย่างเข้มแข็งและพร้อมย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ ซึ่งความสำนึกในบุญคุณและการตอบแทนบุญคุณของคนรุ่นก่อนเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการพัฒนาประเทศเวียดนาม.